สดสนามข่าว : ตามบิ๊กโจ๊กทลายแก๊งแสบ ยัดเยียดพัสดุเก็บปลายทาง 3 เดือน-ฟันยอดเงิน 15 ล้าน
โดย นพรัตน์ คุ้มศรี เรื่อง/ภาพ
กระแสช็อปปิ้งออนไลน์เทรนที่ฮิตกัน ทั่วโลก นอกจากจะสร้างให้พ่อค้าแม่ค้าหน้าใหม่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด ยังมีธุรกิจขนส่งสินค้าที่ขยายตัวขึ้นหลายเท่าตัว จากที่มีอยู่เพียงไม่กี่เจ้า ทุกวันนี้บริษัทขนส่งสินค้าของเอกชนมีอยู่แทบจะทั่วเมือง
วิธีการเก็บเงินปลายทาง ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ธุรกิจค้าขายออนไลน์เติบโตขึ้น เนื่องจากบางคนยังไม่ไว้ใจที่จะโอนเงินค่าสินค้าไปก่อน จึงเลือกใช้วิธีนี้แทน
บิ๊กโจ๊ก นำตรวจค้น
แต่เหล่ามิจฉาชีพ ก็ย่อมเห็นช่องทางหากินกับการสั่งของทางออนไลน์เช่นกัน ที่ผ่านมาจึงมีผู้ตกเป็นเหยื่อ ทั้งไม่ได้สินค้า ได้สินค้าไม่ตรงกับที่สั่งและอื่นๆ จนมีการแจ้งความกันจับกุมกันอยู่เนืองๆ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท. พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภาค 1 ร่วมกันนำกำลังตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว และสภ.คลองหลวง
เข้าตรวจค้นโกดังเลขที่ 42/12 หมู่ 8 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังมีประชาชนจำนวนมากได้ร้องเรียนผ่านทางเพจ ‘สุรเชษฐ์ หักพาล’ ว่าได้รับความเดือนร้อน จากการที่มีพัสดุเก็บเงินปลายทางส่งมาถึงตน โดยที่ตนไม่ได้สั่งสินค้า และบุคคลในครอบครัว หรือเพื่อนร่วมงานหลงเชื่อ ว่ามีการสั่งสินค้าและได้ชำระเงินแทนไปก่อน ทำให้เกิดความเดือดร้อนและความเสียหายโดยมีผู้หลงเชื่อชำระเงินไปเป็นจำนวนมาก ได้รับความเดือนร้อนจากแก๊งส่งพัสดุเก็บเงินปลายทาง ซ้ำร้ายพอเปิดกล่องดูก็พบกับสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ตรวจของกลาง
จึงสืบสวนจนทราบว่า แก๊งมิจฉาชีพดังกล่าว มีชาวจีน 3 ราย เป็นตัวการ จึงได้นำกำลังเข้าจับกุม พร้อมขยายผลจนทราบว่าทั้งหมด นำสินค้ามาเก็บไว้ที่โกดังแห่งนี้ จึงนำกำลังตำรวจเข้าตรวจค้น
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สนธิกำลังสืบสวนจับกุม นายชาง จูนคิม นายดิงมาน หวัง และ นายไล ฮอง จิง ชาวจีน 3 ราย ตามหมายจับศาลอาญา ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน” โดยมีพฤติกรรมเป็นแก๊งยัดเยียดส่งพัสดุเก็บปลายทาง ขณะกำลังทำงานอยู่ในบ้าน
จากนั้นขยายผลขอศาลออกหมายค้น 3 จุด คือโกดังเก็บสินค้า เลขที่ 42/12 แห่งนี้ พบของกลางประกอบด้วย เครื่องสำอาง 5,026 ชิ้น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ 1,202 ชิ้น รองเท้า เสื้อผ้า 545 ชิ้น ของใช้เบ็ดเตล็ด 614 ชิ้น และสินค้าบรรจุหีบห่อพัสดุ 714 ชิ้น รวมของกลางกว่า 8,400 ชิ้น
รองเท้าละเมิดลิขสิทธิ์
กล่องรองเท้าปลอม
จุดที่ 2 บ้านเลขที่ 153/2 8 หมู่ 1 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี และบ้านเลขที่ 23/39 หมู่ 11 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ซึ่งของที่พบจำนวนหนึ่ง เป็นสินค้าที่ถูกตีกลับ เนื่องจากผู้รับสินค้าปฏิเสธการรับ การชำระเงินปลายทาง เพราะไม่ได้สั่งสินค้า
และสินค้าเกือบทั้งหมดที่ถูกตรวจพบนั้น เป็นสินค้ายังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ และเครื่องหมายการค้า เครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง ยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา สินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมทั้งสินค้าที่ไม่ปรากฏฉลากกำกับ
โกดังที่เกิดเหตุ
บิ๊กโจ๊กเปิดเผยต่อว่า จากการตรวจสอบยังพบว่าผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย เข้าประเทศโดยการใช้วีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว แต่มีพฤติกรรมหลอกลวงยัดเยียดส่งพัสดุเก็บเงินปลายทางมาเป็นระยะเวลา 3 เดือน และมีผู้ถูกหลอกลวงหลายพันราย มีเงินหมุนเวียนในบัญชีมากกว่า 15 ล้านบาท จึงได้จับกุมและแจ้งข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนมีโทษจำคุก 6 เดือนถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 1,000 ถึง 14,000 บาท เป็นบุคคลต่างด้าวทํางานโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับตั้งแต่สองพันถึง 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ยังมีข้อหาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ซื้อหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยนำเข้ามาใน ราชอาณาจักรที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร ขายเครื่องสำอางที่มิได้จดแจ้ง ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ขายยาที่มิได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา
ซึ่งข้อหาทั้งหมดนี้จะได้ร่วมกับสำนักงานอาหารและยา และกรมศุลกากรเพื่อตรวจสอบดำเนินคดีต่อไป โดยขณะนี้จะนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมกับของกลาง นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง เพื่อดำเนินคดีต่อไป
หากไม่อยากตกเป็นเหยื่อของแก๊งแสบนี้ ต้องบอกญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงานไว้เลยว่า หากไม่ได้แจ้งไว้ ห้ามรับพัสดุเก็บเงินปลายทางแทนอย่างเด็ดขาด
อ่านสดจากสนามข่าวเรื่องอื่นๆได้ที่
ผ่าคดีหมอสูติฯฉาว คลี่ปมข่มขืนคนไข้ ‘อัจฉริยะ’ลุยพิสูจน์ จี้แพทยสภาลงดาบ
