คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
พงษ์สันต์ เตชะเสน
ธานี ทวีเกิด
เรื่อง/ภาพ
บ่ายวันที่ 13 ก.พ. พนักงานรีสอร์ตแห่งหนึ่ง ที่บ้านแพง หมู่ 8 ต.คำเจริญ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี รีบโทรศัพท์แจ้งตำรวจเสียงสั่น หลังเข้าไปพบว่าแขกที่มาพักรายหนึ่งนอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง
พ.ต.ต.นิกุล หนูสิน สว.(สอบสวน) สภ.ตระการพืชผล รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น ก่อนเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.ชัยกฤต โชติวรรณ ผกก.สภ.ตระการพืชผล พ.ต.ท.ธนายุทธ สาระใต้ รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.สราวุธ แก้วใส สว.สส. ชุดสืบสวน แพทย์นิติเวชและอาสาสมัครหน่วยกู้ภัย
เมื่อไปถึงพบว่า รีสอร์ตที่เกิดเหตุปลูกสร้างเป็นหลัง ทิ้งระยะห่างกันเล็กน้อย หลังที่เกิดเหตุอยู่ด้านในสุด ในห้องใกล้ประตูทางเข้าพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อว่า นายอภินันท์ คำทวี อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 123 หมู่ 11 ต.ไหล่ทุ่ง อ.ตระการพืชผล สภาพศพนอนหงายอยู่ด้านล่างข้างเตียงนอน ปลายเท้าติดกับประตูทางเข้า ส่วนศีรษะหันไปทางหัวเตียง และยังสวมใส่เสื้อผ้าตามปกติ
จากการตรวจสอบภายในห้องยังอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่มีร่องรอยการต่อสู้ เบื้องต้นแพทย์ลงความเห็นว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ เมื่อสอบถามญาติของผู้เสียชีวิตที่มาดูศพยืนยันว่า นายอภินันท์ มีโรคหืดหอบเป็นโรคประจำตัว รวมทั้งผู้ตายเองก็ประกอบอาชีพเป็นเกษตรกรชาวสวนยางธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ได้ร่ำรวยอะไร จึงไม่น่ามีมูลเหตุให้เกิดการฆาตกรรม
คดีนี้แม้ญาติไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต อีกทั้งในที่เกิดเหตุยังไม่พบหลักฐานที่ชี้ว่าจะเป็นการฆาตกรรม แต่ยังมีข้อสงสัยเล็กๆ ที่ยังคาใจ พ.ต.อ.ชัยกฤต ทั้งเรื่องผ้าขนหนูในห้องพัก รวมทั้งโทรศัพท์มือถือซัมซุงฮีโร่ของผู้ตายหายไป ด้วยความเป็นนักสืบมืออาชีพ จึงไม่ยอมให้ผ่านไป
พ.ต.อ.ชัยกฤต ยังไม่มอบศพนายอภินันท์ ให้ญาติรับกลับไปบำเพ็ญกุศล แต่ส่งศพให้แพทย์นิติเวชวิทยาโรงพยาบาลศูนย์ สรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดอีกครั้ง พร้อมส่งชุดสืบสวนออกหาเบาะแสกับพนักงานที่ดูแลรีสอร์ต
กระทั่งได้ข้อมูลว่า ช่วงเช้าเวลาเกือบ 10.00 น. มีหญิงชายคู่หนึ่งเข้ามาเปิดห้องพัก ต่อมาไม่นานนายอภินันท์ผู้ตายก็ตามเข้ามาที่ห้อง จากนั้นครู่ใหญ่ชายหญิงที่มาเปิดห้องพักตอนแรกก็ขี่รถจักรยานยนต์ออกไป กระทั่งบ่ายพนักงานจะเข้าไปทำความสะอาด ก็พบนายอภินันท์นอนเสียชีวิตอยู่ลำพัง จึงสั่งให้เร่งตรวจสอบต่อว่าทั้ง 2 คนเป็นใคร เพื่อตามตัวมาสอบสวน
ต่อมาวันที่ 16 ก.พ. แพทย์ที่ผ่าพิสูจน์ศพผู้ตายแจ้งผลว่า การเสียชีวิตของนายอภินันท์ เป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ เนื่องจากพบร่องรอยถูกรัดคอ ทำให้ขาดอากาศหายใจ หลังทราบผลการชันสูตรของแพทย์ พ.ต.อ.ชัยกฤต รีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบ ก่อนได้รับคำสั่งด่วนกำชับให้รีบสืบสวนจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว
ชุดสืบสวนตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึก จนพบว่านายอภินันท์ผู้ตาย ลอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวอยู่กับ นางจอมสี หรือหน่อย พิมพ์พัฒน์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 3 หมู่ 11 ต.ไหล่ทุ่ง อ.ตระการพืชผล ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกับนายอภินันท์ ทั้งที่ นาง จอมสี ก็มีสามีอยู่แล้ว
เมื่อนำภาพนางจอมสีไปให้พยานดู ก็ยืนยันว่าเป็นคนที่มาเปิดห้องพัก ก่อนที่ผู้ตายจะมาหา จึงนำกำลังเข้าตรวจค้นที่บ้านนางจอมสี กระทั่งพบพบโทรศัพท์มือถือซัมซุงของผู้ตายซุกซ่อนอยู่ในตู้ใส่เสื้อผ้าภายในห้องนอน
ตอนแรกตำรวจสงสัยสามีของนางจอมสีว่า อาจจะเป็นคนร้าย แต่จากการสอบเค้นจึงรู้ความจริงว่า นางจอมสีนอกจากแอบมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวกับนายอภินันท์คนตายแล้ว ยังมีกิ๊กอีกคนชื่อนายวานิช เนาวะมันต์ อายุ 42 ปี ชายหนุ่มจากหมู่บ้านโพนงาม ต.นาสะไม อ.ตระการพืชผล ที่ไปทำงานเป็นช่างประจำร้านแอร์แห่งหนึ่งใน ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี
นางจอมสีสารภาพว่า ประมาณวันที่ 7 ก.พ. นายวานิชกลับมาเยี่ยมครอบครัว ที่อ.ตระการพืชผล และแวะมาหา จึงเล่าเรื่องความอึดอัดใจที่นายอภินันท์ ซึ่งเป็นกิ๊กอีกคนชอบโทรศัพท์มาบังคับข่มขู่ให้ไปร่วมหลับนอนด้วย ถ้าไม่ยอมจะเปิดเผยเรื่องที่แอบลักลอบได้เสียกันให้ครอบครัวรู้
หลังนายวานิชทราบความอึดอัดของกิ๊กสาว จึงเดินทางกลับไปทำงานที่ จ.นนทบุรี จนกระทั่งวันก่อนเกิดเหตุจึงเดินทางกลับมา และพากันมาเปิดห้องพักให้ นางจอมสีโทรศัพท์ลวงนายอภินันท์ออกมาพบ
เมื่อนายอภินันท์มาถึงก็เข้าไปหานางจอมสี ภายในห้องพัก นายวานิชที่รออยู่แล้ว จึงใช้ผ้าเช็ดตัวรัดคอนายอภินันท์จนเสียชีวิต ก่อนจัดท่าทางให้เหมือนกับนอนตายเอง จากนั้นก็พากันหลบหนีไปพร้อมกับโทรศัพท์ของผู้ตาย
เมื่อทราบความจริงทั้งหมด พ.ต.อ.ชัยกฤต ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานและไปขออนุญาตศาลจังหวัดอุบลราชธานี ออกหมายจับตัวนายวานิช พร้อมส่งชุดสืบสวนของ สภ.ตระการพืชผล ประสานกับ พ.ต.อ.นิรันดร์ ปิตะกาศ ผกก.3 บก.ปราบปราม นำกำลังร่วมกับเข้าจับตัวนายวานิช ที่กลับไปทำงานที่ร้านซ่อมแอร์ที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
แม้นจะอ้างสาเหตุอะไรก็ตาม แต่ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า ทั้งคู่ร่วมกันวางแผน ลวงนายอภินันท์มาฆ่าไปได้
