ย้อนคดีพ่อ-ลูกหัวร้อน

ฉุนปิกอัพไม่ให้ขับแทรก

ไล่ยิงกลางเมืองปัตตานี

ย้อนคดีพ่อ-ลูกหัวร้อน – ขับรถบนถนนทุกวันนี้ไม่ต่างกับอยู่ในสนามรบ อันธพาลท้องถนนมีทั้งขับปาดขับเบียดไม่สนใจใคร ลองใครไม่ยอมสิกลายเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที

เมื่อ 2 ทุ่ม วันที่ 28 เม.ย. ร.ต.อ.ศิริศักดิ์ หวังกุหลำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองปัตตานี รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณหน้าโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ถ.สะบารัง อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงนำกำลังไปตรวจที่เกิดเหตุ

พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน บจ 7786 ยะลา จอดอยู่ข้างทาง บริเวณขอบกระจกแค็บด้านซ้ายและกระบะมี รูกระสุน 2 แห่งภายในเบาะนั่งด้านหลังมีรอยเลือด ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำส่ง ร.พ.ปัตตานี ทราบชื่อต่อมาคือ น.ส.นูรีดา จารง อายุ 29 ปี มีบาดแผลถูกกระสุนปืนที่แขนซ้าย แพทย์รักษาอาการจนปลอดภัย

ย้อนคดีพ่อ-ลูกหัวร้อน ฉุนปิกอัพไม่ให้ขับแทรก ไล่ยิงกลางเมืองปัตตานี : สดจากสนามข่าว

นายอริสมาน สาเมาะ อายุ 35 ปี คนขับรถ เล่าเหตุการณ์ระทึกว่า คนร้ายขับมิตซูบิชิ สเปซวากอน ไม่ทราบทะเบียนขับมาตีคู่รถของตน จากนั้นตนเห็นคนที่อยู่ด้านข้างคนขับของรถคู่กรณี ได้เปิดกระจกรถก่อนจะยื่นตัวออกจากกระจกข้าง และใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเข้าใส่รถของตนทันที

ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากที่ก่อนเกิดเหตุตนขับรถมาตามถนนหนองจิก กำลังจะขับรถเข้าด่านจุดตรวจ ซึ่งมีรถต่อแถวกันยาว ส่วนรถคู่กรณีขับมาเลนซ้าย และพยายามที่จะตัดหน้ารถตนเองเพื่อที่ต้องการจะเข้าด่าน แต่เนื่องจากรถที่กำลังเข้าด่านเป็นแถวยาว ตนจึงไม่ยอมให้รถคู่กรณีแหย่รถเข้ามาในแถว ทำให้รถคู่กรณีไม่พอใจ จึงได้ขับรถไปข้างหน้า เมื่อผ่านเข้าด่านแล้วตนก็ไม่ได้สนใจขับรถต่อไป

ย้อนคดีพ่อ-ลูกหัวร้อน ฉุนปิกอัพไม่ให้ขับแทรก ไล่ยิงกลางเมืองปัตตานี : สดจากสนามข่าว

แต่พอขับเลยด่านมาก็พบรถคู่กรณีชะลออยู่ พอเจอรถตนก็ขับพยายามเบียดรถตน จนมีการขับปาดกันไปมา จนเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถคู่กรณีดังกล่าวเร่งความเร็ว เพื่อขับรถมาตีคู่รถของตน จากนั้นคนที่อยู่ด้านข้างคนขับเปิดกระจกรถยื่นตัวออกมา และใช้อาวุธปืนพกสั้นไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงเข้าใส่รถของตนทันที ทำให้กระสุนปืนไปโดน น.ส.นูรีดา ซึ่งนั่งอยู่ที่แค็บด้านซ้าย ที่แขนได้รับบาดเจ็บก่อนที่คนร้ายจะเร่งเครื่องหลบหนีไป

“ผมก็ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ ถ้ารู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ก็คงไม่กล้าขับตาม เนื่องจากในรถมีคนมาด้วย 10 คน รวมเด็กๆ ด้วย ส่วนคู่กรณีผมก็ไม่รู้จักมาก่อน แล้วก็ไม่ใช่คนในพื้นที่ปัตตานีด้วย” นายอริสมานให้การ

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จนทราบว่ารถคนร้ายที่ก่อเหตุ เป็นรถมิตซูบิชิ สเปซวากอน ทะเบียน ฌว 1423 กทม. เมื่อไล่ตรวจภาพจากกล้องทุกตัว จึงรู้ว่าผู้ที่ก่อเหตุขับหลบหนีเข้าไปในพื้นที่ ต.บาราโฮม อ.เมือง จ.ปัตตานี

ย้อนคดีพ่อ-ลูกหัวร้อน ฉุนปิกอัพไม่ให้ขับแทรก ไล่ยิงกลางเมืองปัตตานี : สดจากสนามข่าว

พ.ต.อ.ญาณพงศ์ อุบลบาน ผกก.สภ.เมืองปัตตานี สั่งการให้นำกำลังเข้าตรวจค้นจนสามารถยึดรถคันดังกล่าวได้หน้าบ้านเช่าตรวจสอบพบว่าเป็นรถคันเดียวกันที่ปรากฏในภาพ กระทั่งวันรุ่งขึ้นก็สามารถจับกุมตัวหนึ่งในผู้ก่อเหตุเอาไว้ได้

ชุดสืบสวนไล่ตรวจสอบจนพบรถคันดังกล่าวจอดอยู่หน้าบ้านเช่าหลังหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมตัว นายมูหะมัดยากี สาแม อายุ 46 ปี ซึ่งยอมรับว่าช่วงเกิดเหตุเป็นคนขับ ส่วนคนที่ใช้อาวุธปืนยิงนั้นคือ นายฮากิม สาแม อายุ 26 ปี ลูกชายของตนซึ่งขณะนี้หนีไปไม่รู้ว่าอยู่ไหน เจ้าหน้าที่จึงนำตัวไปสอบสวนที่ สภ.เมืองปัตตานี พร้อมกับนำรถคันก่อเหตุไปด้วยและอาวุธปืนสั้นอีก 2 กระบอกซึ่งตรวจยึดได้ภายในบ้านเช่า

ย้อนคดีพ่อ-ลูกหัวร้อน ฉุนปิกอัพไม่ให้ขับแทรก ไล่ยิงกลางเมืองปัตตานี : สดจากสนามข่าว

พ.ต.อ.ญาณพงศ์กล่าวว่า เหตุครั้งนี้เกิดจากบันดาลโทสะขับรถปาดกันไปปาดกันมาหลังจากเกิดขึ้นที่ด่านตรวจ ถ.หนองจิก ซึ่งผู้ที่ยิงคือคนที่นั่งอยู่ในรถมิตซูบิชิ ใช้อาวุธปืน ขนาด .357 ยิง 2 นัดถูกคนที่นั่งในรถกระบะบาดเจ็บ คือ น.ส.นูรีดา จารง อายุ 29 ปี กระสุนถูกที่ข้อมือซ้าย แพทย์ได้ผ่าตัดนำกระสุนออกจนปลอดภัยแล้ว ส่วนนายฮากิมหลังก่อเหตุได้หลบหนีไป

ส่วนนายมูหะมัดยากีให้การสารภาพว่า ตนจะขับรถเข้าด่านแต่รถกระบะไม่ยอม เมื่อพ้นด่านก็ให้รถคู่กรณีไปก่อน แต่ก็มีการขับแซงไปแซงมา ตนก็กลัวเหมือนกัน พอมาถึงที่แยกไฟแดงรถกระบะคู่กรณีก็ขับปาดหน้า ช่วงนั้นก็ไม่ทันสังเกตว่าลูกชายมีปืนมาแล้วยิงใส่รถกระบะ

ย้อนคดีพ่อ-ลูกหัวร้อน ฉุนปิกอัพไม่ให้ขับแทรก ไล่ยิงกลางเมืองปัตตานี : สดจากสนามข่าว

หลังก่อเหตุก็ขับรถกลับบ้าน ส่วนลูกชายตนเองตอนนี้ไม่รู้ไปไหนถ้ารู้ก็จะนำตัวลูกชายมามอบตัว ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ซึ่งลูกชายเป็นคนอารมณ์ร้อน ถ้าลูกชายขับอาจเละกว่านี้

“ผมรู้สึกเสียใจที่เกิดขึ้น เพราะลูกชายเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าเพียง 7 เดือน ไม่ได้จะคิดหนี เมื่อเกิดเหตุตนก็ขับกลับบ้านรู้ว่าผิดกฎหมายที่ใช้อาวุธยิง เมื่อมาถึงบ้านลูกชายก็หายตัวไปแล้ว เหตุที่ไม่จอดรถเมื่อคืนเพราะผมกลัวว่าจะมีเรื่องมากกว่านี้ ขอโทษอีกฝ่ายที่เกิดเรื่องแบบนี้ หลังประกันตัวผมจะไปเยี่ยมผู้บาดเจ็บ และจะดูแลเยียวยาคู่กรณีเพราะเราไม่อยากมีปัญหากัน” พ่อมือปืนกล่าวด้วยความสำนึกผิด

โดย สาเล็ม ครู เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน