สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีแก๊งสีกากีอุ้มฆ่า มัดมือเท้าจ่อยิงหนุ่ม 17 ศาลลงโทษถึงประหาร

สดจากสนามข่าว : ย้อนคดีแก๊งสีกากีอุ้มฆ่าเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ศาลจังหวัดตรังอ่าน คำตัดสินศาลชั้นต้น ให้ลงโทษประหารชีวิตและจำคุกตลอดชีวิตแก๊งคนร้ายร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่า นายนเรนทร์ฤทธิ์ สุวรรณโณ หรือ น้องบาส อายุ 17 ปี

สดจากสนามข่าว

คลองที่พบศพ

น้องบาสถูจ่อยิงที่ศีรษะ ก่อนลากศพลงทิ้งใต้น้ำ เหตุเกิดบนสะพานคลอง ลำภูรา ม.1 ต.น้ำผุด อ.เมืองตรัง เมื่อวันที่ 26 ก.ย.60

คดีนี้เป็นที่สนใจของคนทั่วประเทศ เนื่องจากผู้ก่อเหตุส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยมีผู้บงการเป็นถึงระดับผู้กำกับตำรวจ

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 26 ก.ย.60 พ.ต.ต.โอภาส ไชยบุญ สว.สส.สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งมีชาวบ้านพบกองเลือดปนมันสมองอยู่บนสะพานบ้านลำแพะ-คลองลำภูรา เขตรอยต่อระหว่าง ม.1 บ้านน้ำผุด อ.เมืองตรัง กับ ม.2 บ้านลำแพะ ต.ปากแจ่ม อ.ห้วยยอด

จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.อาคม บัวทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ ผกก.สภ.เมืองตรัง นำกำลังชุดสืบสวน และพิสูจน์หลักฐาน จ.ตรัง หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง ตรวจสอบที่เกิดเหตุ

สดจากสนามข่าว

ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ

พบบนพื้นสะพานคอนกรีตพบกองเลือดปนมันสมอง และมีรอยลากเป็นทางยาวไปถึงขอบราวสะพานลักษณะผลักทิ้งลงน้ำ ใกล้กันพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ตกอยู่ 1 ปลอก

ต่อมาประสานไปยังชุดประดาน้ำ หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง และประสานเรือล่องแก่ง 2 ลำ ค้นหาในแม่น้ำนานนับชั่วโมง จึงพบร่างผู้ตาย ทราบชื่อ นายนเรนทร์ฤทธิ์ สุวรรณโณ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.6 ชาว อ.เทพา จ.สงขลา พบบาดแผลถูกยิงตรงกลางหน้าผากด้วยกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. 1 นัด กระสุนทะลุออกศีรษะด้านหลัง ข้อมือถูกจับมัดไพล่หลังและเท้าทั้งสองข้างถูกมัด

สดจากสนามข่าว

สดจากสนามข่าว

บรรดาผู้ต้องหา

 

ตำรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เมื่อเวลา 04.00 น. มีรถกระบะมาจอดบนสะพาน จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด ก่อนขับรถออกไปอย่างรวดเร็วไปทาง อ.ห้วยยอด

ขณะที่ญาติผู้เสียชีวิตแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ห้วยปลิง อ.เทพา จ.สงขลา และพบประเด็นเชื่อมโยงนำไปสู่การสังหาร ทราบว่าก่อนหายตัวไปโทรศัพท์นัดพบแฟนสาวอายุไล่เลี่ยกัน โดยทราบจากญาติผู้ตายว่า ฝ่ายครอบครัวแฟนสาวไม่ค่อยพอใจอยู่ก่อนแล้ว

ชุดสืบสวนตามไปเค้นสอบ นายวิชาญ หนูสีคง อายุ 53 ปี พ่อของแฟนสาวของ ผู้ตาย จนรับสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือทำร้ายนายนเรนทร์ฤทธิ์จนเสียชีวิต ก่อนนำศพไปทิ้งหลังจับได้ว่าแอบปีนเข้าหาลูกสาวที่ห้องนอน

