คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
สมศักดิ์ กิจการนันทศรี / ก้องเกียรติ พุทธิรังสิมาภรณ์
เรื่อง/ภาพ
เสียงเพลง เสียงหัวเราะสนุกสนาน ภายในงานปิดทองฝังลูกนิมิตของวัดอัมพวัน หรือวัดก.ม.7 ริมถนนสายสนามชัยเขต-ท่าตะเกียบ หมู่ 6 ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา กลับกลายเป็นเสียงหวีดร้อง เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด ความโกลาหลบังเกิดขึ้นโดยพลัน หลังสิ้นเสียงปืนและเสียงระเบิดดังกึกก้องขึ้นเมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 29 ม.ค.
ร.ต.อ.ธเนศ ศรีสงคราม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยพ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช ผกก.สภ.สนามชัยเขต ร.ต.อ.บรรทม รามพัด รอง สวป. และตำรวจฝ่ายสืบสวน รีบรุดไปตรวจสอบทันทีที่รับแจ้ง
จุดระเบิดอยู่บริเวณลานด้านข้างเวทีรำวง ด้านหน้าอาคารเรียนโรงเรียนวัดก.ม.7 โต๊ะเก้าอี้ล้มระเนระนาด กองเลือดกระจายอยู่บนพื้นคอนกรีตจำนวนมาก และพบหลุมระเบิดขนาดกว้างประมาณ 20 ซ.ม. ลึกประมาณ 55 ซ.ม.
แรงระเบิดยังทำให้รถยนต์โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ถูกสะเก็ดระเบิดเสียหาย 1 คัน ส่วน ผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บรวม 9 ราย ชาวบ้านช่วยกันลำเลียงส่งโรงพยาบาลสนามชัยเขตไปก่อนแล้ว
ผู้เสียชีวิตมี 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.วิภาวี อิ่มทัศน์ อายุ 30 ปี น.ส.กระถิน เขียวชอุ่ม อายุ 30 ปี นายพิษณุ ซุ่นอึ้ง อายุ 33 ปี และนายครวญ พรมชาติ อายุ 45 ปี ขณะที่ผู้ได้รับบาดเจ็บมีจำนวน 5 ราย
ต่อมาพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช ผกก.สภ.สนามชัยเขต พร้อมด้วยตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจหน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด และ เจ้าหน้าที่ทหาร ร่วมกันเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ จากการตรวจสอบพบกระเดื่องระเบิดตกอยู่ห่างจากหลุมระเบิดประมาณ 23 เมตร โดยเป็น กระเดื่องระเบิดชนิดเอ็ม 67 เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
พล.ต.ท.จิตติกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ตายเป็นคนในพื้นที่ หลังจากงานวัดเลิกแล้วได้นั่งจับกลุ่มดื่มสุราและคุยกันอยู่บริเวณด้านข้างเวทีรำวงย้อนยุค รวมทั้งกลุ่มมือระเบิดด้วยที่มีอยู่ 4 คน จากนั้นเกิดมีการท้าทายกันขึ้น ทำให้กลุ่มคนร้ายเดินกลับไปที่ รถเก๋งหยิบระเบิดเดินกลับมาปาใส่ ก่อนขับรถเก๋งมิตซูบิชิ สีขาว ฝากระโปรงสีดำ ทะเบียน กฉ 1849 ปราจีนบุรี ขับหลบหนีไป ซึ่งตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นทะเบียนปลอม
“ขณะนี้รู้ตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดแล้วโดยเฉพาะมือระเบิดนั้นพบว่ามีประวัติโชกโชนเคยต้องคดีเกี่ยวกับอาวุธปืนและวัตถุระเบิดใน ท้องที่ จ.สมุทรปราการ หลายคดีและเคยถูกจำคุกมาแล้วถึง 20 ครั้ง เพิ่งถูกปล่อยตัวออกมาได้ไม่นาน และยังมีคดีเกี่ยวกับ ยาเสพติดในท้องที่ สภ.ท่าตะเกียบ แต่อยู่ระหว่างประกันตัวสู้คดี” พล.ต.ท.จิตติกล่าว
ขณะที่ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้สอบพยานที่เห็นเหตุการณ์ไปแล้ว 5 ปาก และได้ขออนุมัติออกหมายจับนายอนุรักษ์ หรือหมู แซ่โง้ว อายุ 24 ปี กับ นายอนุสรณ์ หรือ ตี๋ แซ่โง้ว อายุ 31 ปี 2 พี่น้องผู้ก่อเหตุขว้างระเบิด โดยเป็นคนพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
ตร.ระดมตรวจสอบภาพวงจรปิดตามเส้นทางที่หลบหนี พบรถเก๋งคนร้ายขับมุ่งหน้าไปทาง จ.ชลบุรี ชุดสืบสวน ภ.จว.ฉะเชิงเทรา ประสานชุดสืบสวนเมืองชลบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบจนรู้ว่าทั้งคู่หลบไปอยู่บ้านญาติที่ ต.หนองรี อ.เมือง จ.ชลบุรี ตร.ประสานหน่วยสวาทจากตำรวจภูธรภาค 2 รวมกำลังกว่า 20 นาย บุกจับกุมตัวทั้งคู่ได้ในค่ำวันเดียวกันนั้นเอง
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาฆ่าให้ตาย” และ “มีอาวุธปืนหรือเครื่องวัตถุระเบิดที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ ไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”
นายอนุรักษ์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นคนปาระเบิดใส่กลุ่มผู้ตายและบาดเจ็บ จากนั้นนายอนุสรณ์เป็นคนขับรถพาหลบหนี โดยก่อนเกิดเหตุเพื่อนในโต๊ะได้พาไปแนะนำให้รู้จักกับกลุ่มเจ้าถิ่นที่นั่งอยู่ห่างกันประมาณ 30 เมตร โดยกลุ่มเจ้าถิ่นได้พูดว่าหน้าตาตนเหมือนคนติดยา น่าจะจับไปตรวจฉี่ ทำให้ตนไม่พอใจเกิดมีปากเสียงและปาแก้วใส่กัน จากนั้นเดินกลับไปหยิบระเบิดที่เก็บไว้ภายในรถออกมาปาใส่แล้วหลบหนีไปอยู่ที่ชลบุรีกระทั่งมาถูกตำรวจตามไปจับตัวได้ดังกล่าว
ต่อมาเวลา 14.00 น. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภาค 2 พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา พ.อ.ธวีพูล ริมสาคร รอง ผบ.กองพลทหารราบที่ 11 พ.ต.อ.เผ่าภากร รามนุช ผกก.สภ.สนามชัยเขต พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารราว 100 นาย ควบคุมตัว นายอนุรักษ์ และ นายอนุสรณ์ มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่วัดอัมพวัน
การทำแผนฯ ครั้งนี้มีชาวบ้านที่รู้ข่าวกว่า 700 คนมารอดูการทำแผนฯ ต่างพากันตะโกนสาปแช่งทั้ง 2 คนระงมไปทั่ววัด ก่อนจะเกิดเหตุวุ่นวายขึ้น เมื่อมีชาวบ้านส่วนหนึ่งทนไม่ไหว ฮือฝ่าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่กรูกันเข้าพยายามรุมประชาทัณฑ์ 2 ผู้ต้องหา จนเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย ต้องรีบพาตัวฝ่าวงล้อมกันชุลมุน
ทะเลาะวิวาทชกต่อยกันในวัดก็พอแรง นี่เล่นถึงปืนถึงระเบิด ราวกับเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ดูจะหนักข้อไปเยอะ ตร.จึงต้องระดมล่าตัวให้ได้โดยเร็ว
