คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
สุพล บุญชื่นชม
เรื่อง/ภาพ
ช่วงสายวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ตำรวจภาค 4 ก็โชว์ฟอร์มคลี่คลายเหตุฆาตกรรมโหดได้อีก 1 คดี
เมื่อพล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พล.ต.ต.สุทิพย์ ผลิตกุศลธัช ผบก.ภ.จว.เลย พ.ต.อ. ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.กิตติพงษ์ จิตรคาม ผกก.สส.1 บก. สส.ภ.4 พ.ต.อ.เอกพงษ์ พลมณี ผกก.สภ.เชียงคาน พ.ต.อ.วรการ บุญประคอง ผกก.สส.ภ.จว.เลย ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมฆาตกรฆ่านายศักดิ์ดำรง มาอ่อน อายุ 54 ปี ที่อยู่ 33 หมู่ 3 ต.จอมศรี อ.เชียงคาน จ.เลย
ผู้ต้องหาก็ไม่ใช่คนอื่นไกล แต่คือนายจิตร ไชยคีนี อายุ 66 ปี พี่เขยของผู้ตาย ซึ่งเป็นคนลั่นไกสังหาร และนางปราณี มาอ่อน อายุ 52 ปี ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้จ้างวาน
ปฐมบทคดีเมียจ้างญาติสนิทฆ่าผัวตัวเองครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวันที่ 22 ก.พ.ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้พบศพนายศักดิ์ดำรงถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซอง เสียชีวิตจมกองเลือดคาไร่ข้าวโพดของตัวเอง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากบ้านพักเท่าไหร่
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.ภาค 4 สนธิกำลังร่วม กก.สส.บก.ภ.จว.เลย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสภ.เชียงคาน กระจายกำลังออกสืบหาเบาะแส
เพียงไม่นานก็ได้ข้อมูลจากสายสืบที่แฝงตัวปะปนกับ วัยรุ่นที่ติดยาเสพติดในพื้นที่ ว่าผู้ที่ต้องสงสัยในคดีนี้มากที่สุด คือนายจิตรซึ่งเป็นคู่เขยกับผู้ตาย
เนื่องจากก่อนเกิดเหตุมีผู้พบเห็นนายจิตร ที่ปกติไปทำงานก่อสร้างอยู่ต่างพื้นที่ กลับมาวนเวียนอยู่ในหมู่บ้าน พร้อมติดต่อซื้อปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์จากกลุ่มขี้ยาไป 1 กระบอก จากนั้นไม่นานนายศักดิ์ดำรงถูกปืนลูกซองยิงเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปเชิญตัวมาสอบสวน
หลังเค้นสอบอยู่ไม่นาน นายจิตรก็ยอมเปิดปากรับสารภาพว่า เป็นผู้ลั่นไกสังหารคู่เขยเอง เพราะรับการว่าจ้างจากนางปราณีน้องเมียของตัวเอง และเป็นภรรยาของเป้าสังหาร
ตำรวจจึงตามไปจับตัวมาสอบปากคำอีกคนเพื่อหาข้อเท็จริงทั้งหมด ซึ่งนางก็ยอมรับสารภาพแต่โดยดี
นางปราณีร่ำไห้สารภาพว่า ทนพฤติกรรมของสามีไม่ไหว เพราะมีนิสัยชอบทำร้ายร่างกายตนและลูกเป็นประจำ อีกทั้งมีพฤติกรรมเสพและค้ายาเสพติด ติดการพนัน
รวมทั้งบังคับให้นำที่ดินทรัพย์สินมรดก ไปจำนองธนาคาร เพื่อเอาเงินออกมา ให้ไปเล่นการพนันและซื้อยาเสพติด
จึงนำเรื่องไปขอความช่วยเหลือจากนายจิตรผู้เป็นพี่เขย จ้างวานให้ฆ่าสามีตัวเองในราคา 20,000 บาท โดยจ่ายเงินล่วงหน้าไปแล้ว 9,000 บาท ส่วนที่เหลือจะจ่ายหลังจากงานศพเสร็จสิ้น
ด้านนายจิตรสารภาพว่า สงสารน้องเมียเพราะเห็นว่าต้องทนทุกข์ทรมานกับพฤติกรรมของนายศักดิ์ดำรงมาเป็นเวลานาน แม้ว่านางปราณีจะขอหย่าหลายครั้งแล้ว แต่นายศักดิ์ดำรงก็ไม่ยอมหย่า มีแต่สร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัวและญาติ จึงยอมเป็นมือสังหารในที่สุด
นายจิตรยังบรรยายรายละเอียด ในวันลอบสังหารว่า หลังจากหาซื้อปืนมาได้ ในช่วงค่ำวันที่ 21 ก.พ. ก็ซุ่มอยู่ใน ไร่ข้าวโพดของผู้ตาย เนื่องจากรู้ดีว่านายศักดิ์ดำรงค์ต้องมาสูบน้ำรดข้าวโพด
ขณะที่ผู้ตายกำลังก้มหน้าก้มตาติดเครื่องสูบน้ำอยู่นั้น นายจิตรจึงสบโอกาสย่องเข้าไปจ่อยิงจนเสียชีวิตคาที่ จากนั้นหนีไปทำงาน รับเหมาก่อสร้างที่ต่างอำเภอและใช้ชีวิตตามปกติ กระทั่งถูก เจ้าหน้าที่ตามไปจับกุมได้ในที่สุด
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัติของผู้ตาย ก็ทราบว่าโชกโชนไม่ใช่เล่น เคยต้องโทษในคดีครอบครองยาเสพติด เพื่อจำหน่ายเมื่อปี 2554 เพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อปี 2559 หลังพ้นโทษออกมาก็ยังไม่หลาบจำ ยังมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและการพนัน
แม้นางปราณีและพี่เขยจะอ้างสาเหตุว่า สุดที่จะทานทนพฤติกรรมอันเลวร้ายไม่ไหว แต่ก่อเหตุอุกฉกรรจ์ขนาดนี้ จึงต้องก้มหน้ายอมรับโทษตามกฎหมายบ้านเมือง
