ย้อนคดีฆ่าตายายร้านชำ

จับโจรโหด-ประวัติร้าย

เพิ่งพ้นคุกคดีฆ่าพี่แท้ๆ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนคดีฆ่าตายายร้านชำ – ชาวบ้านย่านห้องเช่า ในหมู่ 1 ต.หนองแสง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ต่างรู้จักคุ้นเคยกับตาสมบูรณ์กับยายบุญหลายเป็นอย่างดี ด้วยทั้งคู่มาเช่าห้องแถวเปิดเป็นร้านขายของชำมานานร่วม 20 ปี ไม่มีใครคาดคิดว่าการที่ร้านค้าของ 2 ตายายปิดเงียบมาหลายวัน จะกลายเป็นเหตุการณ์สยองขวัญ

เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ร.ต.อ.สมบัติ วังวล รองสว.(สอบสวน) สภ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี รับแจ้งมีกลิ่นเหม็นคล้ายมีคนตายภายในห้องแถวให้เช่าที่เปิดเป็นร้านขายของชำ เลขที่ 12/5 หมู่ 1 ริมถนนสุวรรณศร ต.หนองแสง อ.ประจันตคาม จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.นราเดช กลมทุกสิ่ง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี พ.ต.อ.พงศ์พันษ์ พลวงษ์ศรี ผกก.สภ.ประจันตคาม แพทย์เวร ร.พ.ประจันตคาม และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดประจันตคาม

สดจากสนามข่าว

ห้องเช่าที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นห้องแถวให้เช่าชั้นเดียวจำนวน 13 ห้อง มีนางนิตยา นันแปร อายุ 51 ปี ผู้ใหญ่บ้าน เป็นผู้ดูแล ห้องที่เกิดเหตุเป็นห้องเช่าเลขที่ 12/5 สภาพหน้าห้องกุญแจล็อกอยู่ แต่มีกลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงออกมาจากภายในห้องพัก

เจ้าหน้าที่ตำรวจให้กู้ภัยตัดกุญแจห้อง เมื่อเปิดประตูตรวจสอบภายในห้องพบผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน ทราบชื่อคือนายสมบูรณ์ ทักษิโณ อายุ 63 ปี และน.ส.บุญหลาย จอมวรรณ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 60 หมู่ 3 ต.หนองแสง อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี

สดจากสนามข่าว

นายสมบูรณ์ ทักษิโณ

จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.บุญหลาย ถูกมีดปลายแหลมแทงที่ลำคอด้านซ้าย มีสายไฟรัดคอแน่น ส่วนศพนายสมบูรณ์ ถูกมีดปาดคอ จนเสียชีวิตมีสภาพศพเน่าเหม็นจนขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 วัน โดยศพของ ทั้งคู่พบว่ามีมีดปลายแหลมปักคาอยู่ที่ลำคอ เป็นภาพที่น่าสลดใจกับผู้พบเห็น

ขณะผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้ห้องเช่าที่เกิดเหตุเปิดเผยว่า ช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ได้ยินเสียงรถ จยย.วิ่งเข้ามาจอดใกล้ที่เกิดเหตุ จากนั้นก็มีเสียงเคาะประตูพร้อมกับมีเสียงผู้ชายร้องเรียก “ตาตา ขอซื้อของหน่อย” ต่อมาก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องแบบตกใจ แล้วเสียงก็เงียบไป หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงจยย.ขับออกไป

สดจากสนามข่าว

น.ส.บุญหลาย จอมวรรณ

ขณะนั้นไม่ได้เอะใจว่าจะมีเหตุฆ่ากันตายเกิดขึ้น จนกระทั่งเช้าวันนี้ ชาวบ้านในละแวกได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรงลอยออกมาจากร้านชำที่สองสามีภรรยาอาศัยอยู่จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ

จากการสอบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ได้มาเช่าห้องพักเพื่อเปิดร้ายขายของชำให้กับลูกค้าในพื้นที่ อยู่นานกว่า 20 ปี มีลูกค้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้มีรายได้วันละหลายพันบาท ส่วนเงินที่ได้ ผู้เสียชีวิตสองตายายจะเก็บเงินสดไว้ในร้านค้าจำนวนหลายหมื่นบาทและเป็นคนชอบนำเงินมาให้ทุกคนดู ทั้งคู่เคยถูกคนร้ายเข้ามาปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกาย เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 มาแล้วครั้งหนึ่งด้วย

ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตายเพราะมาเรียกซื้อของได้ขณะที่ร้านยังปิดอยู่ จึงพุ่งเป้าไปที่ผู้ที่อยู่ใกล้เคียงที่เกิดเหตุโดยเฉพาะกลุ่มผู้ที่เช่าห้องแถวอยู่ข้างๆ ก่อนจะพบว่ามีครอบครัวของนายสมพงษ์ ภูถนนนอก อายุ 29 ปี ที่พักอยู่ห้องข้างๆ หายตัวไปจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ

สดจากสนามข่าว

สอบนายสมพงษ์ ภูถนนนอก

 

เพียงไม่ทันข้ามวันชุดสืบสวนก็ไล่เช็กจนรู้ว่านายสมพงษ์ พาเมียกับลูกไปเปิดห้องพักรายวัน ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ใน ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี จึงนำกำลังติดตามไปจับกุมตัวเอาไว้ได้

ภายหลังถูกจับ นายสมพงษ์สารภาพว่าเป็นคนลงมือฆ่า 2 ตายายจริงๆ โดยเดินไปเคาะประตูเพื่อทำทีจะขอซื้อเหล้า เมื่อตาสมบูรณ์เปิดประตูออกมา จึงเข้าล็อกตัวเพื่อชิงเงินในกระเป๋าที่บริเวณเอว แต่ปรากฏว่าตาสมบูรณ์ขัดขืน จึงใช้มีดปลายแหลมที่พกติดตัวมาเชือดคอ และแทงคอนายสมบูรณ์จนเสียชีวิต

และช่วงก่อเหตุยายบุญหลายเห็นเหตุการณ์เข้ามาต่อสู้เพื่อช่วยสามี จึงใช้มีดอีกเล่มแทงแล้วใช้สายไฟพัดลมรัดคอจนเสียชีวิต จากนั้นนำเงินในกระเป๋าประมาณ 1 หมื่นบาทออกมาจากห้อง กลับไปที่ห้องเอาแม่กุญแจมาล็อกห้องที่เกิดเหตุ แล้วพาภรรยาและลูกขึ้นรถจักรยานยนต์ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนขับหลบหนีไปซ่อนตัวที่โรงแรมดังกล่าว ก่อนถูกตำรวจจับกุม

สดจากสนามข่าว

คุมทำแผนฯ

วันที่ 16 ส.ค. พล.ต.ต.เชษฐา โกมลวรรธนะ รอง.ผบช.ภาค และพล.ต.ต.จรัญ จิตเจือจุล รอง.ผบช.ภ.2 ผู้เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 50 นาย นำตัวนายสมพงษ์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ท่ามกลางชาวบ้านจำนวนมาก หลายคนตะโกนสาปแช่ง และพยายามจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ แต่เจ้าหน้าที่กันไว้ได้ทัน การทำแผนฯ ใช้เวลานานกว่า 60 นาที จึงเสร็จสิ้น

พลทหารทะนงศักดิ์ ทักษิโณ อายุ 29 ปี สังกัดเสนารักษ์ มทบ.12 ปราจีนบุรี ลูกชายผู้เสียชีวิตพร้อมด้วยแฟนสาวมาดูการทำแผนฯ พร้อมกับสาปแช่งคนร้าย อยากให้ประหารชีวิตให้ตาย พร้อมกับกล่าวขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับนายสมพงษ์มีประวัติในคดีอาชญากรรมโชกโชน เพิ่งออกจากคุกหลังจากฆ่าพี่ชายร่วมสายโลหิตแท้ๆ ติดคุก 8 ปี กระทั่งมาก่อเหตุซ้ำกับ 2 ตา-ยายดังกล่าว

โดย ไพโรจน์ เกล็ดเงิน/มานิตย์ สนับบุญ/เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน