คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
อดิศร จิตตเสวี, สุรัตน์ สรรพคุณ
เรื่อง/ภาพ
เช้าวันที่ 2 ม.ค. แม้นจะยังเป็นวันหยุดราชการ แต่อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กลับมีเจ้าหน้าที่เดินเข้าออกอย่างพลุกพล่านบรรยากาศสับสนวุ่นวาย โดยเฉพาะบริเวณที่ห้องศูนย์ประนอมข้อพิพาทชั้น 7 ศูนย์พักความเเละบริหารงานคดีชั้น 9 เเละบริเวณห้องพักผู้พิพากษาชั้น 10 ความวุ่นวายดังกล่าวเกิดเนื่องจากมีคนร้ายบุกเข้าไปงัดแงะโต๊ะทำงานเจ้าหน้าที่ตามห้องต่างๆ ก่อนรื้อค้นทรัพย์สินหายไปจำนวนหลายรายการ
ร.ต.ท.ศรสิรัศฐิ์ นิยมรส รองสว.(สอบสวน) สน.พหลโยธิน รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ ก่อนรีบไปตรวจสอบพบว่าคนร้ายได้ทรัพย์สิน เป็นสร้อยข้อมือทองคำหนัก 1 บาท และเงินสด 4,000 บาท มูลค่าประมาณ 24,000 บาทไ ปโดยคาดว่าเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตรสาทร ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า ได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อเก็บลายนิ้วมือแฝง ขณะเดียวกันได้ให้ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในและบริเวณที่เกิดเหตุทั้งหมด แต่พบว่ากล้องเสียทุกตัว จึงไม่สามารถบันทึกภาพได้
ตำรวจพบว่าคนร้ายเข้ามางัดลิ้นชักบริเวณศูนย์หน้าบัลลังก์ชั้น 9 พบว่าชั้น 9 ถูกรื้อค้น 3 ห้อง ตำรวจตรวจสอบชั้น 10 พบว่าถูกคนร้ายรื้อค้นจำนวน 1 ห้อง จากการตรวจสอบเบื้องต้นทั้งสองชั้นไม่มีทรัพย์สินใดๆ สูญหาย
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบพบว่าในห้องที่เกิดเหตุบนชั้น 7 พบโต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่หลายคน แต่มีเพียงโต๊ะทำงานของเจ้าหน้าที่คนเดียวเท่านั้นที่ถูกรื้อค้น และมีทรัพย์สินสูญหาย โดยไม่มีเอกสารสำคัญสูญหายแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีเบื้องต้นคาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่เคยเข้าออก เนื่องจากห้องดังกล่าวต้องใช้คีย์การ์ดในการเข้าออก
ต่อมานายสุภัทร์ สุทธิมนัส อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา กล่าวว่า เรื่องที่คนร้ายสามารถผ่านเข้าประตูไปยังจุดต่างๆ ได้อย่างไร จะใช่คีย์การ์ดของเจ้าหน้าที่หรือไม่ ขณะนี้กำลังรอรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยนั้น ปกติศาลอาญาวางกำลังตลอด 24 ชั่วโมงอยู่เเล้ว เเต่อาจเป็นเพราะเป็นช่วงวันหยุดหลายวัน คนร้ายที่จ้องรอโอกาสอยู่เเล้วก็เข้ามาก่อเหตุ
ส่วนที่ว่าคนร้ายจะมีจุดมุ่งหมายเข้ามาโจรกรรมสำนวนคดีหรือไม่ ยังไม่ทราบรายละเอียดต้องรอรายงานเข้ามา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สันนิษฐานในเบื้องต้นว่า คนร้ายลักลอบเข้ามาในอาคารศาลอาญา ผ่านเข้าประตู โดยอาจใช้คีย์การ์ดของเจ้าหน้าที่ที่ทำสูญหาย
หลังเกิดเหตุ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. นายเจริญวิทย์ เกื้อทิพย์ รองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา และพนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ร่วมตรวจที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งสอบปากคำเจ้าของทรัพย์สิน
ในเมื่อกล้องวงจรปิดภายในอาคารไม่สามารถใช้งานได้ ตำรวจจึงเปลี่ยนเป้าหมายไปที่กล้องวงจรปิดในบริเวณโดยรอบ โดยเฉพาะที่บริเวณซอยด้านข้างศาลอาญาหรือที่เรียกว่าซอยซ่องโจร ที่คาดว่าเป็นจุดที่คนร้ายจะปีนเข้าและออกภายในศาล
ตำรวจไม่ผิดหวังเมื่อพบหมวกไหมพรมตกอยู่ริมถนน ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นของคนร้าย อีกทั้งเมื่อไล่ภาพวงจรปิดตามถนน ก็พบภาพชายต้องสงสัยขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นคลิก สีเขียว-ดำ ทะเบียน ลยล 400 กรุงเทพมหานคร ผ่านมาในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ ชุดสืบสวนไล่ติดตามไปจนพบว่าหายเข้าไปในชุมชนใต้สะพานบางบัว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม.
ตำรวจลงพื้นที่ตรวจสอบ จนรู้ว่ารถคันดังกล่าวเป็นของนายวราพงษ์ สอนน่วม อายุ 37 ปี เมื่อตรวจสอบประวัติก็พบว่านายวราพงษ์มีหมายจับคดีลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในสถานที่ราชการ โดยก่อเหตุลักทรัพย์ตู้บริจาคจากศาลอุทธรณ์ เมื่อปี 2554
ตร.ยังพบอีกว่า นายวราพงษ์เป็นอดีตพ่อบ้านที่ทำงานในศาลอุทธรณ์ มาตั้งแต่ปี 2547 จึงคุ้นเคยเส้นทางภายในศาลอาญาเป็นอย่างดี
เที่ยงวันที่ 11 ม.ค. ที่สน.พหลโยธิน พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พล.ต.ต. สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รรท.รองผบช.น. พ.ต.อ.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รรท.ผบก.น.2 พ.ต.อ.คมศักดิ์ สุมังเกษตร รองผบก.น.2 พ.ต.อ.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผกก.สส.บก.น.2 พ.ต.อ.ณรัช มูลศาสตรสาทร ผกก.สน.พหลโยธิน ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม นายวราพงษ์ พร้อมของกลาง สร้อยคอ 50 สตางค์ สร้อยข้อมือ ปลากระป๋องจำนวน 4 กระป๋อง วิทยุสื่อสารยี่ห้อเคนวู้ด 1 เครื่อง กระเป๋าสะพายข้าง 2 ใบ รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นคลิก สีเขียว-ดำ ทะเบียน ลยล 400 กรุงเทพมหานคร เสื้อผ้าและอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุ ภายหลังชุดสืบสวนติดตามจับกุมตัวได้ ที่หน้าเพิงพักไม่มีเลขที่ ใต้สะพานบางบัว แขวงลาดยาว เขตจตุจักร
นายวราพงษ์รับสารภาพว่า เป็นเป็นผู้ก่อเหตุจริง โดยขณะนั้นเมาสุราและเสพไอซ์เข้าไป ทำให้จำรายละเอียดตอนก่อเหตุไม่ได้ ตนประกอบอาชีพรับจ้างเข็นของที่ตลาด แต่ตอนนี้ไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร ช่วงวันเกิดเหตุแอบเข้าไปในศาลอาญา ก่อนจะหยิบของทุกอย่างที่หยิบได้ และนำของไปขายเพื่อนำเงินที่ได้มาเสพยา และใช้จ่ายส่วนตัว
ภายหลังการแถลงข่าวเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ทั้งจุดที่ปีนเข้า-ออกศาล และภายในอาคารศาลอาญา ก่อนนำตัวส่งดำเนินการคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
คดีเก่ายังคาอยู่ ยังย่ามใจย้อนมาก่อคดีซ้ำอีก เลยเจอทบต้น ทบดอก ยาวแน่นคราวนี้
