อุทาหรณ์แม่ชาวบุรีรัมย์

ถูก18 มงกุฎลวงเปิดบัญชี

โดนจับฉ้อโกงติดคุกฟรี

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สดจากสนามข่าว – วันแม่ปีนี้สำหรับครอบครัวเรืองรัมย์ นับเป็นวันที่มีความหมายมาก เพราะเป็นวันที่ครอบครัวได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูกอีกครั้ง ภายหลังนางละม่อม เรืองรัมย์ อายุ 49 ปี ถูกตำรวจยโสธรจับตัวตามหมายจับไปดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกง ทั้งที่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องอะไร ทำให้ถูกคุมขังอยู่ในคุกมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2561

อยู่กันพร้อมหน้า

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 30 .. 2561 นายเสมอ เรืองรัมย์ อายุ 52 ปี พร้อมด้วยน..อุมาพร เรืองรัมย์ อายุ 27 ปี ลูกสาว นำเรื่องราวของครอบครัวตนเปิดเผยต่อสื่อมวลชนเพื่อขอความช่วยเหลือ หลังนางละม่อม เรืองรัมย์ อายุ 49 ปี ภรรยาและมารดา ถูกตำรวจยโสธรจับตัวตามหมายจับไปดำเนินคดีที่ .ยโสธร ฐานฉ้อโกง โดยเจ้าตัวไม่รู้เรื่องเพราะมีอาชีพเพียงรับจ้างทั่วไป

เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่ บ้านตาไก้ .เมืองไผ่ .กระสัง .บุรีรัมย์ พบกับนายเสมอ เรืองรัมย์ อายุ 52 ปี พร้อมลูกหลานอยู่รวมกันประมาณ 10 ชีวิต ปลูกบ้านกระท่อมหลังเล็กปลูกติดกับริมธารน้ำสาธารณะ โดยทุกคนยังอยู่ในอาการทุกข์ใจที่แสดงออกมาทางสีหน้า

นายเสมอเล่าว่า นางละม่อมภรรยาถูกผู้หญิงในตำบลเดียวกัน หลอกให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร จนสุดท้ายตัวเองกลายเป็นผู้ต้องหา โดยเมื่อเดือนเม..ปีเดียวกัน มีนางฝนไม่ทราบชื่อและสกุลจริง เป็นคนบ้านเมืองไผ่ .เมืองไผ่ รู้จักกับภรรยาตัวเองแบบเผินๆ แค่เคยเห็นหน้ากัน เพราะเป็นคนตำบลเดียวกัน ขี่รถจักรยานยนต์มาหา

นางฝนอ้างว่าจะมีโครงการมาช่วยเหลือ ช่วยทำบ้านให้ใหม่และช่วยค่าใช้จ่ายภายในครัวเรือน แต่ต้องไปเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรอรับเงินที่จะโอนเข้ามา ด้วยความเชื่อใจไม่คิดว่าคนบ้านเดียวกันจะหลอกลวง ภรรยาตนจึงหลงกลถูกนางฝนพาภรรยาเข้าตัวอำเภอไปเปิดบัญชีธนาคาร และใช้เอกสารซื้อลงทะเบียนซิมโทรศัพท์ แล้วนำภรรยามาส่งบ้านโดยที่ภรรยาไม่ได้เอกสารหรือสมุดบัญชีใดๆ เข้าบ้าน จากนั้นก็หายไปเลยโครงการที่บอกว่าจะมีมาช่วยเหลือก็ไม่มี

ถึงตอนนี้น..อุมาพร เรืองรัมย์ อายุ 27 ปี ลูกสาว เล่าเรื่องราวต่อว่า หลังจากวันนั้นมาครอบครัวก็อยู่ตามปกติไม่ได้คิดว่าจะมีเรื่องราวอะไรอีก จนกระทั่งผ่านมาไม่กี่เดือน เมื่อวันที่ 25 .. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดยโสธร นำกำลังมาจับกุมแม่ของตน โดยตำรวจระบุว่าเป็นหมายจับฐานฉ้อโกง ครอบครัวรู้สึกงงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จนกระทั่งมาเข้าใจว่า แม่ถูกหลอกให้ไปเปิดบัญชี

