หัวสดจากสนามข่าวใหม่-52-ok.eps

เปิดคำให้การหนุ่มเชียงราย

วิ่งราว3แสนแบงก์กรุงไทย

มอบตัว-รับอารมณ์ชั่ววูบ!

: สดจากสนามข่าว

โดย…ชายชาญ ไชยมั่น / เกรียงไกร ปัญโญกาศ

วิ่งราว3แสน“ก่อนเกิดเหตุผมนำเงิน 3,500 บาท ไปแลกเป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท เพื่อจะนำไปจ่ายให้กับคนงาน เข้าไปถึงธนาคารในช่วงเย็นใกล้เวลาปิด เห็นพนักงานธนาคารกำลังนับเงินจำนวนมากบนเคาน์เตอร์ จึงเกิดความอยากได้ พอดีกับต้องการจะนำไปใช้รักษาอาการป่วยของพ่อ ก็เลยขาดสติ” คำให้การของโจรหนุ่ม หลังหอบเงินเกือบ 3 แสนบาทเข้ามอบตัวกับตำรวจเมืองเชียงราย

วิ่งราว3แสน

ธนาคารที่เกิดเหตุ

ย้อนไปเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 15 ส.ค. พ.ต.ท.นเรศ โปเล็ม พนักงานสอบสวน สภ.เมือง จ.เชียงราย ได้รับแจ้งจากพนักงานธนาคารกรุงไทย สาขาห้าแยก พ่อขุนฯ เขตเทศบาลนครเชียงราย ว่ามีคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์ภายในธนาคารแล้วหลบหนีไปพร้อมเงินสด เกือบ 300,000 บาท

หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.ประจัญ ปัญญาแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.แพร่ ปฏิบัติราชการ ภ.จว.เชียงราย พ.ต.ท.อมรเทพ ถิ่นทิพย์ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองเชียงราย ตำรวจสายตรวจและตำรวจชุดสืบสวน รีบรุดไปตรวจสอบในทันที

เบื้องต้นพบว่าเหตุเกิดช่วงที่ธนาคารปิดให้ บริการแล้ว โดยพนักงานล็อกประตูด้านหน้าทั้งบานกระจกและประตูเหล็ก เหลือเพียงประตูด้านหลังสำหรับให้พนักงานเดินทางกลับ ขณะที่พนักงานกำลังเคลียร์เงินในล็อกเกอร์เพื่อสรุปยอดบัญชีให้กับทางธนาคาร

ปรากฏว่ามีคนร้ายไม่ทราบว่าโผล่มาจากไหน รูปร่างผอม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร ปิดหน้าปิดจมูกและปากเอาไว้ ใช้มีดจี้ข่มขู่พนักงานและเปิดล็อกเกอร์กวาดเอาเงินประมาณ 300,000 บาท ก่อนจะวิ่งหลบหนีไปทางประตูด้านหลัง

วิ่งราว3แสน

ภาพใบหน้าคนร้าย

วิ่งราว3แสน

นาทีหยิบเงิน

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดพบภาพชายต้องสงสัย คาดว่าเป็นคนร้ายเข้ามาทางประตูด้านหน้า ทำทีมาเบิกเงินในช่วงที่ธนาคารใกล้ปิดทำการ ในเวลาประมาณ 16.30 น. จากนั้นคาดว่าคนร้ายไปแอบซุ่มอยู่ด้านหลังหรือในห้องน้ำเพื่อรอจังหวะ กระทั่งเมื่อรปภ.เผลอจึงบุกเข้ามาจี้ชิงเงินดังกล่าว

วิ่งราว3แสน

ตร.สอบพยาน

ซึ่งจากการสอบถามพยานซึ่งอยู่ด้านหน้า ธนาคารระบุว่า คนร้ายสวมผ้าพันหน้าวิ่งหลบหนีออกจากด้านล่างธนาคาร ข้ามถนนพหลโยธิน ผ่านไปทางโรงแรมธัญญาอินทร์ เจ้าหน้าที่จึงจัดกำลังตำรวจ สายตรวจ ชุดสืบสวนและจราจร ไล่ติดตามไปตามเส้นทางหลบหนี

โดยได้กระจายกำลังออกค้นหาตามโรงแรมและตาม ย่านชุมชน จนกระทั่งพบภาพคนร้ายสวมแจ๊กเกตดำวิ่งผ่านกล้องวงจรปิดของหอพักแห่งหนึ่ง และได้กระโดดข้ามรั้วไปยังพื้นที่ป่า ซึ่งบริเวณ ดังกล่าวมีอาคารร้างจำนวนหลายหลัง จึงระดมกันออกตรวจค้นหานานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ก็ไม่พบตัว

ตร.ระดมกดดันอย่างหนัก ทั้งกระจายภาพวงจรปิดที่เห็นหน้าคนร้ายชัดเจนไปทั่วทุกโรงพัก กระทั่งวันที่ 20 ส.ค. ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.อ.ประจัญ ปัญญาแก้ว รอง ผบก.ภ.จว.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย แถลงความคืบหน้าคดี หลังผู้ก่อเหตุเข้ามอบตัวกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเวลา 05.00 น.ของวันที่ 19 ส.ค.

วิ่งราว3แสน

พ.ต.อ.ประจัญ ปัญญาแก้ว แถลงปิดคดี

พ.ต.อ.ประจัญกล่าวว่า คดีดังกล่าวทางผู้ต้องหาใช้สิทธิ์ไม่ขอเปิดเผยใบหน้าและชื่อนามสกุลใดๆ โดยเป็นชายอายุ 33 ปี มีอาชีพรับเหมาก่อสร้างและอาศัยอยู่ในเขต อ.เมืองเชียงราย เบื้องต้นเจ้าตัวรับว่าก่อเหตุไปเพราะขาดสติ และที่ผ่านมาไม่เคยกระทำความผิดอื่นมาก่อน

แรงจูงใจในการก่อเหตุมาจาก ก่อนหน้านำเงินจำนวน 3,500 บาทไปแลกเป็นธนบัตรฉบับละ 100 บาท เพื่อจะนำไปจ่ายให้กับคนงานรับเหมาก่อสร้าง และเมื่อเข้าไปถึงธนาคารในช่วงเย็นใกล้เวลาปิด พบเห็นพนักงานธนาคารกำลังนับเงินจำนวนมากบนเคาน์เตอร์ จึงเกิดความอยากได้ โดยขาดสติและต้องการจะนำไปใช้รักษาอาการป่วยของพ่อ

วิ่งราว3แสน

พฐ.เก็บหลักฐาน

ผู้ต้องหาระบุว่า เดินเข้าไปในธนาคารช่วงแรกด้วยประตูหน้าตามปกติ และเมื่อเห็นเงินจำนวนมากจึงกลับเข้าไปอีกครั้ง และเข้าไปหยิบฉวยไปจากเคาน์เตอร์ โดยมีพนักงานรักษาความปลอดภัยของธนาคารวิ่งติดตามไป ซึ่งผู้ต้องหาให้การว่าไม่ได้ใช้อาวุธหรือบังคับข่มขู่ใดๆ ซึ่งจากการตรวจสอบด้วยกล้องวงจรปิดก็ไม่พบมีพฤติกรรมข่มขู่แต่อย่างใด

ที่ผ่านมาตำรวจก็ออกสืบสวนและกดดัน รวมทั้งเผยแพร่ภาพจากกล้องวงจรปิด ซึ่งทางผู้ต้องหาก็ให้การว่า เมื่อทราบเรื่องก็กลับไปซ่อนตัวที่บ้านแล้วปรึกษากับครอบครัว จนสำนึกผิด แล้วเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนำเงินสดทั้ง 280,500 บาท มามอบคืนให้ธนาคารทั้งหมดแล้วด้วย

รอง ผบก.ภ.จว.แพร่ ปฏิบัติหน้าที่รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างควบคุมตัวเอาไว้เพื่อสอบสวนตามขั้น ตอน รวมทั้งสอบปากคำพยานภายในธนาคารและผู้เกี่ยวข้องไปแล้วประมาณ 7-8 ปาก เพื่อตรวจสอบว่าสอดคล้องกับคำให้การของผู้ต้องหาหรือไม่

โดยรูปการณ์แล้วเห็นว่ามอบตัวด้วยดีและ ให้การเป็นประโยชน์ ทั้งนี้ การที่สามารถดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้อย่างรวดเร็วเกิดขึ้นจากการพยายาม กดดันจากทุกฝ่าย ทั้งตำรวจและหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งสื่อมวลชนที่เผยแพร่ข้อมูลและภาพจนทำให้คนร้ายเข้ามอบตัวในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน