สดจากสนามข่าว
นพรัตน์ คุ้มศรี – พิชัย ศรีรุ่งเรือง / เรื่อง-ภาพ
คดีนี้คงไม่ถือเป็นเคราะห์หามยามซวย สำหรับ สุชาติ ชูเชิด โจรแสบปล้นจี้ชาวบ้าน ไม่เว้นแม้ตำรวจที่ต้องตกเป็นเหยื่อ เมื่อต้องมาจนมุมเพราะรถดันยางแตก ปิดฉากเส้นทางโจรหลังอาละวาดสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว จึงถือเป็นกรรมที่เกิดจากผลของการกระทำ!
จุดจบโจรแสบ เกิดขึ้นเวลา 22.30 น. วันที่ 20 ก.ย. เมื่อเจ้าของร้านประยาง ริมถนนวงแหวนตะวันตก หมู่ 2 ต.คลองพระอุดม อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี รีบคว้ามือถือออกจากกระเป๋ากางเกงขึ้นมากดหมายเลขโทรศัพท์แจ้งไปยังโรงพัก สภ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ด้วยเสียงละล่ำละลัก ว่ามีชายขับรถปิกอัพบดยางล้อหลังซ้ายที่แตกมาขอให้ ปะยาง
เจ้าของร้านประยาง ให้การเสียงรัวด้วยยังไม่หายตกใจต่อว่า ตนเห็นที่ตัวถังรถมีรอยคล้ายถูกกระสุนปืนยิงใส่จึงไม่ยอมปะยางที่แตกให้ ทำให้ชายคน ดังกล่าวโมโหชักปืนยิงขึ้นฟ้า ก่อนจะเร่งเครื่องขับรถออกจากร้านไป โดยเห็นไปจอดปะยางอยู่อีกร้านที่อยู่ถัดไป
ไม่นาน ร.ต.อ.วรภัค ศุภสวัสดิ์ รองสารวัตร(สอบสวน) พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูลศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สภ.ลาดหลุมแก้ว กำลังตำรวจสายตรวจและฝ่ายสืบสวน ก็มาถึงหน้าร้านปะยาง พบรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน สฮ 1592 กทม. จอดอยู่แต่ไม่เห็นเจ้าของรถ โดยสภาพรถล้อหลังซ้ายแตก ตัวถังด้านท้ายรถทั้ง 2 ฝั่งมีรูกระสุนปืนยิงทะลุเป็นรูโบ๋ 3 รู ภายในรถมีลังกระดาษใส่โทรศัพท์มือถือใหม่เอี่ยมอยู่เต็มลังกับอีก 1 ถุงพลาสติก นอกจากนี้ยังพบยาบ้า 30 เม็ด ยาไอซ์ 2 กรัม แผ่นป้ายทะเบียนสีเขียว บย 3964 บุรีรัมย์ อีก 1 แผ่น
เจ้าของร้านปะยางระบุ เห็นรถคันนี้ขับออกจากร้านปะยางที่อยู่ไม่ไกลกันนัก มาจอดหน้าร้านตนแล้วบอกให้ช่วยปะยางให้หน่อย ก็จะปะยางให้แต่เครื่องปะยางที่ร้านเสียใช้ไม่ได้ เลยถอดล้อออกแล้วให้แฟนขนยางไปปะที่ร้านแรก ถึงได้รู้ว่าเจ้าของร้านแรกไม่ปะให้ เพราะเห็นรถมีรอยกระสุนปืน จากนั้นมีรถตำรวจขับเข้ามา ทำให้ชายคนขับทิ้งรถวิ่งหลบหนีไปในซอยเลียบคลองผู้ใหญ่อยู่ โดยชายคนนั้นสวมเสื้อยืดคอกลมสีแดง สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีดำ
ตํารวจกระจายกำลังออกค้นหาทันที 1 ชั่วโมงผ่านไปก็เจอตัวมุดซ่อนอยู่ในพงหญ้า พร้อมปืนกล็อกขนาด 9 ม.ม. ทราบชื่อ ต่อมาคือ นายสุชาติ ชูเชิด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 44 ถนนชลประทาน ต.หนองจรเข้ อ.หนองแค จ.สระบุรี จากการตรวจสอบประวัติ พบมีหมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.202/2559 ลงวันที่ 13 ก.ย.2559 ข้อหายักยอกทรัพย์ หมายจับศาลจังหวัดนครปฐมที่ จ.230/2559 ลงวันที่ 25 ก.ค.2559 ข้อหาขับขี่รถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
เมื่อถูกตำรวจเค้นสอบอย่างหนัก ผู้ต้องหาหนีคดีก็ยอมรับสารภาพ
วันที่ 30 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้ก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ ทะเบียน คงข 290 ชลบุรี ย่านพุทธมณฑล จ.นครปฐม จากนั้นวันที่ 13 ก.ย. เวลา 5 ทุ่มแอบเข้าไปฉกอาวุธปืนกระบอกนี้มาจากตู้บริการประชาชนตำรวจทางหลวงวังน้อย แล้วใช้ปืนที่ขโมยมาได้ไปปล้นรถเมื่อวันที่ 15 ก.ย. เวลาทุ่มกว่าๆ ในพื้นที่ สภ.พระอินทร์ราชา จ.พระนครศรีอยุธยา พอได้รถแล้วก็ขับไปงัดร้านโทรศัพท์มือถือที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ได้มาทั้งหมด 27 เครื่อง เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา
ส่วนร่องรอยรูกระสุนโจรแสบบอกว่าเป็นคนยิงเอง “ระหว่างขับรถอยู่ดีๆจู่ๆยางล้อหลังเกิดระเบิด ผมโมโหมากเพราะตรงนั้นเปลี่ยวไม่มีบ้านคน เลยคว้าปืนออกยิงใส่รถเพื่อระบายอารมณ์ กระสุนไปโดนตัวถังเป็นรู พอใจเย็นแล้วก็ฝืนขับบดยางรถจนมาเจอร้านปะยาง แต่เจ้าของร้านกลับไม่ยอมปะให้อีก คราวนี้ถึงของขึ้นจึงชักปืนยิงขู่ จนกระทั่งตำรวจตามมาจับ” โจรแสบ รับสิ้น
บ่ายวันที่ 21 ก.ย. หน้าสภ.ลาดหลุมแก้ว พล.ต.ต.ถาวร ขาวสอาด ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สมหมาย ประสิทธิ์ รอง ผบก. พ.ต.อ. พูลศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผกก.สภ.ลาดหลุมแก้ว ร่วมแถลงข่าวจับกุมโจรแสบ พร้อมของกลางอย่างเป็นทางการ โดยมี นายวรวุฒท์ เจียกรัมย์ อายุ 32 ปี ชาวจ.บุรีรัมย์ เจ้าของรถปิกอัพอีซูซุ มาชี้ตัวยืนยันถูกโจรรายนี้ ที่ใช้ปืนจี้หัวไล่ลงจากรถย่านบางปะอิน ชิงรถหนีไปติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมใช้ก่อเหตุอีก
งานนี้โจรแสบโดนโทษอ่วม ทั้งข้อหาจี้ปล้น ลักทรัพย์ ยาเสพติด พร้อมคดีเก่าที่มีหมายจับติดตัวอีก 2 คดีรวมพื้นที่ก่อเหตุถึง 4 จังหวัด ถึงเวลารับโทษภัณฑ์จากผลกรรมที่ก่อไว้
