คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
สุเชษฐ์ แรกรุ่น
เรื่อง/ภาพ
ในยุคที่โจรขโมยชุกชุม ใครมาทำลับๆ ล่อๆ กลางดึก เป็นถูกสงสัยไปในทางร้ายเอาไว้ก่อน โดยเฉพาะคดีขโมยรถที่เกิดขึ้นทุกวัน
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ นายจตุรงค์ โพธิ์ศรี อายุ 19 ปี และนายสราวุฒิ รักเกียรติ อายุ 19 ปี 2 หนุ่ม ชาว ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จะเกิดความสงสัย เมื่อเห็นคนมายืนลับๆ ล่อๆ อยู่ข้างรถยนต์ของญาติ ที่จอดอยู่บริเวณหน้าร้านโกดำอะไหล่เก่า ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราช
2 หนุ่มตัดสินใจเข้าไปสอบถาม แต่พลันที่เอ่ยปาก กลับกลายเป็นชนวนเหตุให้ทั้งคู่ต้องถูกแทงตาย
เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา ร.ต.อ.ธนาร พันธ์ชู รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรี ธรรมราช รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดมีผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย บริเวณหน้าร้านโกดำอะไหล่เก่า ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง
จุดเกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บคือ นายจตุรงค์ โพธิ์ศรี อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 419/1 ม.1 ต.ปากพูน ถูกแทงด้วยอาวุธมีดปลายแหลมเข้าที่ชายโครงซ้ายด้านหลังเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แผล อีกรายคือ นายสราวุฒิ รักเกียรติ อายุ 19 ปี อยู่บ้านเลขที่ 419/4 ม.1 ต.ปากพูน ถูกแทงเข้าที่หน้าท้อง 1 แผลฉกรรจ์ จึงรีบนำตัวถูกนำส่ง ร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนที่ทั้ง 2 จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
พ.ต.ท.วินัย คงประพันธ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมือง ระบุว่า จากการสอบสวนคาดว่า ก่อนเกิดเหตุ นายจตุรงค์กับนายสราวุฒิ ไปพบเห็นคนร้ายซึ่งต้องสงสัยว่าจะขโมยรถ โดยเดินวนเวียนอยู่ข้างรถยนต์ของญาติที่จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ จึงเข้าไปสอบถามว่า “กำลังทำอะไร จะขโมยรถเหรอ” ทำให้ชายคนดังกล่าวไม่พอใจเกิดการทะเลาะกัน สุดท้ายจึงใช้อาวุธมีดแทงทั้งคู่จนบาดเจ็บสาหัส กระทั่งไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล
จากการไล่ตรวจภาพจากกล้องวงจรปิด ตอนนี้รู้แล้วว่าคนร้ายเป็นใคร อยู่ในระหว่างการติดตามของ เจ้าหน้าที่
ตํารวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช สืบสวนจนทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสราวุธ จันทร์เกลี้ยง อายุ 31 ปี หรือฉายา ‘หมอก มีดคู่’ อยู่บ้านเลขที่ 338/17 ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงรวบรวมพยานหลักฐาน ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เลขที่ 112/2560 ลงวันที่ 22 มี.ค.60 ในข้อหา ‘ฆ่าผู้อื่น’
ผ่านมาแค่วันเดียว 23.30 น. คืนวันที่ 23 มี.ค. พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ก็ได้รับรายงานจาก ร.ต.ท.สัญญา ช่วยเจริญ รอง สว.สส. ได้สืบสวนพบว่านายสราวุธ คนร้ายคดีคดีดังกล่าว หลบมาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ข้างศูนย์เศรษฐกิจพอเพียง ม.1 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช จึงสั่งการให้นำกำลังไปจับกุมตัว
เมื่อนำกำลังไปถึงไปถึงพบว่านาย สราวุธกำลังเสพยาไอซ์อยู่ ข้างๆ บ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่แสดงหมายจับเพื่อจับกุม แต่ปรากฏว่าเจ้าตัวไม่ยอมให้จับพร้อมชักอาวุธมีด ลักษณะคล้ายกริช 2 เล่มที่พกอยู่ที่เอวออกมา แล้ววิ่งตรงเข้าไปเพื่อจะจ้วงแทงเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เจ้าหน้าที่ซึ่งเตรียมตัวพร้อมอยู่แล้ว เนื่องจากเกิดเหตุการณ์คนร้ายขัดขืนต่อสู้กับชุดจับกุมบ่อยครั้ง จึงใช้อาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. ยิงสวนไป 2 นัด กระสุนโดนเข้าที่หน้าอกและชายโครงขวา ทำให้นายสราวุธล้มฟุบกับพื้น เจ้าหน้าที่จึงรีบแจ้งให้มูลนิธิใต้เต็กตึ๊ง มานำตัวส่ง ร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.จรินทร์ ขาวเอี่ยม สว.(สอบสวน) สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยพล.ต.ต.วันไชย เอกพรพิชญ์ ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบร่องรอยการต่อสู้ข้าวของกระจัดกระจาย พบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 ม.ม. ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตกอยู่ 2 ปลอก มีดกริชของนาย สราวุธ 2 เล่ม ยาไอซ์ 1 ถุง หนัก 0.07 กรัม ถุงพลาสติกที่ใช้แบ่งบรรจุยาไอซ์ 5 ถุง และอุปกรณ์การเสพยาไอซ์ 1 ชุด ตกเกลื่อนอยู่บริเวณพื้นข้างบ้านดังกล่าว จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ด้าน พ.ต.อ.อดิศักดิ์กล่าวว่า กรณีคนร้ายต่อสู้ตำรวจชุดจับกุมนั้นเกิดขึ้นบ่อยมาก จึงสั่งการให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังให้มาก ปรากฏว่าคนร้ายขัดขืนจริงๆ โดยพบว่าคนร้ายรายนี้ทั้งเสพและค้ายาเสพติดได้ต่อสู้กับชุดจับกุม แต่ตำรวจได้เตรียมพร้อมอยู่แล้วเมื่อเกิดเหตุการณ์ จึงได้ป้องกันตัวเองจากอันตรายจากคนร้าย
แม้นจะเป็นคนร้ายตามหมายจับ รวมทั้งพยายามต่อสู้ขัดขืนการจับกุม และพยายามทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถูกวิสามัญฆาตกรรม แต่ก็ต้องได้รับการปฏิบัติอย่างทัดเทียมกัน
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงประสานทั้งอัยการและฝ่ายปกครองท้องที่ พฐ.และแพทย์ เข้าตรวจสอบเก็บหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
