สดจากสนามข่าว

อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล /พิรยุทธ นิ่มนนท์ – เรื่อง/ภาพ

เหตุระทึกกลางเมืองพัทยา เมืองท่องเที่ยวชื่อดังภาคตะวันออก ตร.ล่อซื้อยาเสพติดจาก 2 เอเยนต์วัยโจ๋ แต่ขณะส่งมอบคนร้ายไหวตัว ซิ่งรถกระบะหลบหนี เกิดการไล่ล่ากันชุลมุน สุดท้าย ตร.ตัดสินใจยิงยางล้อสกัด จนรถคนร้ายจนมุมก่อนถูกจับกุมไว้ได้ โดยขณะเข้าจับกุมมีผู้ถ่ายคลิปเอาไว้ได้ ก่อนนำมาโพสต์จนเป็นข่าวดัง

แต่เมื่อ ตร.พัทยาสอบสวนขยายผล ล่อซื้อจนมาถึงผู้ค้าที่อยู่ลำดับถัดมาที่อยู่กลางกรุง เทพฯ ก็ต้องถึงกับตะลึง เมื่อเจอหนุ่มไฮโซขับรถหรู จากัวร์ป้ายแดง มาส่งยาให้ เมื่อพาไปค้นบ้านก็พบยาเสพติดเพิ่ม รวมทั้งอาวุธปืนสงคราม และปืนพกหลายกระบอก หลังจับกุมยังมีนายพล ตร.โทร.มาสั่งปิดข่าวอีก ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ แต่สุดท้ายคดีพลิก

เหตุการณ์ทั้งหมดเปิดเผยขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 23 ก.ย. พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดแถลงผลงานของชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ที่ล่อซื้อจับกุมคนร้ายยาเสพติด ก่อนขยายผลไปยึดของกลางจำนวนมาก มีทั้งยาเสพติดชนิดต่างๆ อาวุธปืน รวมทั้งรถยนต์หรู ยี่ห้อจากัวร์ ป้ายแดง

ผกก.สภ.เมืองพัทยาเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ล่อซื้อยาไอซ์น้ำหนัก 3 กรัม จาก นายโก๊ส และ นายยอร์ค 2 เอเยนต์ เมื่อวันที่ 20 ก.ย. แต่ผลกลับไม่เป็นไปตามคาด 2 เอเยนต์เกิดไหวตัว หนีขึ้นรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ฒท 3779 กทม. หลบหนี

3

เจ้าหน้าที่ไล่ติดตาม ก่อนตัดสินใจใช้ปืนยิงยางรถของคนร้ายเพื่อสกัด ทำให้ยางล้อหน้าด้านซ้าย-ขวาแตกทั้ง 2 ล้อ และ ล้อหลังด้านขวาแตกอีก 1 ล้อ ส่งผลให้คนร้ายจนมุมและถูก เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้

ต่อมาชุดสืบสวนสอบสวนขยายผลให้ทั้งคู่ติดต่อล่อซื้อยาไอซ์น้ำหนัก 100 กรัม จากนายเติ้ล เมื่อไปถึงจุดนัดรับส่งของกันที่ภายในหมู่บ้านเกศินีวิลล์ ซอยประชาอุทิศ 21 แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร นายเติ้ลขับรถหรูยี่ห้อจากัวร์ ทะเบียนป้ายแดง ล 7777 กทม. มายังจุดนัดพบ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น พบยาไอซ์ หนัก 99.82 กรัม

จากนั้นชุดสืบสวนขยายผลเข้าตรวจ ค้นที่พัก ซึ่งเป็นบ้านหรูภายในหมู่บ้าน ดังกล่าว พบยาเสพติดจำนวนมาก ประกอบด้วย 1 ยาไอซ์ หนัก 72.05 กรัม ยาอีชนิดเม็ดสีเขียว 3 ถุง จำนวน 90 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดสีฟ้า สัญลักษณ์ภาษาอังกฤษ VL จำนวน 60 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดสีชมพูรูปหัวใจ จำนวน 80 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดสีชมพู สัญลักษณ์ภาษาอังกฤษ W จำนวน 60 เม็ด ยาอีชนิดเม็ดรูปผีเสื้อ กัญชาแห้ง 2 ถุง หนัก 18.28 กรัม และ 15.92 กรัม

2

นอกจากนี้ยังพบปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก ปืนกลอูซี่ จำนวน 1 กระบอก ปืนพกสั้นขนาด .45 จำนวน 6 กระบอก อาวุธปืนสั้นขนาด .380 จำนวน 1 กระบอก และปืนพกสั้นขนาด 9 ม.ม. จำนวน 1 กระบอก รวมทั้งสิ้น 10 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนกว่า 700 นัด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและควบคุมตัวมายัง สภ.เมืองพัทยา สอบสวนขยายผลหาตัวผู้ร่วมขบวนการเครือข่ายเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เป็นที่สังเกตว่าในการแถลงไม่มีการเอ่ยชื่อจริงของผู้ต้องหา หรือนำรูปภาพขณะจับกุมมาแสดงต่อสื่อ จนเป็นที่ผิดสังเกต เมื่อสอบถามกับแหล่งข่าวก็ทราบว่าหลังถูกจับได้มีนายตำรวจ ชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพลโทร.มากำชับเจ้าหน้าที่ห้ามไม่ให้เปิดเผยชื่อ-นามสกุลจริงของผู้ต้องหาอย่างเด็ดขาด ก่อนจะรีบให้นำตัวส่งไปควบคุมที่ สน.ห้วยขวาง ทันที

พฤติกรรมของนายพล ตร.คนดังกล่าวชวนให้สงสัย จนมีข่าวลือแพร่ไปทั่วว่านายเติ้ลผู้ต้องหารายนี้ไม่ธรรมดา เป็นหนุ่มไฮโซลูกชายนายพล หลังมีข่าวออกไปเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในทางลบตามมามากมาย

หลังกระแสทางลบตีกลับรุนแรง สุดท้ายนายพลดังกล่าวรีบให้ ตร.ต้องออกมาแก้ข่าว พร้อมเผยรายละเอียดว่า จริงๆ แล้วผู้ต้องหาชื่อ นายนภสินธุ์ หรือ เติ้ล ไพชยนต์วิจิตร อายุ 36 ปี ที่อยู่ 999/205 ซอยเกศินีวิลล์ แขวงสามเสนนอก ห้วยขวาง กทม. ไม่ได้เป็นลูกนายพล แต่ที่บ้านประกอบกิจการค้าไม้ ไม่ใช่ลูกนายพลแต่เป็นลูกเสี่ยค้าไม้

ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ร.ต.ท. ศิวานนท์ สงนุ้ย รอง สว.(สอบสวน) สน.ห้วยขวาง ควบคุมตัวนายนภสินธุ์มายื่นคำร้องฝากขังต่อศาลครั้งแรกเป็นเวลา 12 วัน โดยแจ้งข้อหากระทำผิดพ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ และพ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอด

ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษถึงประหารชีวิต ผู้ต้องหาอาจหลบหนี ศาลพิจารณาอนุญาตให้ฝากขังได้ หลังไร้เงาญาติพี่น้องมาประกันตัว จึงนำตัวไปควบคุมไว้ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป

อีกบทเรียนราคาแพง จะด้วยความสงสารหรือสนิทสนมส่วนตัว นายพลคนดังกล่าวก็เรียกว่าเกือบไปแล้ว ยังดีที่รีบเปิดเผยความจริงได้ทัน ใครที่ยังหลงอยู่ในยุคคิดว่าใช้อำนาจหน้าที่ปิดบังข้อมูลข่าวสารความจริงได้ มีแต่จะหาเรื่องเข้าตัวเองเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน