คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
ชัยณรงค์ แสวงนาม
เรื่อง/ภาพ
มิจฉาชีพเมื่อถนัดทางไหนก็มักจะลงมือก่อเหตุตามแนวทางที่ตนถนัด มีทั้งสายจี้ปล้น วิ่งราว ใช้ความรุนแรง สายลักเล็กขโมยน้อย ตีนแมว ย่องเบา ส่วนอีกสายก็คือสายต้มตุ๋นหลอกลวง พวกนี้มีสารพัดวิธีที่จะหลอกล่อเอา เงินออกจากกระเป๋าเหยื่อโดยที่ไม่ต้องออกแรง
เช่น กรณีของนายกรกช กาหาวงศ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เซียนต้มตุ๋นที่วนเวียนหากินอยู่ในแวดวงรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์มือสอง โดยเฉพาะยี่ห้อฮาร์เลย์ เดวิดสัน สุดยอดบิ๊กไบก์ในตำนาน
แม้เจ้าตัวจะเคยโดนจับมาแล้วแต่ก็ ไม่ได้เข็ดหลาบ ยังคงใช้วิธีการเดิมๆ ออกหาเหยื่อสร้างความเดือดร้อนไปทั่ว โดยเฉพาะแถบจังหวัดในภาคอีสาน จนถูกออกหมายจับในหลายพื้นที่ แต่ก็เหมือนนกรู้ยังสามารถหลบหนีมาได้โดยตลอด
แต่สุดท้ายก็ต้องพลาดท่าเสียทีถูกจับตัวได้อีกครั้ง คราวนี้เป็นผลงานของชุดสืบสวนจังหวัดอำนาจเจริญ ที่วางแผนแยบยล หลอกล่อจนจอมตุ๋นหลงกลมาให้จับจนได้
เรื่องราวเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 12 เม.ย. เมื่อพล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก. ภ. จว.อำนาจเจริญ พร้อมด้วย พ.ต.อ.อรรคชัย ศังขวณิช รอง ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ และชุดสืบสวนภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ
ร่วมกันแถลงผลการจับกุมนายกรกช กาหาวงศ์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40 หมู่ 5 ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดอำนาจเจริญ ที่ จ.40/2560 ลงวันที่ 23 ก.พ. 2560 ตามความผิดฐาน “ฉ้อโกงทรัพย์ กระทำการโดยทุจริตหรือหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม”
พ.ต.อ.อรรคชัย เผยรายละเอียดเบื้องหลังการจับกุมว่า เนื่องจากมีผู้เสียหายคือ นายสุระชัย มารักษ์ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 95 หมู่ 2 ต.เสนางคนิคม อ.เสนางคนิคม จ.อำนาจเจริญ เข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอำนาจเจริญ
ว่าโดนนายกรกช กาหาวงศ์ ผู้ต้องหา หลอกซื้อรถจักรยานยนต์บิ๊กไบก์ ยี่ห้อฮาร์เลย์ เดวิดสัน ที่ลงประกาศขายไว้ทางอินเตอร์เน็ตในราคา 900,000 บาท แล้วผู้ต้องหาได้ปลอมแปลงเอสเอ็มเอส ของทางธนาคาร และส่งข้อความเข้ามาที่มือถือผู้เสียหาย เพื่อหลอกลวงว่ามียอดเงินโอนเข้าบัญชีแล้ว
ทำให้นายสุระชัยหลงเชื่อ จึงนำรถจักรยานยนต์ฮาร์เลย์ เดวิดสัน จัดส่งให้กับบริษัทขนส่งนำไปส่งให้กับผู้ต้องหา แต่ ต่อมาเมื่อผู้เสียหายได้ไปเบิกเงินก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่าไม่มีเงินจำนวนดังกล่าวอยู่ในบัญชี สอบถามทางธนาคารก็ได้ความว่าไม่มีการโอนเงินเข้ามาแต่อย่างใด จึงรู้ตัวว่าตกเป็นเหยื่อของแก๊ง 18 มงกุฎ ถูกหลอกเข้าอย่างจัง
พ.ต.อ.อรรคชัยเผยต่อว่า หลังรับแจ้งความทาง พล.ต.ต.พจน์ บุญมาภาคย์ ผบก.ภ.จว.อำนาจเจริญ สั่งการให้เร่งสืบสวนจับกุมตัวให้ได้โดยเร็วที่สุด ตนพร้อมด้วย พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ รอง ผกก.ภ.จว.อำนาจเจริญ จึงได้วางแผนทำทีโพสต์ขายรถฮาร์เลย์ฯ ผ่านเว็บไซต์ จนกระทั่งผู้ต้องหาตกหลุมพราง สนใจและติดต่อขอซื้อรถคันดังกล่าวในราคา 700,000 บาท
ซึ่งผู้ต้องหาก็ใช้วิธีการเดิม คือทำที ปลอมเอสเอ็มเอสของธนาคารแล้วส่งมาให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจดูว่ามียอดเงินเข้าแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะทำตามแผน โดยนัดส่งมอบรถที่บริเวณ อ.เขื่องใน จ.อุบลราชธานี
นายกรกชหลงกลมารับรถตามที่นัดหมายไว้ ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมได้ในที่สุด จากนั้นจึงนำตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางที่ใช้เป็นเหยื่อล่อมาสอบสวน เพิ่มเติมที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดอำนาจเจริญ
พ.ต.อ.อรรคชัยเปิดเผยอีกว่า นายกรกชผู้ต้องหามีพฤติการณ์แสวงหาข้อมูลการซื้อขายรถยนต์, รถจักรยานยนต์ที่มีราคาสูง (ฮาร์เลย์ฯ) ทางอินเตอร์เน็ต เมื่อพบรถที่ต้องการผู้ต้องหาทำทีเสนอซื้อด้วยการแอบอ้างเป็นเจ้าของร้านทอง เมื่อเหยื่อตกลงขายผู้ต้องหาจะขอเลขบัญชีของเหยื่อ แล้วผู้ต้องหาจะปลอมข้อความการโอนเงินที่ทำปลอมขึ้นมา แล้วส่งข้อความการโอนเงินปลอมดังกล่าวไปให้เหยื่อดู ก่อนที่ผู้ต้องหาจะจ้างรถรับส่งไปรับรถจากผู้ขายมาประกาศขายต่อทางเว็บไซต์
เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้กระทำการดังกล่าวจริง โดยเงินที่ได้มาจากขายรถที่หลอกซื้อมานั้นนำมาใช้จ่ายภายในครอบครัวและนำไปซื้อไก่ชน เพื่อที่จะได้นำไปตีเดิมพันตามสังเวียนต่างๆ
นายกรกชยังรับอีกว่า เคยกระทำความผิดในคดีลักษณะดังกล่าวมาแล้วทั้งหมด 11 ครั้ง มีหมายจับข้อหาฉ้อโกงติดตัวอยู่ 5 หมายจับ เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เคยถูกจับมาแล้วหลายครั้ง แต่เมื่อพ้นโทษออกมาก็มาก่อเหตุแบบเดิมๆ ซ้ำอีก เมื่อไม่เข็ดหลาบ สุดท้ายก็ต้องเข้าไปใช้ความผิดในคุกตามระเบียบ