แต่คำให้การของนายวิชาญยังมีพิรุธหลายจุดคล้ายปกป้อง ใครอยู่ ตำรวจจึงเค้นสอบอย่างหนัก รวมทั้งสืบสวนหาพยาน หลักฐานจนสามารถเชื่อมโยงไปถึง พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ ผกก.อก.ภ.จว.ยะลา ซึ่งเป็นญาติกัน

ก่อนขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ต้องหาอีก 5 ราย ประกอบด้วย พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ อายุ 48 ปี, นายวิเวท ไชยชนะ อายุ 45 ปี น้องชาย พ.ต.อ.รัฐระวี, ด.ต.อนันต์ จันทร์คง อายุ 48 ปี, ด.ต.ชัยธวัช หรือสายัญ กิตติเวชวรกุล อายุ 48 ปี และ นายศักดิ์นรินทร์ หรือโอ อายุ 30 ปี

สำหรับโดยสาเหตุคดีนี้ เกิดขึ้นเนื่องจากผู้ตายแอบปีนบ้านมาหาแฟนสาว ก่อนถูกพ่อของแฟนสาวและพวกจับได้ แล้วมัดตัวผู้ตายไว้ในบ้าน ก่อนโทร.เรียก พ.ต.อ.รัฐระวี ซึ่งเป็นญาติให้มาหาที่บ้าน พร้อมตำรวจอีก 2 คน จากนั้นได้รุมซ้อมผู้ตายที่โดนจับมัดไว้ ก่อนยิงเสียชีวิต และอุ้มร่างใส่รถแล้วนำไปโยนทิ้งคลองหวังอำพรางคดี

กระทั่งเมื่อวันที่ 10 ต.ค.60 ผู้ต้องหาทั้ง 5 ราย ได้ถูกนำตัวมาที่ จ.ตรัง แยกตัวกันสอบสวน พร้อมแจ้ง 5 ข้อหา คือ ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาไตร่ตรอง มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และซ่อนเร้นศพ

ต่อมาทั้งหมดได้ยื่นขอประกันตัวใช้หลักทรัพย์เป็นเงินสดรายละ 5 แสนบาท ปรากฏว่าศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเห็นว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์โหดเหี้ยม มีการวางแผนทำงานกันเป็นทีม และเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เกรงจะส่งผลกระทบต่อรูปคดี และประจักษ์พยาน ก่อนนำตัวส่งเข้าเรือนจำจังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 11 ต.ค. ที่ผ่านมา

สดจากสนามข่าว

ญาติผู้ตายรอความเป็นธรรม

ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี ฝ่ายของ ผู้ต้องหา และฝ่ายญาติของผู้เสียชีวิต ต่างก็มีการต่อสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม กระทั่งเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ศาลจังหวัดตรังได้อ่านคำพิพากษาคดี

ศาลชั้นต้นพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ด.ต.อนันต์ จันทร์คง สังกัด บก.ภ.จว.สงขลา จำเลยที่ 1 ด.ต.ชัยธวัช หรือ สายัญ กิตติเวชวรกุล สังกัด บก.ภ.จว.ตรัง จำเลยที่ 2 นายศักดิ์นรินทร์ หรือ โอ อ่อนช่วย จำเลยที่ 3 กระทำผิดตามฟ้อง ลงโทษตัดสินประหารชีวิต

ส่วน นายวิชาญ หนูสีคง จำเลยที่ 4 นายวิเวท ไชยชนะ จำเลยที่ 5 และ พ.ต.อ.รัฐระวี ไชยชนะ ผกก.อก.ภ.จว.ยะลา จำเลยที่ 6 กระทำผิดฐานย้ายศพเพื่อปิดบังเหตุแห่งการตาย ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต

เชื่อว่าคำตัดสินของศาลน่าจะช่วยเยียวยาจิตใจของครอบครัวน้องบาสได้ไม่มากก็น้อย แต่คดีนี้จำเลยยังมีสิทธิ์ยื่นอุทธรณ์ได้ตามกฎหมาย คงต้องจับตาดูกันต่อไป

โดย เมธี เมืองแก้ว
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน