คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
อนงค์ วงศ์ช่วย
เรื่อง/ภาพ
บ่ายโมงวันที่ 6 ม.ค. ร.ต.อ.นรินทร์ นิลวงศ์ รองสารวัต(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งมีผู้พบศพถูกหมกป่า ริมถนนเลียบคลองชล ประทาน ฝั่งตรงข้ามกับบานาน่ารีสอร์ท ใกล้กับชุมชนบ่อนไก่ ต.คอหงส์ อ.หาด ใหญ่ จ.สงขลา หลังรับแจ้งผู้กองนรินทร์รีบลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท. ฉัตรเฉลิม วันธงชัย สว.สส.สภ.หาดใหญ่ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) แพทย์เวรและกู้ภัยมูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่
ในที่เกิดเหตุพบศพสาวประเภทสอง อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบชื่อ ผิวคล้ำสภาพเปลือยท่อนบน สวมเพียงกางเกงในสีน้ำเงิน ส่วนเสื้อเกาะอกสีชมพูถูก รูดหลุดมาอยู่ใต้ราวนม ที่ใบหน้าและ ศีรษะมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งอย่างรุนแรง คราบเลือดเปรอะเต็มใบหน้าและ ศีรษะ แพทย์คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้ว ไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง หรือตั้งแต่กลางดึกของค่ำคืนที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพศพเริ่มเข็งและเลือดเริ่มแห้ง
จากการตรวจสอบบริเวณจุดเกิดเหตุ ตำรวจไม่พบหลักฐานหรือเอกสารที่สามารถระบุได้ว่าผู้ตายเป็นใคร รวมทั้งไม่พบทรัพย์สินมีค่าแต่อย่างใด แต่บริเวณจุดพบศพมีรอยเท้าซึ่งน่าจะเป็นรอยเท้าของคนร้าย ซึ่งมีอย่างน้อย 2 คนย้ำอยู่รอบๆ ศพ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะถูกชายหนุ่มคู่ขาที่เพิ่งรู้จักกันตามสถานบันเทิงในเมืองหาดใหญ่ ลวงมาฆ่าเพื่อชิงทรัพย์เมื่อคืนนี้ ชุดสืบสวนจึงนำภาพถ่ายใบหน้าของผู้ตายไปตรวจสอบหาเบาะแสว่าผู้ตายเป็นใคร เพื่อขยายผลไปสู่คนร้ายที่ก่อเหตุต่อไป
ตํารวจนำภาพถ่ายไล่ตรวจสอบตามสถานบันเทิง และแหล่งที่เหล่าบรรดาสาวประเภทสองชอบไปจับกลุ่มกันอยู่ จนสุดท้ายมีผู้จำได้ว่าผู้ตายชอบไปยืนจับแขก อยู่แถวสถานีรถไฟหาดใหญ่ ตำรวจไม่รอช้าตามไปสืบสวนต่อจนรู้ว่าคือ นายภูริวิชญ์ หรือ เก่ง ชนะสิทธิ์ อายุ 28 ปี โดยพักอยู่ที่บ้านเช่าย่านถนนรัตนวิบูลย์ ต.หาดใหญ่
ตำรวจนำภาพวงจรปิดภายในสถานีรถไฟในคืนก่อนพบศพ มาตรวจสอบจนเห็นภาพผู้ตายเดินอยู่ในสถานี ก่อนถูกชาย 2 คน ไล่จับและฉุดกระชากตัวออกไปจากสถานี ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นภาพใบหน้าของทั้งคู่อย่างชัดเจน
ใช้เวลาไม่นานก็รู้ว่าทั้งคู่เป็นพี่น้องกันชื่อ นายธราวิชญ์ หรือ โบ๊ท ศรีสวัสดิ์ อายุ 23 ปี นายธราวุฒิ หรือ บูม ศรีสวัสดิ์ อายุ 22 ปี สองพี่น้องชาว จ.ประจวบคีรี ขันธ์ โดยทั้งคู่เช่าบ้านเลขที่ 64/25 ถนนรัตนวิบูลย์ ต.หาดใหญ่ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับผู้ตายนั่นเอง
หลังได้หลักฐานมัดแน่น วันที่ 8 ม.ค. พล.ต.ต.สาคร ทองมุณี รรก.ผบช.ภาค 9 พ.ต.อ.ปรีดา เปี่ยมวารี รรก.ผบก.ภ. จ.สงขลา พ.ต.อ.กิตติชัย สังข์ถาวร ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.ท.เอกรัฐ สวนแสน รอง ผกก.สส. พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.6 บก.ป. พร้อมกับตำรวจชุดสืบสวนสภ.หาดใหญ่ และตำรวจกองปราบ ก็นำกำลังร่วมจับกุม นายธราวิชญ์ และนายธราวุฒิ ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 64/25 ถนนรัตนวิบูลย์ ต.หาดใหญ่ ดังกล่าว ก่อนนำตัวมาสอบสวนเครียดที่โรงพักหาดใหญ่
นายธราวิชย์ ซึ่งเป็นพี่ชายบอกว่า สาเหตุที่ลงมือทำร้าย ผู้ตาย ซึ่งเช่าบ้านอยู่ในละแวกเดียวกันและรู้จักกันเป็นอย่างดี เนื่องจากผู้ตายชอบขโมยของในบ้านทั้งเงินสดและโทรศัพท์มือถือหลายครั้ง ล่าสุดสร้อยคอทองคำของหลานสาวหายไป ซึ่งตนเชื่อว่าน่าจะต้องเป็นผู้ตายอย่างแน่นอนที่เป็นผู้เอาไป
“ในวันเกิดเหตุผมกับน้องชาย ไปอุ้มตัวมาจากหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ที่เขาไปยืนจับแขกอยู่ เพื่อมาสอบถามเรื่องที่ขโมยสร้อยคอของหลานสาว แต่เขาปฏิเสธไม่รู้ไม่เห็นอย่างเดียว ผมบันดาลโทสะเลยใช้ไม้เท้าค้ำยัน และไม่ถูพื้นกระหน่ำตีไม่ยั้งจนเขาแน่นิ่งไป จากนั้นผมกับน้องช่วยนำร่างเขาขึ้นรถจักรยานยนต์สามล้อพ่วงข้าง เอาไปโยนทิ้งในป่าโดยที่ไม่รู้ว่าเขาตายหรือยัง จนมาทราบภายหลังว่าเขาเสียชีวิตแล้ว” นายธราวิชย์กล่าว
เมื่อได้คำสารภาพครบถ้วนชัดเจน ตำรวจนำตัวทั้งคู่ไปทำแผนประทุษกรรม ประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกที่บริเวณถนนหน้าสถานีรถไฟหาดใหญ่ ซึ่งเป็นจุดที่ทั้งสองคนอุ้มผู้ตายขึ้นรถจักรยานยนต์ จุดที่สองบริเวณหน้าบ้านเลขที่ 64/25 ถนนรัตนวิบูลย์ ที่นำผู้ตายไปเคลียร์ปัญหาและลงมือทำร้ายจน แน่นิ่ง และจุดที่สามเป็นจุดที่นำร่างของผู้ตายไปทิ้งในป่าก่อนปล่อยทิ้งให้เสียชีวิต
ตำรวจแจ้งข้อหาทั้งสองคน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” นอกจากนี้ยังได้กันตัววัยรุ่นอีก 1 คนที่ร่วมกันก่อเหตุไว้เป็นพยาน