ตอนนี้สงสารแม่มาก ไปเยี่ยมแม่ครั้งเดียว เห็นแม่แล้วสงสาร เพราะมีโรคประจำตัว แม่บอกให้มาช่วยแม่ไวๆ แต่ครอบครัวไม่มีหลักทรัพย์ไปประกันตัว เพราะแม้แต่ที่อยู่ยังไม่มี ประกอบกับไม่มีเงินเดินทางไปเยี่ยมแม่อีก เมื่อติดต่อไปพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีทางโทรศัพท์ ก็พบว่ายังมีหมายจับข้อหาเดียวกันในพื้นที่ .ระยอง อีก หากประกันตัวที่นี่ก็จะต้องไปประกันที่ จ.ระยอง อีก

ถ้าต้องการจบคดีก็คือผู้เสียหายถอนแจ้งความ ตอนนี้ครอบครัวไร้หนทาง ไม่มีทางออก อยากจะให้นักกฎหมายที่ใจบุญมาช่วยเหลือ บรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัว เพราะตอนนี้ยังมืดมนทุกด้าน หากเป็นไปได้ก็อยากจะขอร้องเจ้าทุกข์ถอนแจ้งความ เพราะมูลหนี้ที่ .ยโสธร มีประมาณ 30,000 บาท ครอบครัวจะหาเงินมาผ่อนชำระให้.. อุมาพรกล่าวเสียงเศร้า

แม้จะไม่เป็นข่าวโด่งดัง แต่ก็มีผู้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แต่ขั้นตอนการเจรจาก็ยังต้องใช้เวลานานหลายเดือน

กระทั่งวันที่ 12 .. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบครอบครัวเรืองรัมย์ ที่บ้านหลังเดิมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้บรรยากาศแตกต่างไปจากเมื่อหลายเดือนก่อนชนิดหน้ามือเป็นหลังมือ ครอบครัวบุตรหลานของนางละม่อม ซึ่งอาศัยอยู่ด้วยกัน 6 ชีวิต ได้ร่วมกันจัดงานวันแม่เล็กๆให้กับนางละม่อม

สอบนางละม่อม เรืองรัมย์

เป็นการจัดงานภายในครอบครัวแบบเรียบง่าย อาหารเป็นหอยที่หาจากลำห้วยเตรียมเอามาปรุงเพื่อฉลองวันแม่ ส่วนดอกไม้ที่จะเอามากราบแม่ก็เป็นดอกรัก เก็บมาจากข้างทาง บุตรหลานเอามาร่วมกันกราบเท้าแม่ หลังจากนางละม่อม พ้นคดีฉ้อโกง ที่ตนตกเป็นผู้ต้องหาทั้งที่ไม่ได้เป็นคนก่อทั้ง 3 คดี

นางละม่อมเปิดเผยด้วยความดีใจว่า ที่ตนเองพ้นโทษมาได้เพราะมีผู้ใจบุญมาช่วยเดินเรื่อง หาทางช่วยเหลือจนพ้นโทษ บุญคุณนี้ตนจะไม่ลืมพระคุณ และหลังจากนี้ก็จะไม่เชื่อคนง่ายอีกต่อไป จะขอใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย หาปู หาปลาประทังชีพ ได้เท่าไหร่ก็เอาเท่านั้น

นายเสมอ เรืองรัมย์ ให้ข้อมูล

ส่วนน..อุมาพรกล่าวว่า วันแม่ปีนี้ถือเป็นปีที่มีความสุขที่สุด เพราะแม่ได้พ้นโทษออกมา ได้ปลดทุกข์ ปลดโศก ถึงแม้ครอบครัวจะยากจน แต่ตอนนี้ทุกคนสบายใจแล้ว เพราะแม่ไม่ต้องรับโทษใดๆ และอยากจะฝากขอบคุณผู้ใจบุญที่วิ่งเต้นช่วยเหลือ โดยเฉพาะท่าน ธีรศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) ที่เป็นคนกรุงเทพฯ ที่ให้ความช่วยเหลือทั้งที่ไม่ใช่พี่น้องหรือญาติกัน

แต่เพราะเชื่อมั่นว่าแม่ตนเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงยื่นมือช่วยเดินเรื่องช่วยเหลือมาโดยตลอด ทั้งไปร่วมเจรจา หาทนายแก้ต่าง จนกระทั่งเจ้าทุกข์ยอมเชื่อว่าแม่ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นพวก 18 มงกุฎ จึงยอมถอนแจ้งความให้ทั้งหมด ทำให้แม่พ้นโทษได้ หลังจากนี้ก็จะตั้งใจทำงานหาเลี้ยงครอบครัวให้อยู่รอด โดยไม่หวังอะไรลมๆ แล้งๆ อีกแล้ว

อีกหนึ่งตัวอย่างที่ต้องดูเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

เรืองรุจ วังแจ่ม เรื่อง/ภาพ

อ่าน-

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน