เหยื่อเล่า!นาที ‘สิบโทดุ’ มีดแทง-เก๋งชนหนุ่มดับ สยองงานเลี้ยงบวชพระ : สดจากสนามข่าว
บ่ายวันที่ 8 เม.ย. ส.ท.ทัศนัย สีคราม อายุ 25 ปี พร้อมนายทหารพระธรรมนูญ เข้ามามอบตัวกับ ร.ต.อ.ชัยยันต์ คุณรักษ์ ร้อยเวร สอบสวน สภ.คลองหลวง หลังก่อเหตุใช้อาวุธมีดแทงและขับรถยนต์พุ่งชน วัยรุ่นคู่อริ ภายในงานฉลองอุปสมบท ในอาคารอเนกประสงค์เทศบาลเมือง ท่าโขลง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จนเป็นเหตุให้วัยรุ่นอายุ 17 ปี เสียชีวิตและมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย
ส.ท.ทัศนัย รับสารภาพว่า ที่ตนเองทำไปนั้นเพื่อเป็นการป้องกันตัว จากนั้นทางผู้บังคับบัญชาก็ได้นำตัวขึ้นรถ ขับตามรถเจ้าหน้าที่ตำรวจออกไปจาก สภ.คลองหลวง
ย้อนไปเมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 6 เม.ย. ร.ต.อ.ชัยยันต์ คุณรักษ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทกลางงานเลี้ยงบวชพระ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณอาคารอเนกประสงค์ ภายในเทศบาลเมืองท่าโขลง ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งฮอนด้า ทะเบียน 1 กอ 4621 กรุงเทพมหานคร ถูกทุบด้วยของแข็งพังยับเยินไปทั้งคัน และมีเก้าอี้หักพังระเนระนาด
ขณะที่ผู้บาดเจ็บซึ่งทราบว่ามี 3 คน เจ้าหน้าที่มูลนิธิ ป่อเต็กตึ๊งและรถกู้ชีพเทศบาลเมือง ท่าโขลง นำส่งโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติไปก่อนแล้ว ทราบ ชื่อต่อมาคือนายนพชัย มีเคลือบ อายุ 18 ปี ถูกรถเฉี่ยวชนมีอาการแน่นหน้าอก นายนิวัฒน์ จอมมะเลื่อม อายุ 25 ปี ถูกฟันที่ใบหน้า และนายชัยพัทธ์ สิริปิ อายุ 17 ปี ถูกรถเฉี่ยวชนที่ศีรษะและถูกแทงที่หน้าอกซ้าย อาการสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
นายนิวัฒน์ จอมมะเริง หรือ เอ อายุ 25 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บเปิดเผยว่า ตนไปร่วมงานฉลองอุปสมบท รุ่นน้อง ขณะเกิดเหตุกำลังเดินกลับ และกำลังขึ้นคร่อมรถจยย.เพื่อสตาร์ต จากนั้น ส.ท.ทัศนัยเดินมาหาตนเองแล้วก็พูดว่า “ข้องอะไรหรือเปล่า” จากนั้นเพื่อนของส.ท.ทัศนัยเดินมาหาตนเองและพูดคุยด้วยดีบอกว่า “ใจเย็นมันเมา ไม่เป็นไร”
“ให้ผมจับมือกับส.ท.ทัศนัยผมก็ยอมจับ แต่เขาไม่จับมือด้วยและสะบัดมือหนี จากนั้นก็ต่อยผมเลย ก่อนจะมีกลุ่มเพื่อนผู้ต้องหาและเพื่อนผมเข้ามาห้ามปราม แต่เขายังวิ่งไปคว้ามีดปรี่เข้ามาแทงถูกที่หน้าผมจนได้รับบาดเจ็บ กลุ่มเพื่อนๆ จึงเข้ามาห้ามปราม ผมก็บอกกับเพื่อนผู้ก่อเหตุที่ชื่อตองไปว่า ผมไม่ได้มีอะไรนะมาช่วยงานสนุกๆ ก่อนที่ส.ท.ทัศนัยจะวิ่งไปขึ้นรถยนต์ของตนเองและสตาร์ตเครื่องพุ่งชนน้องที่เสียชีวิตและวัยรุ่นที่ยืนบริเวณทางออกจากงานคล้ายจะหลบหนี แต่ไปไม่ได้เพราะมีคนยืนอยู่จำนวนมาก ก่อนจะเปิดประตูแล้ววิ่งหลบหนี ยืนยันว่าผมไปร่วมงานเพียงคนเดียว ก่อนจะไปเจอนาคที่เป็นรุ่นน้อง และไม่ได้นั่งโต๊ะเดียวกันกับผู้เสียชีวิต กลุ่มเพื่อนก็ไม่มีใครมีเรื่องกับผู้ก่อเหตุและไม่รู้จักด้วยซ้ำ ก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องมาทำร้ายกันด้วย” นายนิวัฒน์ กล่าว
ขณะที่ภายหลังรับมอบตัว ร.ต.อ.ชัยยันต์ คุณรักษ์ พนักงานสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้แจ้งข้อหา “ทำร้าย ผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความตายและได้รับบาดเจ็บสาหัส พกอาวุธไป ในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผยหรือโดยไม่มีเหตุสมควร หรือพาไปในชุมนุมชนที่ได้จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการ การรื่นเริงหรือการอื่นใด” และได้ส่งตัวส.ท.ทัศนัยให้นายทหารพระธรรมนูญนำตัวไปฝากขังศาลทหาร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายวสุ สิริปิ อายุ 46 ปี บิดา ผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ตนมีลูกชายเพียงคนเดียว วันที่ 19 เม.ย. นี้ ก็จะรับใบประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) แผนกช่างไฟฟ้า ของสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคลในครอบครัวของผู้ก่อเหตุออกมาให้การรับผิดชอบหรือเข้าขอขมาศพซึ่งหากจะมาขอโทษหรือขอขมาตนเองก็พร้อมที่จะพูดคุย อยากรู้ว่าทำไมถึงต้องทำกับลูกชายตนเองแบบนี้
อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งผลทางคดีให้ทราบด้วยว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว เพราะถึงขณะนี้ตนเองทราบจากข่าวเพียงเท่านั้นจึงไม่ทราบว่าถึงขั้นตอนไหนแล้ว เพราะยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชี้แจงให้ทราบกลัวว่าเรื่องจะเงียบไป
ตั้งใจมาร่วมอนุโมทนาบุญกับพระใหม่ด้วยกันแท้ๆ แต่สุดท้ายต้องมากลายเป็นเรื่องเศร้า ต้นเหตุส่วนหนึ่งก็หนีไม่พ้นเพราะดื่มสุราจนขาดสติอีกเช่นเคย