ผ่าปมฆ่า‘แท็กซี่ป่าตอง’
รัวสนั่น6นัดดับริมถนน
เซ่นปมขัดแย้งภายในวิน
คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ผ่าปมฆ่า‘แท็กซี่ป่าตอง’ – เป็นที่รู้กันดีว่าการท่องเที่ยว เป็นวิธีการหารายได้ที่ลงทุนน้อยแต่สร้างรายได้ให้อย่างงดงาม ทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศ
ความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่นักท่องเที่ยว เหตุการณ์ยิงกันที่หาดป่าตอง แม้นไม่ได้เกิดเหตุกับนักท่องเที่ยว แต่ก็เกิดเหตุท่ามกลางสายตาของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จึงถือเป็นเรื่องใหญ่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเร่งติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้โดยเร็ว
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 10.20 น. วันที่ 7 มี.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง รับแจ้งเหตุใช้อาวุธปืนยิงกัน ได้รับบาดเจ็บ บริเวณคิวเเท็กซี่หน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนพระเมตตา ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงรุดเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรอยคราบเลือดและปลอกกระสุนไม่ทราบขนาดตกอยู่ 6 ปลอก ส่วน ผู้ได้รับบาดเจ็บเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพนำส่ง ยัง ร.พ.ป่าตอง ไปก่อนหน้า ทราบชื่อคือ นายทรงพล สุวรรณสะอาด อายุ 46 ปี ชาว ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มีบาดแผลที่ลำตัวหลายจุด เจ้าหน้าที่พยายามช่วยชีวิต แต่เสียชีวิตในขณะนำส่งร.พ. จึงประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ สำนักพิสูจน์หลักฐานภูเก็ตเข้าตรวจสอบ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า นายทรงพล ผู้เสียชีวิตเป็นคนขับแท็กซี่ของคิวดังกล่าว ก่อนเกิดเหตุได้มีปากเสียงรุนแรงถึงขั้นลงมือชกต่อยกันกับเพื่อนร่วมคิวรถแท็กซี่ ชื่อนายภราดร ภูชยันตร์ อายุ 48 ปี ชาว ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี แต่นายภราดร สู้ไม่ไหวและขับรถยนต์ออกไป
นายภราดร หายไปไม่นานก็ขี่รถจักรยานยนต์ย้อนกลับมา ก่อนลงมาใช้อาวุธปืนรัวยิงใส่นายทรงพล ได้รับบาดเจ็บ และขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกูปี้ สีแดง ทะเบียน ขตต 284 หลบหนีไป
โดยพยานที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงระบุว่า ได้ยินเสียงปืนดังหลายนัด และมีนัก ท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวตื่นตกใจ พากันวิ่งหนีหลบกระสุนไปคนละทิศละทาง พอเสียงปืนเงียบไป รีบวิ่งกลับมาดูพบว่า นายทรงพล นอนแน่นิ่ง จึงแจ้งจนท.ดังกล่าว
พยานยังให้ข้อมูลอีกว่า ผู้ก่อเหตุและ ผู้เสียชีวิตมักมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกันบ่อยครั้ง จนเพื่อนร่วมคิวต้องห้ามอยู่เป็นประจำ ก่อนจะมาเกิดเหตุอีกครั้งในวันนี้
หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.ป่าตอง พร้อมด้วย พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักศาสน์ผกก.สส.ภ.จว.ภูเก็ต และ พ.ต.ท.เจษฎา แสงสุรีย์ รองผกก. (สอบสวน) สภ.ป่าตอง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมสั่งการให้พนักงานสอบสวน สภ.ป่าตอง เชิญตัวผู้เกี่ยวข้องไปสอบปากคำเพิ่มเติม
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง ก็รีบลงพื้นที่ติดตามตัว ผู้ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะเป็นความขัดแย้งส่วนตัว หรือความขัดแย้งภายในคิวรถ
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจนำคลิปภาพวงจรปิดในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงจำนวน 2 จุด มาตรวจสอบ ซึ่งคลิปแรกเป็นภาพขณะที่นายภราดรคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์มาจอดตรงวินแท็กซี่ แล้วลงจากรถก่อนชักปืนออกมาจากเอว ขณะนั้นผู้ตายเห็นและตรงเข้าพยายามแย่งปืน แต่ถูกยิงใส่จนล้มลงกับพื้น โดยนายภราดร เดินตรงเข้าไปจ่อยิงอีก 1 นัดในระยะเผาขน ซึ่งขณะนั้นมีนักท่องเที่ยวเดินอยู่ในจุดดังกล่าว ก่อนจะรีบวิ่งเนื่องจากตกใจเสียงปืน
อีก 1 คลิปเป็นภาพขณะที่นายภราดร ผู้ก่อเหตุกำลังขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า สกูปี้ สีแดง ทะเบียน ขตต 284 หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุ โดยขณะหลบหนีได้สวมเสื้อแขนยาวสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ และรองเท้าสีขาว
ตำรวจนำภาพคนร้ายเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน เพื่อขอความร่วมมือประชาชน ช่วยแจ้งเบาะแสหากพบเห็นนายภราดร จะได้ช่วยแจ้ง เบาะแสแต่ก็ยังไม่พบตัว
ขณะที่ญาตินายทรงพล ผู้ตายให้ข้อมูลว่า นายทรงพล ผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของคิวร่วมกับเพื่อนซึ่งเป็นหุ้นส่วน ส่วนนายภราดร มือยิงนั้นเพื่อนหุ้นส่วนเป็นคนพาเข้ามาอยู่ในคิว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ดูเเลคิวอยู่ร่วมกัน มีช่วงหนึ่งที่นายทรงพลไปบวช หุ้นส่วนอีกคนก็ดูแล ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
ทนลำบากกันมาตั้งแต่สมัยที่ลูกค้ายังน้อย และมีโรงแรมอยู่ใกล้ๆ เพียงสองแห่ง กระทั่งมีการสร้างโรงแรมเพิ่ม จำนวนแขกที่ใช้บริการก็เริ่มดีขึ้น จากนั้นก็เริ่มมีปัญหาเรื่องคิวกันภายใน ซึ่งก็ไม่ทราบปัญหาชัดเจน ทราบเพียงว่าเคยมีการขอให้ขายคิว แต่นายทรงพลไม่ยอมขาย เพราะอยากให้สมาชิกได้ทำกันเองเพราะว่าทุกคนยังเดือดร้อน
ตำรวจพบว่าหลังก่อเหตุ นายภราดรก็หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปทันที จึงเร่งติดตามไล่ล่าตัวอย่างไม่ลดละ ขณะเดียวกันประสานทางญาติให้พามามอบตัว
กระทั่งวันที่ 15 มี.ค. นายภราดร ผู้ก่อเหตุได้เข้ามอบตัว กับพ.ต.ท.วัชรพงษ์ พรายพรรณ พงส. (สบ3) พร้อมด้วยทนายความส่วนตัว เจ้าหน้าที่จึงทำการสอบสวนก่อนแจ้งข้อกล่าวหา “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา โดยไตร่ตรองไว้ก่อนและพกพาอาวุธปืนฯ” ทั้งนี้ นายภราดรได้ขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น
ขณะที่ปมความขัดแย้งก็เป็นไปตามที่ญาติๆ ให้ข้อมูลไว้ คือมาจากเรื่องที่นายภราดร ต้องการจะเพิ่มสมาชิกแท็กซี่ในวิน แต่ทางผู้ตาย ไม่ยอม จึงมีเรื่องทะเลาะกัน จนนำมาสู่เหตุสยองดังกล่าว
อรรณพ เพ็ชรภิมล-เรื่อง/ภาพ
ภาพขณะหลบหนี