คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
วันชัย พูลเพิ่มพันธ์
ยุวนิต สังวาลพานิช
เรื่อง/ภาพ
ไม่รู้ว่ามายาคติ “คนไทยอ่านหนังสือ ปีละ 8 บรรทัด” จะเป็นจริงหรืออย่างไร???
ทำให้ข่าวเจ้าหน้าที่บ้านเมืองจับกุมโจรปล้นธนาคารขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน กลับไม่เคยเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้ที่หวังรวยทางลัดด้วยวิธีง่ายๆ แบบนี้เลยสักนิด
ล่าสุดก็เกิดเหตุขึ้นอีกในช่วงบ่ายวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เมื่อจู่ๆ สัญญาณแจ้งเตือนภัยจากธนาคารกรุงไทย สาขาดอนตูม อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นที่โรงพักดอนตูม
เมื่อ ร.ต.อ.ศิวดล แผนตั้งต่อ รองสว.(สอบสวน) ที่เข้าเวรอยู่ รีบประสานกลับไปก็ทราบว่าเกิดเหตุปล้นธนาคารขึ้น จึงรีบรายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบธนาคารที่เกิดเหตุ พร้อม พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภาค 7 พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบก.ภ.จว.นครปฐม พ.ต.อ. อนุจันทร์ จันทร์พฤกษ์ รอง ผบก. พ.ต.อ.สุรชัย สุกใส ผกก.สภ.ดอนตูม พ.ต.ท.อำพล ภัทรมงคลกุล รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน บช.ภาค 7, ภ.จว.นครปฐม ชุดสืบสภ.ดอนตูมและกองพิสูจน์หลักฐาน 7 ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ
ธนาคารที่เกิดเหตุตั้งอยู่เลขที่ 76/3 หมู่ 1 ต.สามง่าม อ.ดอนตูม เป็นอาคารที่ทำการชั้นเดียว ริมถนนสายดอนตูม
เจ้าหน้าที่พบพนักงานธนาคารทั้งชายและหญิงต่างอยู่ในอาการตกใจกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ จึงกระจายกันสอบถามถึงรูปพรรณสันฐานและลักษณะของคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุ
จากการสอบทราบว่า ขณะที่นางอุไรวรรณ โชติกุลบวร พนักงานธนาคารซึ่งนั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ เป็นช่วงเวลาประมาณ 13.14 น.
ขณะนั้นมีชายสวมเสื้อชุดลายพรางทหารทั้งชุด เป็นเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว สวมรองเท้าหนังหุ้มข้อสีดำ ใช้หน้ากากอนามัยสีขาวปิดบังใบหน้า สวมทับด้วยหมวกกันน็อก 7 แบบเต็มใบ และมีวิทยุสื่อสารเหน็บอยู่ที่เอวด้านขวา เดินเข้ามาพร้อมชักอาวุธปืนส่องเข้ามาที่นางอุไรวรรณ
ด้วยความตกใจจึงต้องรีบหยิบเงินสดจากลิ้นชักส่งให้คนร้าย จากนั้นคนร้ายได้เดินอ้อมมาที่โต๊ะแล้วหยิบเงินไปอีก รวมได้ เงินสดไปจำนวน 3.5 แสนบาท
เมื่อได้เงินเป็นที่พอใจ คนร้ายรีบเดินออกจากธนาคารไปขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์
หลังตั้งสติได้จึงมีผู้กดสัญญาณแจ้งภัยไปยังโรงพักดอนตูมทันที เมื่อตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบภาพคนร้ายสวมใส่ชุดลายพรางทหารเต็มตัว สวมหมวกกันน็อก เดินผ่านตู้เอทีเอ็ม จนถึงช่วงที่ใช้อาวุธปืนส่องเข้ามาที่พนักงานธนาคาร
หลังลงมือสำเร็จก็ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ สีน้ำเงินขาว ทะเบียน กงม 227 นครราชสีมา หลบหนีมุ่งหน้าไปยังหมู่บ้านสุขสบาย ต.ลำเหย อ.ดอนตูม จึงวิทยุประสานตำรวจสายตรวจที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ ต.ลำเหย ออกสกัดจับ กระทั่งจับกุมคนร้ายที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์ผ่านไปได้ทันควัน พร้อมเงินสดของกลาง วิทยุสื่อสาร และปืนบีบีกัน 1 กระบอก
สอบสวนทราบชื่อคนร้ายคือ นายพรชัย ธัญญาติ อายุ 42 ปี ชาว ต.บ่อพลับ อ.เมืองนครปฐม รับสารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐานว่า ก่อเหตุบุกเดี่ยวใช้ปืนปลอมปล้นธนาคารจริง เนื่องจากต้องการนำเงินไปชดใช้คู่กรณีที่ขับรถชนในพื้นที่ ต.ดอนตูม
นายพรชัยเผยว่า ประกอบอาชีพค้าขายของชำอยู่ที่บ้านเอื้ออาทร อ้อยอีเตี้ย ต.บ่อพลับ แต่รายได้ไม่พอเลี้ยงปากท้อง ค่าเช่าบ้านยังไม่มีจ่าย เมื่อขับรถไปเกิดอุบัติเหตุชนกับคู่กรณีขึ้นมาอีกจึงเครียดไม่รู้จะไปหาเงินที่ไหนมาชดใช้ให้ ทำให้ตัดสินใจก่อเหตุปล้นธนาคาร
ก่อนลงมือได้ขี่รถจักรยานยนต์วนเวียนดูลาดเลาตั้งแต่วันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา พบว่าธนาคารที่ก่อเหตุตั้งอยู่ในพื้นที่เปลี่ยว ห่างไกลจากตัวเมือง ผู้คนไม่พลุกพล่าน กระทั่งสบโอกาสลงมือโดยใช้ปืนบีบีกัน
หลังก่อเหตุขณะขี่รถจักรยานหลบหนี ก็ทยอยถอดหมวกกันน็อกและเสื้อทหารทิ้งระหว่างทางหวังตบตาเจ้าหน้าที่ แต่ก็หนีไม่รอดถูกตำรวจสายตรวจสกัดจับได้ในที่สุด
นอกจากจะไม่ได้เงินไปชดใช้คู่กรณีแล้ว พ่อค้าของชำรายนี้ยังต้องเข้าไปอยู่หลังมุ้งสายบัวอีกหลายปี เพราะหวังรวยทางลัด แต่ผิดอาญาบ้านเมือง!!?
