ย้อนคดีสยองหลังสวน

หินทุบ-ฆ่าขืนใจยาย72

สุนัขแสนรู้พาไปพบศพ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สยองหลังสวน – “บุญนำ เอ็งเห็นแม่…หรือเปล่าวะ” ผู้เฒ่าวัย 72 ปี พูดกับ เจ้าบุญนำ สุนัขเพศผู้อายุ 1 ปี ที่เลี้ยงเอาไว้ ภายหลังตามหาตัวภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากวัยเดียวกันไม่พบ

สุนัขแสนรู้กระโดดลงจากบ้าน และวิ่งนำเข้าไปในสวนปาล์มทันที เมื่อไปถึงกลางสวนปาล์มพบเห็นชิ้นส่วนของเสื้อผ้า อาทิ กางเกงใน สร้อยคอพร้อมพระ ตกหล่นอยู่ตามระยะทาง เมื่อเข้าลึกไปในสวนปาล์มจึงพบร่างของแม่เฒ่า นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ กลายเป็นจุดเริ่มต้นของคดีสยองขวัญเมืองหลังสวน จ.ชุมพร

เย็นวันที่ 3 มี.ค. พ.ต.อ.สัญญา พาตินธุ ผกก.สภ.ปากน้ำหลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร พร้อมด้วย พ.ต.ท.วิชัย จำปาทุม รองผกก.ป. พ.ต.ท.บูรณพล ชนะภูมิ รองผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ธรรมรัตน์ อินนาปา รองผกก.สส. ร.ต.อ.วิฑูรย์ เผือกวารี รองสว.สอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. และแพทย์ร.พ.หลังสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบ เหตุฆ่าข่มขืนหญิงชรา กลางสวนปาล์มน้ำมันในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด อ.หลังสวน

ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตอยู่ในสภาพเปลือยกาย ตามใบหน้าถูกทุบด้วยของแข็ง บริเวณศีรษะมีเลือดไหลท่วมแห้งกรัง อวัยวะเพศมีร่องรอยถูกข่มขืน เจ้าหน้าที่พฐ.จึงตรวจเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุ และส่งศพผู้เสียชีวิตให้แพทย์นิติเวชผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง

สยองหลังสวน

สามีผู้ตายให้ข้อมูลตร.

ขณะที่จากการสอบสวน สามีผู้ตายให้การว่า มีอาชีพขับรถรับจ้าง ในช่วงเช้าขับรถไปส่งลูกชาย เพื่อออกเรือประมง เมื่อเดินทางกลับมาถึงบ้านพักที่เช่าไว้อยู่กับครอบครัว ไม่พบภรรยาจึงออกไปตามหาในหลายสถานที่ในตำบลปากน้ำหลังสวนและโรงพยาบาล รวมถึงโทรศัพท์ไปสอบถามญาติสนิท ก็ไม่มีใครรู้ว่าอยู่ที่ไหน

จึงเดินทางกลับมาที่บ้านพัก และพูดกับเจ้าบุญนำ สุนัขเพศผู้อายุ 1 ปีที่เลี้ยงเอาไว้ ว่าเห็นแม่หรือไม่ ปรากฏว่าสุนัข บุญนำกระโดดลงจากบ้านและวิ่งเข้าไปในสวนปาล์ม เมื่อไปถึงกลางสวนปาล์มพบเห็นชิ้นส่วนของเสื้อผ้า อาทิ กางเกงใน สร้อยคอพร้อมพระ ตกหล่นอยู่ตามทาง เมื่อลึกเข้าไปในสวนปาล์มก็พบร่างของภรรยานอนจมกองเลือดอยู่จึงรีบแจ้งตำรวจ

สยองหลังสวน

สอบปากคำนายซู

ตำรวจสอบสวนจนทราบตัวผู้ต้องสงสัย คือ นายซู หรือ ตะวัน แรงงานต่างด้าวที่ทำงานในสวนปาล์มน้ำมันติดกับสวนที่เกิดเหตุ เนื่องจากช่วงค่ำวันที่ 2 มี.ค. นายซูนั่งดื่มสุรากับลูกชายของผู้ตาย พร้อมพูดคุยเพื่อหาทางทำงานเป็นลูกเรือตังเกเช่นเดียวกับลูกชายของผู้ตายจนดึก

สันนิษฐานว่า คนร้ายเห็นว่าผู้ตายอยู่บ้านตามลำพัง ประกอบกับแม้นจะอายุมากแล้ว แต่รูปร่างหน้าตายังสวย ทำให้เกิดอาการหื่น ตรงเข้าฉุดลากเข้าไปสวนปาล์ม โดยผู้ตายพยายามต่อสู้ดิ้นรนจนเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนร้ายใช้ก้อนหินทุบใบหน้าผู้ตายจนแน่นิ่ง แล้วลงมือข่มขืนก่อนจะหลบหนีไป

สยองหลังสวน

ยายวัย 72 ผู้ตาย

หลังพบศพไม่นาน เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตามไปจับตัวนายซูได้พร้อมน้องชาย ที่บ้านพักและนำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ปากน้ำหลังสวน

นายซูรับสารภาพว่า เป็นคนข่มขืนฆ่าผู้ตาย สาเหตุมาจากเมาเหล้าแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศ พนักงานสอบสวนจึงแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา ส่วนข้อหาข่มขืนต้องรอผลการพิสูจน์จากแพทย์และนิติเวชให้แน่ชัดก่อนจึงจะแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม

ส่วนน้องชายแม้นไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดีที่พี่ชายก่อขึ้น แต่จากผลการตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วงมีสารเสพติด จึงแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความสะเทือนขวัญแก่ชาวบ้านในพื้นที่ ต.บางน้ำจืด และต.ปากน้ำหลังสวน เนื่องจากไม่เคยเห็นและไม่เคยเกิดเหตุร้ายเช่นนี้ในพื้นที่นี้กับคนสูงอายุมาก่อน และสวนปาล์มดังกล่าวเป็นจุดที่มีชาวบ้านใช้ในการเดินทางสัญจรไปมา รวมถึงมีแรงงานต่างด้าวเข้ามาประกอบอาชีพและใช้ชีวิตอยู่เป็นจำนวนมาก ยังโชคดีที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยในการก่อเหตุฆ่าข่มขืนในครั้งนี้ได้อย่างทันควัน

แต่ที่น่าสลดใจกว่านั้น คือครอบครัวดังกล่าวยากจนมาก กระทั่งเงินที่จะใช้ในการทำศพยังไม่มี

ขณะที่บรรยากาศที่วัดสว่างมนัส หมู่ 3 ต.ปากน้ำหลังสวน ที่ตั้งบำเพ็ญกุศลผู้เสียชีวิต เป็นไปด้วยความเศร้าโศก มีเพื่อนบ้านกว่า 30 คนมาช่วยงานและสมทบทุนกันออกค่าใช้จ่ายในงานศพ

นายวิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร จึงสั่งการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ขณะที่เจ้าหน้าที่จากสำนักงานยุติธรรมจังหวัดชุมพร เข้าเยี่ยมครอบครัวผู้เคราะห์ร้าย พร้อมทั้งสอบถามรายละเอียดและแจ้งสิทธิที่ครอบครัวของผู้เสียหายจะได้รับจากเหตุการณ์ดังกล่าว ซึ่งจะได้นำไปเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาให้ความช่วยเหลือในลำดับต่อไป

ทนงศักดิ์ ศุภการ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน