คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
อดิษัยต์ พรวมพิมพ์ อดิศร จิตตเสวี
เรื่อง/ภาพ
บ่ายวันที่ 13 ก.พ.ที่ผ่านมา บรรยากาศภายในธนาคารกสิกรไทย สาขาบิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ แขวงบางปะกอก เขตราษฎร์ บูรณะ กทม. เป็นไปอย่างสบายๆ มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอยู่เพียงไม่กี่ราย ไม่มีใครคาด คิดว่าเหตุร้ายกำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า
“ขอเลขบัญชีด้วยค่ะ” เสียงพนักงานสาวพูดกับลูกค้าชายที่มายืนรอที่หน้าเคาน์เตอร์ ชายดังกล่าวส่งเศษกระดาษมาให้ชิ้นหนึ่ง แต่แทนที่จะเป็นเลขบัญชี กระดาษดังกล่าวกลับมีข้อความเขียนว่า “ผมมีปืน ส่งเงินมา 2 แสน”
แม้จะงุนงงในแวบแรก แต่พลันที่ชายดังกล่าวควักปืนออกมาโชว์ให้เห็น พนักงานสาวก็รู้ทันทีโดยไม่ต้องประกาศว่านี่คือการปล้น เจ้าตัวรีบตั้งสติ สะกิดบอกเพื่อนข้างๆ ก่อนลุกเดินหนีเข้าไปหลบอยู่ในห้องด้านหลัง
เมื่อเหตุการณ์ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โจรหนุ่มวิ่งพล่านไปทั่วธนาคารท่ามกลางความตกใจของลูกค้าและพนักงาน ก่อนที่มันจะกระโจนข้ามเคาน์เตอร์ รื้อค้นตามลิ้นชักก่อนกวาดเงินสดไปได้ จากนั้นก็วิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่หลบหนี ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดภาย ในธนาคารสามารถบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ทั้งหมด
พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน. ราษฎร์บูรณะ พร้อมด้วย ร.ต.อ.ยศวรรธ์ รัตนศรี รอง สว.(สอบสวน) สน.ราษฎร์บูรณะ นำกำลังตำรวจสายตรวจและชุดสืบสวนรีบเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีที่ได้รับแจ้ง ก่อนจะได้ข้อมูลว่าคนร้ายได้เงินสดไปจำนวน 286,800 บาท ก่อนวิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่โตโยต้า รุ่นอัลติส สีเหลือง ทะเบียน 4340 กทม. มุ่งหน้าไปถนนสุขสวัสดิ์ (ขาออก)
ขณะเดียวกัน ร.ต.ท.ยงยุทธ บุญเพ็ง รอง สว.จร.สน.ราษฎร์บูรณะ ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ภายในป้อมสัญญาณไฟจราจร แยกราษฎร์บูรณะ รับแจ้งเหตุและลักษณะของรถแท็กซี่ทางวิทยุ พบเห็นรถแท็กซี่คันดังกล่าวจึงรีบติดตามไปทันที
โจรหนุ่มเห็นจวนตัวจึงสั่งให้รถแท็กซี่จอดบริเวณปากซอยสุขสวัสดิ์ 27 และวิ่งเข้าซอยสุขสวัสดิ์ 29 เข้าไปในบ้านเรือนประชาชนเพื่อจะหลบหนี จากนั้นพยายามปีนขึ้นไปบนหลังคา ก่อนจะเสียหลักร่วงลงมา สุดท้ายชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ และร.ต.ท.ยงยุทธจึงช่วยกันเข้าไปจับกุมตัวเอาไว้ได้หลังก่อเหตุเพียงไม่นาน พร้อมเงินของกลางที่ยังอยู่ครบ ส่วนอาวุธปืนปรากฏว่ากลายเป็นปืนปลอมซะงั้น
ด้าน นายพงศธร บุญเต็ม อายุ 38 ปี คนขับแท็กซี่ ให้การกับ ตร.ว่า ตนขับรถแท็กซี่รับผู้โดยสารทั่วไป จนกระทั่งมาเจอคนร้ายยืนเรียกรถบริเวณหน้าบิ๊กซี ราษฎร์บูรณะ เมื่อรับมาได้ให้ไปส่งหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 27
“ระหว่างทางผมสังเกตเห็นอาวุธปืนใต้เสื้อของคนร้าย ผมจึงบอกว่าไม่ไปแล้ว คนร้ายจึงหยิบอาวุธปืนมาข่มขู่ แต่ผมสังเกตเห็นว่าเป็นปืนปลอม คนร้ายจึงหยิบมีดคัตเตอร์ขึ้นมาจี้ที่คอ และเลื่อนมานั่งเบาะข้างคนขับ พร้อมสั่งให้มาส่งปากซอยสุขสวัสดิ์ 27 เมื่อมาถึงบริเวณหน้าปากซอยคนร้ายยื่นเงินให้ 100 บาท แล้วรีบวิ่งหลบหนีไป” นายพงศธรให้การ
พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผบช.น. พร้อมด้วยพล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก. น.8 พ.ต.อ.ชุมพล ชาญชนะโยธิน รอง ผบก.น.7 เดินทางมาสอบปากคำโจรหนุ่มด้วยตัวเอง ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ
จากการสอบสวนทราบว่าโจรหนุ่มรายนี้ไม่ใช่คนไทย แต่เป็นชาวลาว ชื่อนายจัน อายุ 26 ปี โดยให้การรับสารภาพว่าเข้ามาในประเทศไทยประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา โดยประกอบอาชีพในร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ จ.นครราชสีมา ต่อมาได้เดินทางมาหาเพื่อน ย่านสะพานประชาธิปก แขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กทม.
“ผมดูข้อมูลเกี่ยวกับธนาคารกสิกรฯ ผ่านทางยูทูบ ก็เห็นว่าธนาคารดังกล่าว เคยเกิดเหตุมาแล้ว และไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย หรือรปภ. จึงวางแผนโดยเขียนในกระดาษว่า ?ผมมีปืน ส่งเงินมา 2 แสน? ก่อนก่อเหตุช่วงต้นเดือนได้นั่งรถโดยสารไปยังธนาคารกสิกรไทย เพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มี รปภ.จริง จากนั้นไปซื้อปืนปลอมที่ตลาดคลองถม ในราคา 30 บาท และมีดคัตเตอร์ ก่อนย้อนกลับมาลงมือก่อเหตุในวันนี้ โดยหากสามารถหลบหนีไปได้จะนำเงินไปใช้จ่ายในประเทศบ้านเกิด แต่ก็มาถูกจับกุมได้เสียก่อน”
พล.ต.ท.ศานิตย์กล่าวว่า ตำรวจวิทยุสกัดจับอย่างรวดเร็ว ทำให้ดักเส้นทางวิ่งของรถแท็กซี่ไว้ได้ เมื่อเห็นจวนตัวคนร้ายจึงเปิดประตูรถ และวิ่งหนีเข้าไปในบ้านประชาชน ก่อนจะปีนขึ้นไปบนหลังคา กระโดดข้ามจากหลังคาหนึ่งไปยังหลังคาหนึ่งคล้ายนินจา แต่สุดท้ายปรากฏว่าพลาดร่วงตกลงมากระแทกพื้นอย่างแรงจนเคล็ดขัดยอกไปทั่วตัว รวมทั้งขาแพลงด้วย ทำให้ต้องยอมจำนนแต่โดยดี
เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาชิงทรัพย์ และมีอาวุธ (ปืนปลอม) กับนายจัน ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ดำเนินคดีต่อไป
