จับตาแก๊ง‘นกฮูก’คืนชีพ สาว16ผันตัวเป็นแม่เล้า

จัดหาด.ญ.13บำเรอกาม : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

จับตาแก๊ง‘นกฮูก’คืนชีพ – โสเภณี อาชีพเก่าแก่ที่สุดในโลก ปัจจุบันมีราว 70 ประเทศ มีกฎหมายบัญญัติให้การประกอบกิจการให้บริการทางเพศเป็นอาชีพที่ถูกต้อง นัยว่าเป็นการช่วยลดอาชญากรรมทางเพศ แต่ในประเทศไทยยังถือว่าเป็นเรื่องผิดทั้งกฎหมายและศีลธรรม

แต่ที่ทั่วทั้งโลกเห็นตรงกันว่าต้องดำเนินการปราบปรามให้หมดไปคือการบังคับขายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็กและเยาวชน

สัญลักษณ์รอยสักนกฮูก

ย้อนไปเมื่อปี 2560 ชื่อของ ‘แก๊ง นกฮูก’ เป็นที่โด่งดังในหน้าสื่อ เมื่อมีมารดาพบรูปลูกสาวอยู่ในกลุ่มเด็กขายบริการทางเพศ เมื่อคาดคั้นเอาความจริงก็ยอมรับว่าถูกบังคับให้ขายบริการทางเพศ โดยมีดาบตำรวจในพื้นที่น้ำเพียงดิน จ.แม่ฮ่องสอน เป็นคนขับรถกระบะของตำรวจพาไปส่งให้ลูกค้า เด็กสาวในกลุ่มนี้ทุกคนจะถูกบังคับให้สักบริเวณหน้าอก เป็นรูป นกฮูก หรือ นกเค้าแมว สีดำ เพื่อเป็นสัญลักษณ์

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผบช.กมค. รุดสอบ

ต่อมาคดีนี้ตำรวจจับกุมผู้ร่วมขบวนการทั้งหมด รวม 8 คน รวมทั้ง ด.ต.ยุทธชัย ตำรวจ สภ.น้ำเพียงดิน ก่อนศาลตัดสิน จำคุก ด.ต.ยุทธชัย 320 ปี ลดโทษเหลือ 50 ปี จำเลยอีก 7 คนโดนโทษ 8-50 ปี จากนั้นชื่อของแก๊งนกฮูกก็เงียบหายไป

กระทั่งเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมา มีเหตุเด็กหญิง อายุ 13 ปี สัญชาติเมียนมา เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งจากการตรวจรักษาอาการของแพทย์พบว่าป่วยเป็นโรคหนองใน ระยะรุนแรง และได้รับการรักษาจนอาการดีขึ้นก็ได้ส่งไปยังหน่วยงานหนึ่งของจังหวัด เพื่อดูแลเด็กคนดังกล่าว

ต่อมาสำนักงานอัยการแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงานได้ลงพื้นที่ไปสอบเด็กหญิงคนดังกล่าวร่วมกับสหวิชาชีพ โดยมีการสอบคัดแยกเหยื่อ และสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด้านคดีอาญาเกี่ยวกับขบวนการค้ามนุษย์

แผนผังการก่อเหตุ

เบื้องต้นเด็กหญิงให้การว่า ถูกแม่เล้าบังคับให้ค้าประเวณีกับผู้ชายทั่วไป โดยถูกบังคับให้ค้าประเวณีแล้ว 5 ครั้ง ซึ่งเป็นผู้ใหญ่และนักธุรกิจในตัวจังหวัด ซึ่งในการค้าประเวณีแต่ละครั้งผู้ชายที่ใช้บริการไม่ได้มีการสวมถุงยางอนามัย ตนก็ไม่รู้ว่าติดเชื้อหนองในจากใคร โดยถูกนำไปขายบริการทางเพศที่เกสต์เฮาส์แห่งหนึ่ง ในราคา 1,500 บาท ทำมาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่เดือนพ.ค.ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ เด็กหญิงดังกล่าวเรียนหนังสือจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เมื่อเดือนมี.ค.2562 ส่วนแม่ซึ่งเป็นต่างด้าวได้เดินทางไปรับจ้างทำงานในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หลังสอบสวน พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา ผกก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน สั่งการชุดสืบสวนติดตามจับกุม น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และน.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 22 ปี 2 แม่เล้ามาสอบสวน ก่อนรับสารภาพว่าก่อนหน้านี้เคยอยู่ในกลุ่มแก๊งนกฮูก แต่หลังจากแม่เล้าถูกจับจึงผันตัวเป็นแม่เล้าแทน

จับแม่เล้าสาว

ต่อมาวันที่ 12 ก.ย. ที่ ศปก.สภ.เมืองแม่ฮ่องสอน พล.ต.ท. จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้บัญชาการสำนักกฎหมายและคดี และ ผอ.ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว และป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เดินทางเข้าติดตามความคืบหน้าคดี พร้อมสั่งการให้สอบสวนขยายผล และหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนใช้บริการจะถูกดำเนินคดีอย่างหนัก ทั้งกำชับตำรวจในพื้นที่ให้สอดส่องและกวดขันการค้ามนุษย์ให้มากขึ้น

กระทั่งวันที่ 20 ก.ย. พ.ต.อ.ธนพลเผยความคืบหน้าในคดีว่า พนักงานสอบสวนได้ดำเนินการออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย โดยสามารถจับกุมได้แล้ว 4 ราย โดยในจำนวนนี้มีแม่เล้า 2 ราย ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการขยายผลของชุดสืบสวนสอบสวน และเร่งติดตามตัว ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 ราย

ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า กลุ่มค้าประเวณีใน จ.แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ แก๊งโดเรมอน ซึ่งเป็นคนไทย และแก๊งนางฟ้า ซึ่งแก๊งนี้จะมีอายุ 13-25 ปี โดยทั้ง 2 กลุ่มจะมีการนัดพบแขกบริเวณร้านเหล้า ผับ และสวนอาหารต่างๆ จากนั้นจะมีการตกลงราคากัน โดยจะมีแม่เล้าทำหน้าที่นำเด็กไปส่งให้กับแขก ซึ่งจะมีการใช้บริการที่เกสต์เฮาส์ต่างๆ ในตัวเมืองและปริมณฑล ทั้งนี้ สำหรับจุดนัดพบส่วนใหญ่จะอยู่ที่บริเวณสำนักงานพระพุทธศาสนา, หนองจองคำ และร้านสะดวกซื้อภายในปั๊มน้ำมัน

สำหรับทั้ง 2 กลุ่มเคยอยู่ในเครือข่ายแก๊งนกฮูกมาก่อน หลังจากแก๊งนกฮูกถูกทลายลง เมื่อเรื่องเงียบลงก็จะหันกลับมาค้าประเวณีเหมือนเดิม และมีลูกค้าซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่รัฐ และนักท่องเที่ยว

จับหนุ่มคนซื้อบริการ

เด็กสาวที่ถูกนำมาค้าประเวณีส่วนใหญ่เป็นต่างด้าว เนื่องจากต้องการเงินไปทำบัตรประชาชนปลอม โดยพบว่าหากเป็นเด็กและอยู่ระหว่างการเรียนจะต้องเสียค่าทำบัตรประชาชนประมาณ 35,000 บาท ส่วนผู้ใหญ่จะเสียค่าทำบัตร 50,000 บาทต่อราย

ขณะที่ผู้ที่เคยใช้บริการกับเด็กสาวในตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ต่างพากันตระหนกตกใจ หลังมีข่าวจับกุมผู้ใช้บริการ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มข้าราชการ นักธุรกิจ และนักท่องเที่ยว จนบางรายถึงกับกินไม่ได้นอนไม่หลับ รีบขนข้าวของย้ายหนีออกนอกพื้นที่ บางรายถึงกับจะคิดสั้น เนื่องจากกลัวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม เนื่องจากถูกซัดทอดจากหญิงขายบริการ

ติดตามกันต่อไปว่าภาค 2 ของคดีแก๊งนกฮูกจะมีใคร เข้ามาเกี่ยวข้อง หรือถูกจับกุมดำเนินคดีบ้าง

ทศพล บุญพัฒน์

เรื่อง/ภาพ

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน