คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ทนงศักดิ์ ศุภการ
เรื่อง/ภาพ
ด้วยอาชีพและหน้าที่การงาน ทำให้ตำรวจกับผู้สื่อข่าวอาชญากรรมนั้น ต้องเจอะเจอทำงานร่วมกันอยู่ตลอดเวลา ทั้งการติดตามข่าวคราวความคืบหน้าคดี ทำข่าวผลการจับกุมคนร้าย แทบจะเป็นเรื่องปกติที่ตำรวจและนักข่าวมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ช่วยให้ได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย
เช่น เหตุคนร้ายประกบยิง นายสมพงษ์ จันทรภูมิ อายุ 56 ปี ดับสยองคารถขายไอศกรีม นับเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ที่ทำเอาตำรวจ อ.หลังสวน จ.ชุมพร วิ่งวุ่นอยู่พักใหญ่ เนื่องจากยังคลำไม่เจอประเด็นการสังหาร จึงต้องอาศัยหลักฐาน-พยานในที่เกิดเหตุเป็นหลัก เสียเวลาตรวจสอบอยู่พักใหญ่ ในที่สุดก็สำเร็จสามารถจับกุมตัวผู้ที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีจนได้ ส่วนหนึ่งมาจากข้อมูลที่ได้รับจากผู้สื่อข่าว
เรื่องราวดังกล่าวเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 00.35 น. ของวันที่ 15 ก.พ. ร.ต.อ.เจริญทอง พุ่มพวงทอง รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านในหูต อ.หลังสวน จ.ชุมพร รับแจ้งมีผู้ถูกยิงตาย ที่หมู่ที่ 11 ต.นาขา อ.หลังสวน จ.ชุมพร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.สนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผบก.ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ.นิวัฒน์ ชื่นวิเศษ สวญ. ชุดสืบสวน ตร.สายตรวจ ตร.พิสูจน์หลักฐานจังหวัด และหน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีป
จุดเกิดเหตุอยู่บนถนนสายสวนผึ้ง-สะพานสูง หมู่ที่ 11 ต.นาขา อ.หลังสวน ห่างจากถนนเอเชีย 41 เพียง 1 ก.ม. จุดดังกล่าวเป็นที่เปลี่ยวมืดสนิท ที่ริมถนนพบรถจยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ ทะเบียน 4กบ 3693 กทม. ดัดแปลงพ่วงข้างสำหรับขายไอศกรีมยี่ห้อวอลล์ จอดอยู่ริมถนน
บนรถจยย. พบศพนายสมพงษ์ จันทรภูมิ อายุ 56 ปี อยู่ ถ.ประชาอุทิศ ต.ขันเงิน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ผู้ขับขี่นั่งก้มหน้าฟุบอยู่กับแฮนด์รถในชุดพนักงานขายไอศกรีม จากการชันสูตรเบื้องต้นพบมีบาดแผล ถูกยิงด้วยกระสุนปืน ขนาด .38 จำนวน 1 นัด เข้าที่กกหูด้านขวา หัวกระสุนฝังในกะโหลกศีรษะ นอกจากนี้ยังพบอุปกรณ์ขายไอศกรีมหล่นกระจายอยู่ที่พื้นถนน
พล.ต.ต.สนธิชัยสันนิษฐานว่า ในขณะที่นายสมพงษ์กำลังขับ จยย.พ่วงขายไอศกรีม เพื่อกลับบ้าน ห่างจากที่เกิดเหตุเพียง 1 ก.ม. น่าจะมีคนร้ายตามมาแล้วเรียกให้นายสมพงษ์หยุดรถ ก่อนที่จะชักปืนออกมาจ่อยิง เมื่อเห็นว่า นายสมพงษ์เสียชีวิตแล้วจึงหลบหนีไปโดย ไม่แตะต้องทรัพย์สินใดๆ
ส่วนสาเหตุการสังหารอย่างเหี้ยมโหด ผบก.ตร.ชุมพร สันนิษฐานเบื้องต้นว่า น่าจะมาจากเรื่องขัดแย้งส่วนตัว เช่น เรื่องชู้สาว เรื่องหนี้สินของผู้ตายที่ติดค้าง คนใกล้ชิดไว้จำนวนหนึ่ง หรือกรณีที่นาย สมพงษ์ เวลาเมามักจะพูดจาไม่เข้าหูผู้อื่นอยู่บ่อยๆ
ทั้งนี้ คนใกล้บ้านนายสมพงษ์เล่าว่านายสมพงษ์ เพิ่งย้ายจากในตลาดหลังสวนมาเช่าบ้านอยู่ละแวกนี้ได้เพียงไม่กี่วัน เหมือนจะย้ายเพราะความกลัวอะไรบางอย่าง แต่ไม่ทันได้สนิทสนมกัน เมื่อ 3 วันก่อนนายสมพงษ์พาผู้หญิงวัยราวๆ สามสิบกว่ามาค้างคืนอยู่ครั้งหนึ่ง
ผู้บังคับการ ตร.ชุมพรกล่าวว่า นาย สมพงษ์ทำอาชีพขายไอศกรีมยี่ห้อวอลล์นี้มานานหลายปี แต่มีหนี้สินหลายด้าน เนื่องจากนายสมพงษ์มักชอบดื่มเหล้าและคบหาผู้หญิง อีกทั้งชอบพูดจาเสียงดัง และข่มขู่ผู้อื่นอยู่บ่อยครั้ง อาจทำให้มีผู้ไม่พอใจ จึงตามมาสังหารนายสมพงษ์ในครั้งนี้
ตำรวจนำตัวผู้เกี่ยวข้องมาสอบปากคำหลายราย แต่ก็ไม่พบประเด็นที่จะเป็นปมสังหาร จนทราบจากผู้สื่อข่าวที่ไปในที่เกิดเหตุในคืนนั้นว่า ในคืน ดังกล่าวได้คุยกับนายมนัส ฟักทอง อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 2 ต.ปากฉลุย อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี ผู้จัดการศูนย์ขายไอศกรีมยี่ห้อดัง อ.หลังสวน จ.ชุมพร ที่มาดูที่เกิดเหตุอยู่ด้วย
นายมนัสบอกกับผู้สื่อข่าวว่าผู้ตายเป็นลูกน้องของตนและติดค้างค่าขายไอศกรีมเป็นเงินหลายหมื่นบาท แต่ท่าทีของนายมนัสนั้นชวนให้พิรุธ ด้วยมีอาการตื่นเต้นจนมือไม้สั่น ประกอบกับมีกล้องวงจรปิดใกล้กับที่เกิดเหตุ จับภาพรถยนต์ต้องสงสัยที่ขับอยู่ในช่วงเวลาเกิดเหตุเอาไว้ได้ชัดเจน
ตำรวจนำทะเบียนรถไปตรวจสอบก็พบว่าเป็นรถของนายมนัส ที่กำลังผ่อนชำระไฟแนนช์อยู่ จึงประสาน พ.ท.สะอาด พาหา นายทหาร มทบ.44 ชุมพร นำตัวนายมนัสมาสอบปากคำ เบื้องต้นนายมนัสให้การปฏิเสธ ต่อเมื่อตำรวจนำพยาน หลักฐานไปขอหมายจับจากศาลจังหวัดหลังสวน ศาลอนุมัติหมายจับ ที่ 22/2560 เจ้าตัวจึงยอมรับสารภาพ ว่าเป็นคนยิงนายสมพงษ์ด้วยตนเอง
สาเหตุมาจากในคืนนั้นขับรถตามไปยังบ้านนายสมพงษ์ เพื่อจะได้พูดคุยกันเรื่องให้เพิ่มพนักงานขายในสายของนาย สมพงษ์ แต่นายสมพงษ์ไม่ยอมเพราะกลัวรายได้ลดลง พร้อมทั้งขู่ว่าจะฆ่า เนื่องจากในอดีตเคยฆ่ากระทั่งเมียของตัวเอง มาแล้ว
คำขู่ทำให้นายมนัสโกรธจัด วิ่งไปหยิบปืนขนาด.38 ที่อยู่ในรถยนต์มาจ่อยิงนายสมพงษ์จนตายคารถ แล้วกลับไปซุ่มอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ เมื่อตำรวจมาที่เกิดเหตุก็ทำทีมาดูที่เกิดเหตุด้วย เมื่อนักข่าวไปสอบถามก็แสดงพิรุธจนมาถูกจับกุมได้ในที่สุด
บ่ายวันที่ 22 ก.พ. ตำรวจคุมตัวนายมนัสไปทำแผนประทุษกรรมประกอบคำรับสารภาพนาทีลั่นไกสังหารนายสมพงษ์ ก่อนคุมตัวกลับมาดำเนินคดีในข้อหา “ฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนา” ปิดคดีได้อย่างสมบูรณ์
