ปิดคดีโจรมุดท่อหนี กวาดทองหนัก109 บาท มอบตัวกลัวโดนจับตาย

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ปิดคดีโจรมุดท่อหนี กวาดทองหนัก109 บาท มอบตัวกลัวโดนจับตาย – ร้านทองภายในห้างสรรพสินค้า เป็นตัวเลือกอันดับแรกๆ ของโจรมือใหม่ ด้วยความที่อยู่ภายในห้าง ทำให้การป้องกันไม่สามารถทำได้เต็มที่

ล่าสุดเมื่อสายวันที่ 28 เม.ย. พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พ.ต.อ.กรวัฒน์ หันประดิษฐ์ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชโลธร เปรมปรี ผกก.สภ.สัตหีบ, พ.ต.ต.ธนา วิเศษชัย สว.สส. นำกำลังชุดสืบสวนรุดไปตรวจสอบ ภายในห้างทองสุพัตราเยาวราช ภายในห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี สาขาสัตหีบ จ.ชลบุรี หลัง ร.ต.อ.สินสมุทร บุญทัศนา ร้อยเวร สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายชิงทรัพย์สร้อยทองรูปพรรณ ภายในห้างทองดังกล่าว

เดินทางไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นร้านทองของ ดร.สะถิระ เผือกประพันธุ์ ว่าที่ส.ส.เขต 8 ชลบุรี พบพนักงานกำลังแตกตื่นกับเหตุการณ์ พร้อมระบุทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปเป็นสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 6 เส้น หนัก 3 บาท 21 เส้น และสร้อยคอ หนัก 2 สลึง 32 เส้น รวม 59 เส้น น้ำหนักรวมทั้งหมด 109 บาท มูลค่ากว่า 2,120,050 บาท

ปิดคดีโจรมุดท่อหนี กวาดทองหนัก109 บาท มอบตัวกลัวโดนจับตาย

สอบปากคำพนักงานและดูภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่าคนร้ายเป็นชายรูปร่างท้วม สูงประมาณ 165-175 ซ.ม. ใส่ชุดดำสวมเสื้อยืดแขนยาว กางเกงขายาว รองเท้าหนังสีน้ำตาล สวมหมวกลายพรางและมีไอ้โม่งลายพรางปิดบังหน้าตา ใช้ปืนพกสั้นแบบออโตเมติกขู่พนักงานแล้วเดินอ้อมเข้ามาหลังเคาน์เตอร์ กวาดทองรูปพรรณใส่ถุงพลาสติกที่สั่งให้พนักงานคนหนึ่งถือรอเอาไว้ จากนั้นวิ่งหลบหนีไป โดยใช้เวลาก่อเหตุราวๆ 1 นาทีเท่านั้น

ตํารวจออกหาเบาะแสพบว่าคนร้ายวิ่งหนีออกมา ด้านข้างของห้าง ก่อนมุดท่อระบายน้ำขนาดใหญ่ ที่ไปออกบริเวณป่าหญ้าด้านหลัง เมื่อออกตรวจค้นพบพยานระบุว่าเห็นคนร้ายวิ่งมาด้านหลังตลาดทองทิพย์เตาถ่าน ห่างจากห้างสรรพสินค้า บิ๊กซีประมาณ 300 เมตร ก่อนเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อยืดสีเหลืองแขนสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นฟิโอเร่ สีแดง ไม่ทราบทะเบียน หลบหนีไปทางถนนสุขุมวิท โดยบริเวณที่คนร้ายมาเปลี่ยนชุดตำรวจพบหมวกลายพราง ถุงมือ และกล่องใส่ปืนบีบีกัน รุ่น M92 คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ

ปิดคดีโจรมุดท่อหนี กวาดทองหนัก109 บาท มอบตัวกลัวโดนจับตาย

พ.ต.อ.กรวัฒน์ส่งชุดสืบสวนจังหวัดชลบุรีลง มาในพื้นที่ทำงานร่วมกับชุดสืบสวน สภ.สัตหีบ โดยแบ่งเจ้าหน้าที่ออกเป็น 3 ชุด กระจายกำลังตรวจสอบ 3 เรื่อง คือ ภาพจากกล้องวงจรปิด ตรวจสอบรูปพรรณคนร้ายโดยละเอียด และเส้นทางหลบหนี, หาพยานบุคคลและพยานแวดล้อม และเรื่องหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ตรวจหาดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝง พร้อมแจ้งไปยัง สภ.ใกล้เคียงให้ตั้งด่านตรวจค้นรถและหาบุคคลที่น่าสงสัย

ปิดคดีโจรมุดท่อหนี กวาดทองหนัก109 บาท มอบตัวกลัวโดนจับตาย

ตำรวจไล่เช็กวงจรปิดและรถจยย. จนทราบว่าคนร้ายคือ นายศรชัย นิลสนธิ อายุ 34 ปี ชาว ต.บึงบ้า อ.วชิรบารมี จ.พิจิตร จึงขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในวันนั้นเอง

หลังมีข่าวว่าตำรวจรู้ตัวคนร้ายแล้ว ญาติได้นำตัวนายศรชัย เข้ามอบตัวที่ สภ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา

ต่อมาเวลา 10.00 น. วันที่ 30 เม.ย. พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ. 2 พร้อมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าสอบสวน ผู้ต้องหา ก่อนนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ภายในร้านทองที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าหลังจากก่อเหตุ นายศรชัยได้หลบหนีไปกบดานใน จ.พิจิตร จึงติดต่อให้มอบตัวและกดดันอย่างหนัก จนที่สุดนายศรชัยติดต่อขอเข้ามอบตัวที่สภ.ภาชี เนื่องจากญาติพี่น้องรู้จักกับตำรวจ

ปิดคดีโจรมุดท่อหนี กวาดทองหนัก109 บาท มอบตัวกลัวโดนจับตาย

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยจากกล้องวงจรปิดตามถนนที่คนร้ายใช้ในการหลบหนี จนทราบว่าคนร้ายใช้ จยย.ยามาฮ่า ฟิโอเร่ สีแดง ทะเบียน จวฉ-469 ชลบุรี และสืบทราบจนถึงตัวผู้ต้องหาและทราบว่าได้หลบหนีไปยัง จ.พิจิตร โดยของกลางทองคำหนัก 109 บาท ยังอยู่ครบ ผู้ต้องหานำไปซุกซ่อนภายในบ้านพักที่บ้านเอื้ออาทร อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ว่าที่ก่อเหตุเพราะติดหนี้พนันไฮโล โดยเป็นหนี้เงินสดจำนวน 100,000 บาท และนำรถกระบะไปจำนำเพิ่มอีก 150,000 บาท ในเมืองพัทยา และอยากหาเงินเพื่อกลับไปอยู่กับแม่ที่ จ.พิจิตร นำเงินไปรักษาแม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็ง

ปิดคดีโจรมุดท่อหนี กวาดทองหนัก109 บาท มอบตัวกลัวโดนจับตาย

ส่วนอาวุธที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนบีบีกัน ซื้อจากตลาดนัดเทพประสิทธิ์ เมืองพัทยา เมื่อ 6 เดือนก่อน โดยขณะวิ่งหนีปืนหลุดจากมือร่วงลงไปในร่องน้ำ นอกจากนี้ได้ถอดแผ่นป้ายทะเบียน จยย. ทิ้งบริเวณอ่างเก็บน้ำมาบประชัน พื้นที่เมืองพัทยา จากนั้นหลบหนีไปอยู่ที่บ้านแม่ที่พิจิตร ก่อนจะเห็นตนเองในข่าว จึงสารภาพกับญาติว่าเป็นคนก่อเหตุ ก่อนจะติดต่อเข้ามอบตัวที่สภ.ภาชี เพราะญาติกลัวว่าตนจะถูกตำรวจวิสามัญฯ

ปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว แถมของกลางยังได้คืนครบ อย่างนี้ชาวบ้านก็อุ่นใจ

โดย…อุดมเกียรติ ทิพย์ศรี

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน