ย้อนคดี‘เสก โลโซ’ปี61 ตัดสินยิง 10 นัด-ข่มขู่จนท. จนถึงป่วย-ไลฟ์มาราธอน

ย้อนคดี‘เสก โลโซ’ปี61 : ในรอบปี 2561 ที่ผ่านมา ชื่อของร็อกสตาร์คนดัง อย่าง ‘เสก โลโซ’ กลายเป็นข่าวครึกโครมและเป็นที่จับตาของสังคมหลายต่อหลายเหตุการณ์

เริ่มจากเหตุการณ์เมื่อปลายปี 2560 ต่อเนื่องต้นปี 2561 เมื่อ ร็อกเกอร์คนดังรัวปืนยิงขึ้นฟ้านับ 10 นัด ภายในงานคอนเสิร์ตที่วัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช แถมยังไลฟ์ เฟซบุ๊กภายในบ้านลักษณะยั่วยุและมีอาวุธปืนด้วย

จนนำมาตำรวจต้องเปิดปฏิบัติการเข้าชาร์จล็อกตัว ‘เสก โลโซ’ ในบ้าน ก่อนโดนแจ้งข้อหาหนัก และศาลมีคำพิพากษาตัดสินทั้ง 2 คดี

เหตุการณ์ในรอบปีของร็อกสตาร์คนดังยังไม่จบเพียงแค่นั้น โดยช่วงกลางปี 2561 ‘เสก โลโซ’ ยังไลฟ์ เฟซบุ๊กมาราธอนแบบข้ามวันข้ามคืน ทำให้ครอบครัวต้องวางแผนอุ้มพาตัวนักร้อง ดังไปส่งโรงพยาบาล เพื่อไปรักษาอาการป่วยไบโพลาร์

ทำให้ตลอดรอบปีที่ผ่านมา ชื่อของร็อกสตาร์ ‘เสก โลโซ’ กลายเป็นข่าวดังและเป็นที่จับตาของสังคม

ย้อนคดีชาร์จ

จับ‘เสก โลโซ’คาบ้าน

จุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ ‘เสก โลโซ’ เริ่มจาก ช่วงค่ำวันที่ 28 ธ.ค. 2560 ต่อเนื่องรุ่งเช้าวันที่ 29 ธ.ค. 2560 ซึ่งเป็นวันตากสิน ‘เสก’ นำคณะไปเล่นคอนเสิร์ตที่วัดเขาขุนพนม อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ก่อนก่อเหตุยิงปืนขึ้นฟ้านับสิบนัด ทำให้ถูกแจ้งความดำเนินคดีและออกหมายจับ พร้อมตามแกะรอยนักร้องดังที่หายตัวไป

กระทั่งพบกบดานอยู่กับบ้านพักใน กทม. แถมยังไลฟ์เฟซบุ๊กโชว์แฟนเพจในลักษณะยั่วยุ

ทำให้ตำรวจออกหมายจับใน 3 ข้อหา คือ มีอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันสมควร และไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิด โดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมนุมชน

ตามมาด้วยการระดมกำลังตำรวจเข้าจับกุม นำทีมโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.

แต่ร็อกสตาร์คนดังไม่มีทีท่าจะยอมจำนนแต่โดยดี ท่ามกลางสถานการณ์ที่ตรึงเครียดและความพร้อมของหน่วยอรินทราช ที่จะเข้าชาร์จจับกุม

เสก โลโซ

ก่อนเริ่มปฏิบัติการสุดระทึกภายในบ้านศุขพิมาย เมื่อ เจ้าหน้าที่ใช้ค้อนปอนด์ทุบประตูและ สิ่งกีดขวางเข้าไป โดยเจอ เสก โลโซ ถือปืนขึ้นลำเตรียมยิง และอยู่กับแฟนสาว อีฟ อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์

ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเจรจาและไกล่เกลี่ยอยู่นาน สุดท้าย เสก โลโซ ยอมวางอาวุธและมอบตัวกับตำรวจโดยดี

จากนั้นคุมตัวไปไว้ที่ สน.คันนายาว พร้อมแจ้งข้อหาต่อสู้ ขัดขวางเจ้าพนักงาน และมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเพิ่มจากคดีที่ จ.นครศรีธรรมราช

เมื่อตรวจสอบยังพบเสกมีสารเสพติดในร่างกายด้วย

ก่อนนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดมีนบุรี พร้อมคัดค้านการประกันตัว โดยศาลให้ประกันตัว 1.5 แสนบาท จากนั้นตำรวจ สภ.พรหมคีรี อายัดตัวไปดำเนินคดีต่อ โดยศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ให้ประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 1.5 แสนบาท เช่นกัน

ศาลตัดสินจำคุก

ร็อกสตาร์คนดัง

บทสรุปของเสก โลโซ ที่โดนตำรวจดำเนินคดีเอาผิดทั้ง 2 คดี มาถึงวันที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา

โดยช่วงเช้าวันที่ 25 ต.ค. ศาลจังหวัดมีนบุรีอ่านคำพิพากษาในคดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติตามหน้าที่ฯ เสพ ยาเสพติด และมีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า ขณะเกิดเหตุมีนายตำรวจเบิกความยืนยันถึงขั้นตอนขอออกหมายค้น และการแสดงหมายค้นของศาล รวมถึงการแสดงหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช

แต่จำเลยซุกตัวภายในบ้านพร้อมถืออาวุธปืนที่พร้อมยิงตลอดเวลา โดยไม่ยอมออกมาพบนายตำรวจอย่างง่ายดาย

เสก โลโซ

ส่วนผลการตรวจปัสสาวะยังพบมีสารเสพติดด้วย ซึ่งเกิดจากการนำสารเสพติดเข้าไปในตัวด้วยวิธีเสพ ไม่ใช่การใช้ยาทั่วไปที่มีสารเสพติดผสม

ศาลจึงพิพากษาว่า การกระทำของจำเลยเป็นความผิดทั้ง 3 ข้อหา ให้จำคุกตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ 1 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 6 เดือน, ฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ โดยขู่เข็ญว่า จะประทุษร้ายโดยมีอาวุธปืน ให้จำคุก 1 ปี 6 เดือน และฐานเสพยาฯ จำคุกอีก 6 เดือน รวมจำคุกคดีนี้ทั้งสิ้น เป็น 1 ปี 18 เดือน

โดยให้บวกโทษของศาลอาญาคดีทำร้ายร่างกายสาวคนสนิทอดีตภรรยาอีก 1 ปี 3 เดือน เป็นจำคุกจำเลยทั้งสิ้น 2 ปี 21 เดือน และให้นับโทษจำเลยต่อจากคดี พ.ร.บ.อาวุธปืน ของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราชด้วย

ซึ่งศาลไม่เห็นสมควรให้รอลงอาญา ทำให้เสกถูกนำตัวไปไว้ในห้องขังศาล เพื่อรอส่งตัวเข้าเรือนจำ

ก่อนทนายยื่นหลักทรัพย์ด้วยวงการ 5 แสนบาท โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า เสกไม่เคยมีพฤติการณ์จะหลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศเว้นได้รับอนุญาตจากศาล

ถัดจากนั้นในวันที่ 7 ธ.ค. ศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช อ่านคำพิพากษาคดีเสกยิงปืนขึ้นฟ้า 10 นัด

โดยศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุกเสก โลโซ 5 วัน แต่โทษจำคุกให้รอลงอาญา 2 ปี และให้ปรับเป็นเงิน 2,500 บาท เนื่องจากเห็นควรให้เสกได้มีโอกาสกลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดี ของสังคม

ไลฟ์มาราธอน

หิ้วเสกป่วยไบโพลาร์

เรื่องราวของเสก โลโซ ในปีนี้ยังมีอีกเหตุการณ์ เมื่อนักร้องดังไลฟ์สดในเฟซบุ๊กแบบมาราธอน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.-ส.ค. บางครั้งเสกใช้เวลาไลฟ์สดมากถึง 8,718 นาที หรือคิดเป็น 145 ชั่วโมง หรือคิดเป็น 6 วันเต็มๆ!

เนื้อหาของการไลฟ์มีทั้งทำกิจวัตรประจำวัน ร้องเพลง ปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว

จนมาถึงจุดพีกเมื่อเริ่มแสดงจุดยืนทางการเมือง ทั้งการโจมตีอดีตนายกฯ ทักษิณ และชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้แฟนๆ เริ่มสงสัยว่าอาจมีอะไรผิดปกติ

แม้เจ้าตัวจะตรวจปัสสาวะโชว์ว่าไม่มีสารเสพติด แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่าจะไม่มีอาการป่วย

ยิ่งเมื่อแพทย์วิเคราะห์สภาพที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นว่าสุ่มเสี่ยงจริงๆ ที่จะเป็นไบโพลาร์

ทำให้ครอบครัวของเสก อดรนทนไม่ไหวอีกต่อไป ต้องหาวิธีพาตัวส่งโรงพยาบาล

เสก โลโซ

กระทั่งช่วงค่ำวันที่ 18 ส.ค. ครอบครัวของเสก ทั้ง น้องเสือ-เสฎกานต์ ศุขพิมาย ลูกชายของเสก กานต์-วิภากร ศุขพิมาย อดีตภรรยา และ อีฟ-อภิสร์ญา พัฒนวรทรัพย์ แฟนสาวของเสก จึงวางแผนนำตัว นักร้องดังส่งโรงพยาบาล

โดยทุกคนพยายามพาเสกไปหาหมอ แต่เสกยังไม่ยินยอม จนกระทั่งรู้ตัวว่าขัดขืนไม่ได้ สุดท้ายเลยยอมไปโรงพยาบาลแต่โดยดี

เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้เกิดจาก อีฟ อภิสร์ญา ติดต่อ ไปยังคนรู้จักให้ช่วยประสานขอความช่วยเหลือจากกานต์ เพราะไม่ไหวแล้ว จนกระทั่งร่วมกันวางแผนพาตัวเสกส่งรักษาโรงพยาบาลได้สำเร็จ

ภายหลังภารกิจสำเร็จ กานต์เผยว่า เสกเป็นไบโพลาร์มาแล้ว 10 กว่าปี เมื่อเป็นจะซึมเศร้า ไม่ออกจากบ้าน ไม่เจอใคร เป็นทุกข์ตลอดเวลา อยู่กับใครไม่ได้ ทำอะไรก็ไม่สนุก ต้องอยู่กับตนคนเดียว ต้องคุยเป็นเพื่อนเขาตลอดเวลา ลูกยังไม่กล้าเจอ ไม่อยากให้เห็นในสิ่งที่เขาเป็น เขาจะขังตัวเองอยู่แต่ในห้อง ให้ตนไปนั่งเป็นเพื่อน

“แพทย์ลงความเห็นว่า เสกเป็นไบโพลาร์ขั้นรุนแรง ขั้นสุดท้าย ถือว่าวิกฤต สามารถฆ่าตัวตายได้”

ขณะที่เสือเล่าถึงนาทีบุกพาพ่อไปโรงพยาบาลว่า เริ่มรู้สึกว่าพ่ออาการหนักขึ้น เพราะชอบคุยหลอนๆ คิดว่าต้องพาไปรักษา แต่ไม่รู้ทำยังไง จึงปรึกษาแม่ กับอีฟ ครั้งแรกวันที่ 16 ส.ค. วางแผนจะให้พ่อกินยานอนหลับ พยายามหายาน้ำแต่ไม่มี มีแต่ยาเม็ดที่ต้องบดผสม ซึ่งไม่เวิร์ก จึงไปสั่งยาสลบมา แต่อีฟไม่กล้าให้พ่อกิน เพราะกลัวอันตราย

แผนที่วางไว้ว่าจะไปรอให้พ่อหลับแล้วเอารถเข้าไปรับก็เลยไม่สำเร็จ

เสก โลโซ

จากนั้นวันที่ 18 ส.ค. ได้ไปพร้อมรถตู้ คุยกับนิติบุคคล และ รปภ.เรียบร้อย แต่ก็ยังเข้าไม่ได้ เลยสวมรอยเป็นรถมูลนิธิมารับเงินบริจาค เพราะตอนนั้นพ่อไลฟ์รับบริจาคอยู่พอดี พอ รปภ.โทรศัพท์ไปถาม พ่อก็ยอมให้เข้า

เมื่อไปถึงจะมีอีฟคอยส่งสัญญาณอยู่ภายในบ้าน มีเจ้าหน้าที่เข้าไป 3 คน ทำทีมารับบริจาคให้กับมูลนิธิ แล้วก็หลอกถ่ายรูป ก่อนพาไปขึ้นรถตู้ส่งไปโรงพยาบาล

โดยเสก โลโซ ใช้เวลารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลนานหลายเดือน จนสุดท้ายแพทย์ได้อนุญาตให้กลับบ้าน ท่ามกลางการดูแลของครอบครัว

จากทั้ง 3 เหตุการณ์ในรอบปีที่เกิดขึ้นกับเสก โลโซ ถือเป็นอีกปีแห่งมรสุมของร็อกสตาร์

ต่อจากนี้คงต้องจับตาดูถึงคดีที่ยังค้างอยู่ว่า บทสรุปแล้ว จะจบลงเช่นไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน