ปิดคดีหนุ่มนครหึงโหด เผาทั้งเป็นอดีตแฟนสาว

หนี 17 ปี จนมุมกองปราบฯ : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ปิดคดีหนุ่มนครหึงโหด – หนึ่งชีวิตที่ต้องทนทุกข์ทรมานจากบาดแผลที่เกิดจากการถูกเผาทั้งเป็น จากนักเรียนสาวพาณิชย์ที่มีชีวิตอันสดใส ต้องกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง มีสภาพไม่ต่างจากตายทั้งเป็น หญิงสาวอดทนทำกายภาพบำบัดอยู่นานถึง 6 เดือน จึงสามารถเปิดเผยเรื่องราวน่าสะเทือนใจที่เธอได้รับมา

ปิดคดีหนุ่มนครหึงโหด เผาทั้งเป็นอดีตแฟนสาว หนี 17ปีจนมุมกองปราบฯ : สดจากสนามข่าว

หนุ่มโหดยังปฏิเสธ

น.ส.วรรณา ศรียาไพ ในวัย 37 ปี ถึงกับน้ำตาซึมด้วยความดีใจ เมื่อ นางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ อายุ 63 ปี มารดานำข่าวมาบอกว่า บัดนี้ตำรวจกองปราบฯ สามารถจับกุมผู้ที่ทำร้ายเธอได้แล้ว ด้วยแม้จะผ่านมานานถึง 17 ปี จนแทบหมดหวังที่จะจับคนร้ายได้ แต่ความโหดร้ายในวันนั้นยังตามหลอกหลอนเธออยู่แทบทุกลมหายใจ

เรื่องราวถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค. ที่กองปราบปราม พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.1, พ.ต.ท.เผด็จ งามละม่อม พ.ต.ท.อนุชา ศรีสำโรง รอง ผกก.5, พ.ต.ต.เกริก เสนาะสำเนียง สว.กก.5

ปิดคดีหนุ่มนครหึงโหด เผาทั้งเป็นอดีตแฟนสาว หนี 17ปีจนมุมกองปราบฯ : สดจากสนามข่าว

นางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ ดูแลลูกไม่ห่าง

ร่วมแถลงจับกุมนายคำรณ สมญาพิทักษ์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95/2 หมู่ 14 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ผู้ต้องหาหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ 181/2547 ลงวันที่ 30 มีนาคม 2547 ข้อหา “พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน” ภายหลังตามจับกุมได้ที่ตลาดเทศบาลหนองหญ้าไซ อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา

ปิดคดีหนุ่มนครหึงโหด เผาทั้งเป็นอดีตแฟนสาว หนี 17ปีจนมุมกองปราบฯ : สดจากสนามข่าว

น.ส.วรรณา ศรียาไพ เหยื่อเผาทั้งเป็น

พ.ต.อ.เนติเปิดเผยว่า คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2545 เกิดเหตุคนร้ายใช้ของแข็งตีเข้าที่กกหูข้างซ้ายและจุดไฟเผาทั้งเป็นนักศึกษาสาว ปวส.ชั้นปีที่ 2 ของวิทยาลัยพาณิชย์แห่งหนึ่งใน จ.นครศรีธรรมราช ทราบชื่อคนเจ็บในเวลาต่อมาคือน.ส.วรรณา ศรียาไพ ขณะนั้นอายุ 20 ปี

เหตุเกิดที่หอพักแห่งหนึ่ง หลังถนนสายอ้อมค่ายวชิราวุธ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นอกจากนั้นคนร้ายยังหยิบเอาเงินสด 4,500 บาท และทองรูปพรรณของผู้เสียหายไปกว่า 2 หมื่นบาท ก่อนหลบหนีไป

พ.ต.อ.เนติกล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส มีบาดแผลถูกไฟเผาตามตัว กลายเป็นผู้พิการป่วยติดเตียงแขนขาลีบไม่สามารถสื่อสารได้ โดยมีนางกอลิเย๊าะ ศรียาไพ อายุ 63 ปี มารดาเป็นผู้ดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำและพาไปรักษาตัว ขณะที่ในส่วนของคดีแม้ตำรวจจะมีผู้ต้องสงสัยอยู่ แต่ก็มีเพียงพยานแวดล้อมไม่มีประจักษ์พยาน ทำให้ขาดหลักฐานพอที่จะมัดตัวคนร้าย

ปิดคดีหนุ่มนครหึงโหด เผาทั้งเป็นอดีตแฟนสาว หนี 17ปีจนมุมกองปราบฯ : สดจากสนามข่าว

ตร.แสดงหมายจับ

แต่ภายหลังเหยื่อสาวผ่านการทำกายภาพบำบัด จนเวลาผ่านไป 6 เดือน น.ส.วรรณาผู้เสียหายก็สามารถให้การได้ว่าคนที่ก่อเหตุคือ นายคำรณ หรือบังหนิด ซึ่งเป็นแฟนเก่า ที่โกรธแค้นเพราะผู้เสียหายขอแยกทาง ประกอบกับก่อนหน้านี้พนักงานสอบสวนยังได้สอบปากคำพยานรายหนึ่ง จนทราบว่าวันเกิดเหตุเห็นนายคำรณ ขี่รถจักรยานยนต์มาหา น.ส.วรรณาที่หอพัก ต่อมาได้ยินเสียงทะเลาะกัน สักพักก็เงียบไป จากนั้นก็เห็นนายคำรณรีบขี่รถออกไปจากที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็ว จึงรวบรวมหลักฐาน ก่อนเสนอศาลขออนุมัติออกหมายจับและสามารถตามจับกุมนำตัวผู้ต้องหามาส่งฟ้องศาลได้

ทว่าคดีที่ควรจะปิดลงได้ในเวลานั้นกลับเกิดปัญหาขึ้น เมื่อระหว่างนั้นปรากฏว่าพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีได้ลาออก ทำให้เกิดช่องว่างจนส่งผู้ต้องหาผัดฟ้องไม่ทัน ผู้ต้องหาจึงได้รับการปล่อยตัวจากเรือนจำ จากนั้นก็หลบหนีมานานกว่า 17 ปี

กระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นางกอลิเย๊าะได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากศูนย์ดำรงธรรม จังหวัดกระบี่ และมาร้องเรียนที่กองปราบปราม เพื่อให้ช่วยติดตามจับกุมผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดี เพราะคดีใกล้จะหมดอายุความ ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมลงพื้นที่หาข่าว จนทราบว่าหลังหลบหนีมาผู้ต้องหาได้หนีไปพักอาศัยอยู่กับญาติในหลายจังหวัด

โดยเจ้าตัวไม่ทำบัตรประชาชนและไม่ใช้โทรศัพท์มือถือเพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ใช้เป็นเบาะแสติดตามตัว ล่าสุดทราบว่าหนีไปขายพริกแกงใต้อยู่กับญาติที่ตลาดเทศบาลหนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี ปัจจุบันมีภรรยาและลูกชาย 1 คน จึงวางแผนเข้าจับกุมได้ดังกล่าว

เบื้องต้นสอบสวน นายคำรณยังคงให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่ง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านนางกอลิเย๊าะ ภายหลังทราบข่าวว่า ตำรวจตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุทำร้ายบุตรสาวของตัวเองได้ ก็กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณพล.ต.ต.จิรภพ และพ.ต.อ.เนติ รวมทั้งตำรวจกองปราบปราม ที่สามารถตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ เพราะเวลาผ่านมา 17 ปี แต่ผู้ต้องหายังลอยนวล ทั้งนี้ที่ผ่านมาตนเคยร้องเรียนไปตามหน่วยงานต่างๆ หลายแห่ง แต่เรื่องก็เงียบทุกครั้ง เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทั่งกองปราบปรามเข้าช่วยจับกุมได้ดังกล่าว

“หลังรู้ข่าวดี ฉันก็รีบบอกกับลูกสาวว่า ตำรวจจับคนที่ทำร้ายลูกได้แล้วนะ ลูกสาวก็แสดงสีหน้าดีใจจนถึงกับน้ำตาซึมออกมาทันที” นางกอลิเย๊าะกล่าว

แม้นไม่อาจเยียวยาร่างกายให้กลับมาเหมือนเดินได้ แต่ข่าวการจับกุมคนร้ายก็เยียวยาจิตใจเหยื่อสาวให้ดีขึ้นได้ระดับหนึ่ง ทำให้รู้ว่าความยุติธรรมยังมีอยู่จริง

ธานี ทวีเกิด – เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน