แฉเล่ห์กลแก๊งโกงตาชั่ง ซ้ำเติมเกษตรกรเลี้ยงหมู ตร.ลวงมาจับถึงโรงพัก : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ไม่ว่าอาชีพอะไรก็ล้วนลำบาก ต้องคอยประคับประคองพอให้ผ่านพ้นไปได้ ชีวิตเกษตรกรเลี้ยงหมูก็เช่นกัน เมื่อต้นทุนค่าอาหารค่ายาเพิ่มขึ้นทุกวัน แต่พอส่งขายกลับถูกพ่อค้ากดราคาจนแทบไม่มีกำไร แถมยังต้องทุกข์ซ้ำ เมื่อมาเจอเข้ากับแก๊งมิจฉาชีพที่ใช้เล่ห์กล โกงตาชั่งจนสูญเสียเงินไปอีก

สดจากสนามข่าว

นางพูล สืบสวน แจ้งความ

เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. นางพูล สืบสวน อายุ 65 ปี พร้อม นายคณนาถส์ สืบสวน อายุ 38 ปี ลูกชาย เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.เชษฎฐ์สุชา ไกรแก้วโชติรัตน์ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.สวาย จ.สุรินทร์ เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับนายปัญญา หรือโด้ ดุจจานุทัศน์ อายุ 38 ปี, นายสุทธิศักดิ์ หรือมด สกุลจันทร์ อายุ 36 ปี กับพวกอีก 3 คน หลังก่อเหตุหลอกซื้อหมูไป 9 ตัว แต่โกงตาชั่ง น้ำหนักแล้วหนีไปพร้อมรถกระบะที่ใช้ขนหมู

นางพูลให้การว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา นายปัญญาซึ่งเป็นพ่อค้าหมูกับพวกรวม 5 คน ขับรถกระบะโตโยต้าวีโก้ สีบรอนซ์-เทา ทะเบียน บฐ 7400 สุรินทร์ เข้ามาหาที่บ้านเพื่อติดต่อ ขอซื้อหมูที่เลี้ยงไว้ในคอก จำนวน 9 ตัว โดยจะให้ราคาเท่ากับที่ซื้อขายกันตามท้องตลาด ประมาณกิโลกรัมละ 65 บาท

สดจากสนามข่าว

ตาชั่งหมู

กลุ่มนายปัญญาพูดจาหว่านล้อมให้ยอมขายให้กับพวกตน จากนั้นได้นำรถกระบะเข้าไปชั่งหมู 9 ตัว ที่คอกก่อนนำขึ้นรถ ซึ่งในจังหวะที่นำหมูมาชั่ง ลูกชายตนกลับมาพอดีจึงให้ไปดูการชั่งหมูและจดน้ำหนักไว้ โดยตาชั่งเป็นของกลุ่มคนร้ายนำมาเอง ซึ่งการชั่งแต่ละครั้งจะไม่ให้เข้าไปดูด้านหลังตาชั่งเลยและพยายามพูดชวนคุยหว่านล้อมไปทั่วจนกระทั่งชั่งเสร็จ แล้วจ่ายเงินให้จำนวน 35,000 บาท จากนั้นนำหมูขึ้นรถออกไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากรถขนหมูขับพ้นออกไปลูกชายเกิดเอะใจ เมื่อนำจำนวนเงินที่ได้มาหารจำนวนหมูทั้ง 9 ตัว ได้ตัวละ 3,888 บาท ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ไม่นานเพิ่งขายหมูคอกเดียวกันให้คนในหมู่บ้านไป 2 ตัวได้ราคาตัวละ 6,200 บาท เนื่องจากน้ำหนักหมูแต่ละตัวหนักราว 113-115 กิโลกรัม แต่ทำไมหมูที่กลุ่มคนร้ายมาซื้อยัดใส่กรง 2 ตัว ชั่งได้เพียง 150 กิโลกรัม เป็นไม่ได้แน่นอน จึงรู้ตัวว่าโดนโกงตาชั่งเข้าให้แล้วจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สดจากสนามข่าว

รับทราบข้อหา

นางพูลยังให้ข้อมูลอีกว่า เคยถูกพ่อของผู้ต้องหาโกงตาชั่งในการขายหมูให้มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อปี’49 กระทั่งมาถูกลูกโกงอีกครั้งในรอบ 13 ปี

หลังรับแจ้งพ.ต.ท.เชษฎฐ์สุชา ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.สวาย ออกสืบสวนหาตัวแก๊งคนร้าย โดยไล่ตรวจสอบจากภาพวงจรปิดเพื่อหารถ กระบะที่คนร้ายใช้ รวมทั้งไปตรวจสอบข้อมูลจากโรงฆ่าสัตว์และแผงขายหมู จนทราบตัวทั้ง 5 คน โดยหัวโจกคือนายปัญญา หรือโด้ ดุจจานุทัศน์ อายุ 38 ปี, นายสุทธิศักดิ์ หรือมด สกุลจันทร์ อายุ 36 ปี

โดยนายปัญญาทำหน้าที่ขับรถกระบะ เจรจา และหาทุน, นายสุทธิศักดิ์ ทำหน้าที่จ่ายเงินค่าหมู ส่วนพวกอีก 3 คน ทำหน้าที่ช่วยจับหมู ยกกรงหมูขึ้นตาชั่ง โดยได้ส่วนแบ่งคนละ 500 บาท

สดจากสนามข่าว

เล้าหมูที่เกิดเหตุ

พฤติกรรมของทั้ง 5 คน จะแบ่งหน้าที่ทำงาน โดยคนยกหมูขึ้นตาชั่ง 2 คน จะใช้เท้ายันกรงหมูไว้ และไม่ทิ้งน้ำหนักกรงหมูลงบนตาชั่งทั้งหมด ใช้กำลังแขนดึงรั้งน้ำหนักไว้ทำให้หมูเบากว่าปกติ โดยให้เจ้าของหมูจดน้ำหนักเองเพื่อความน่าเชื่อถือ

ขณะเดียวกันนายปัญญาจะชวนพูดคุยไม่หยุด เพื่อเบี่ยงเบนความสนใจในการชั่งน้ำหนัก ไม่ให้สังเกตเห็นความผิดปกติ เมื่อได้หมูมาแล้วก็จะนำไปขายที่โรงฆ่าสัตว์แห่งหนึ่งในพื้นที่บ้านนาฮัง เขต อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ โดยจะใช้ถนนสุรินทร์-ปราสาท เลี่ยงเมือง แยกโรบินสันเลี้ยวขวา มุ่งหน้าไปยัง อ.ศีขรภูมิ ทำมาหลายพื้นที่ทั้งใน จ.สุรินทร์และพื้นที่ใกล้เคียง ส่วนหมูที่หลอกซื้อจากนางพูลไป ทราบว่าเอาไปเชือดขายหมดแล้ว ที่ อ.ศีขรภูมิ

สดจากสนามข่าว

หมูในเล้านางพูล

พ.ต.ท.เชษฎฐ์สุชา จึงเชิญตัวนายปัญญาและนายสุทธิศักดิ์พร้อมยึดรถคันก่อเหตุมาสอบสวนที่โรงพัก และนัดนางพูลให้มาเจรจารับเงินส่วนต่างค่าหมูเพื่อแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี เนื่องจากเป็นคดีฉ้อโกงซึ่งสามารถยอมความได้

แต่จริงๆ แล้วเจ้าหน้าที่แอบนัดแนะกับนางพูลเอาไว้แล้ว ว่าให้ทำทีเป็นยอมรับเงิน เพื่อให้คนร้ายตายใจจะได้ตะล่อมให้พาพวกที่เหลือมาอีก 3 คน มาคุยกันที่โรงพักเพื่อจับกุมให้ครบทั้ง 5 คนในคราวเดียวกัน ก่อนที่ทั้งหมดจะถูกดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง (โกงตาชั่งน้ำหนัก)

เมื่อประกอบอาชีพโดยไม่ยึดถือความสุจริตเที่ยงตรง จ้องแต่จะเอารัดเอาเปรียบคนอื่น สุดท้ายก็ทำให้ไม่มีที่ยืนในสังคม

โดย ธนโชติ เจนจัด/เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน