สดจากสนามข่าว : โจรห้าวบุกจี้ร้านทอง จนมุมประตูอัตโนมัติ รับหาเงินใช้หนี้พนัน

สดสนามข่าว : โจรห้าวบุกจี้ร้านทอง จนมุมประตูอัตโนมัติ รับหาเงินใช้หนี้พนัน

โจรห้าวบุกจี้ร้านทอง – สํานวนโบราณเปรียบเทียบไว้ว่า โจรปล้น 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว หมายถึง โจรเข้าขโมยของถึง 10 ครั้ง ก็ไม่สร้างความเสียหายเท่ากับไฟไหม้เพียงครั้งเดียว เพราะโจรปล้นนั้นสามารถเอาไปได้เพียงเงินทองและทรัพย์สินเท่านั้น ไม่สามารถนำตัวบ้านหรือทรัพย์สินขนาดใหญ่ไปได้ แต่ถ้าไฟไหม้ สามารถเผาผลาญทรัพย์สินได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ แม้กระทั่งตัวบ้าน

คุมตัวทำแผนฯ

แต่ไฟไหม้สิบครั้งก็ยังไม่เท่ากับการเล่นการพนัน ด้วยว่าไฟจะไหม้บ้านกี่รอบก็ตาม ก็ยังเหลือที่ดินเอาไว้ แต่ถ้าใครติดการพนันหรือโดนผีพนันเข้าสิง ท้ายสุดแล้วทรัพย์สินเหล่านี้จะถูกนำไปขายเพื่อเล่นการพนันหรือถูกยึดไปใช้หนี้จนหมดไม่เหลืออะไรเลย

เมื่อสิ้นเนื้อประดาตัว ความจำเป็นบีบบังคับ หลายรายจึงเลือกใช้วิธีลัดในการหาเงิน ลงมือก่อเหตุจี้–ปล้น จนสุดท้ายก็พาตัวเองระเห็จเข้าไปอยู่ในคุก ตัวอย่างล่าสุดเป็นกรณีของผีพนันหนุ่มชาวสุรินทร์ นามว่า ธนา อินทร์สำราญ ที่พาตัวเองไปถูกจับขังในร้านทองที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี จนถูกจับอย่างง่ายดาย

เมื่อวันที่ 26 พ.ย. ร.ต.อ.สินสมุทร บุญทัศนา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีคนร้ายถืออาวุธมีด หวังชิงทรัพย์ร้านทอง แต่ติดประตูอัตโนมัติ ถูกขังอยู่ในห้างทองแม่จรินทร์ สาขา 2 ตั้งอยู่ที่เลขที่ 33/24 ตลาดเตาถ่าน หมู่ 8 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

ภายหลังรับแจ้ง ผู้กองสินสมุทรรีบรายงานให้ พ.ต.อ.ชโลธร เปรมปรี ผกก.สภ.สัตหีบ พ.ต.ต.ธนา วิเศษชัย สว.สส.สภ.สัตหีบ รับทราบ ก่อนนำกำลังตำรวจชุดสืบสวน สายตรวจและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สัตหีบ รุดไปตรวจสอบ

ติดประตูออกไม่ได้

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในร้านทองดังกล่าว ซึ่งประตูถูกล็อกด้วยระบบอัตโนมัติ พบชายคนร้ายสวมหมวกไหมพรม นั่งคอตกขัดสมาธิติดอยู่ภายในร้านออกไปไหนไม่ได้ ใกล้กันพบมีดปลายแหลมที่ใช้ในการก่อเหตุ ซึ่งในขณะนั้นมี น.ส.รุ่งนภา พานอ่อน อายุ 25 ปี พนักงานร้านทอง ได้วิ่งหลบหนีไปซ่อนตัวอยู่หลังร้าน

ตำรวจจึงได้ปิดล้อมพื้นที่ไว้ รอนายรังสันต์ ธีรเวศย์สุวรรณ อายุ 59 ปี เจ้าของห้างทอง เดินทางมาเปิดประตูนิรภัยโดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จึงเข้าไปจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ โดยที่ไม่มีการขัดขืน

จากการสอบถาม น.ส.รุ่งนภากล่าวว่า ขณะอยู่ภายในร้ายจู่ๆ มีคนร้ายสวมไหมพรมและถือมีดพุ่งตรงเข้ามาในร้าน ก่อนจะเอามีดชี้มาที่หน้าตนและบอกให้ส่งสร้อยทองคำหนัก 5 บาทมาให้ ด้วยความกลัวจึงรีบวิ่งหนีไปหลบที่หลังร้าน และล็อกประตูทางเข้าหลังร้าน

นั่งจ๋อยจนมุม

เพราะคิดว่าคนร้ายคงต้องถูกขังอยู่ภายในร้านอย่างแน่นอน เนื่องจากถ้าไม่กดเปิดประตูให้ก็จะออกไปไม่ได้ จะต้องติดอยู่ภายในร้าน เนื่องจากเป็นระบบนิรภัยของทางร้าน ก่อนจะรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในทันที ซึ่งขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดได้บันทึกภาพการก่อเหตุได้อย่างชัดเจน

ขณะที่นายธนา คนร้ายให้การว่าขี่รถจักรยานยนต์มาจอดบริเวณหลังร้านทองเพื่อเตรียมก่อเหตุ ก่อนจะถือมีดสวมหมวกไหมพรม เสื้อแขนยาวกางเกงขายาว เพื่อปกปิดรูปพรรณของตน ป้องกันตำรวจติดตามจับกุมหลังก่อเหตุ แต่เจ้าตัวไม่ทันคิดว่าร้านทองจะมีระบบประตูนิรภัย ทำให้ถูกขังไว้ข้างในออกมาไม่ได้ จนต้องยอมให้ตำรวจจับกุมแต่โดยดี

แสดงท่านั่งรอตำรวย

ส่วนแรงจูงใจที่ให้ลงมือก่อเหตุ เจ้าตัวให้การว่าเพราะต้องการหาเงินไปใช้หนี้สินที่ยืมเพื่อนมา เนื่องจากติดพนันออนไลน์งอมแงมทำให้หมดเนื้อหมดตัว จึงตัดสินใจด้วยอารมณ์ชั่ววูบ และเมื่อรู้ว่าประตูร้านปิดอัตโนมัติกระจกแข็งแรงมาก จึงยอมจำนนให้ตำรวจจับ พร้อมกับขอโทษเจ้าของร้าน และเตือนผู้ที่จะกระทำในลักษณะเช่นนี้อย่าทำเลย ไม่รอดถูกตำรวจจับอย่างแน่นอน

คุมไปตรวจยึดของกลางขณะถูกตร.ควบคุมตัว

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหา “พยายามชิงทรัพย์โดยมีอาวุธมีด, พกพาอาวุธมีดไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควรหรือพาไปในชุมนุมชน” ก่อนส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อีกหนึ่งตัวอย่างที่พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ว่า พิษภัยการพนันนั้น มีความร้ายกาจยิ่งกว่าไฟไหม้

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล เรื่อง/ภาพ