เปิดเส้นทางหลบหนี ‘ไอ้คิด’จนมุมคารถไฟ นศ.ตาไว–แจ้งตร.รวบ ตร.เชื่อวางแผนฆ่าศพ6
คอลัมน์ – แฟ้มคดี
แฟ้มคดี – ปิดคดีได้อย่างรวดเร็ว สำหรับการติดตามจับกุม นายสมคิด พุ่มพวง
ฆาตกรต่อเนื่องที่ก่อเหตุฆ่าหญิงสาวมาแล้ว 5 ศพ แล้วถูกจับกุมดำเนินคดีจนต้องโทษติดคุกตลอดชีวิต
สุดท้ายได้รับอภัยโทษออกมาหลังจากติดคุกอยู่ 14 ปี
แต่แทนที่จะสำนึกผิดกลับก่อคดีสยองขวัญซ้ำอีก
คราวนี้เป็นการฆ่ารัดคอแม่บ้านโรงแรม ที่อ.กระนวน จ.ขอน แก่น ก่อนใช้จยย.ของผู้ตายหลบหนี
แม้จะอ้างว่าเป็นการลุแก่โทสะ แต่รูปคดีมีหลักฐานว่าจะเป็นเจตนาฆ่า
ซึ่งการจับกุมได้อย่างรวดเร็ว คงต้องชื่นชมนักศึกษาหนุ่ม ที่เป็นพลเมืองดี ติดตามข้อมูลข่าวสารและช่างสังเกต
เมื่อพบพิรุธก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ได้อย่างรวดเร็ว สกัดกั้นไม่ให้ไปก่อเหตุร้ายกับคนอื่น
เหลือแค่รอดูว่าเมื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม จะยังได้กลับออกมาสู่สังคมอีกหรือไม่
การกลับมาของ‘สมคิด พุ่มพวง’
เหตุการณ์สยองขวัญครั้งนี้เป็นที่รับรู้เมื่อช่วงสายวันที่ 16 ธ.ค. โดยพ.ต.อ.ขจรฤทธิ์ วงษ์ราช ผกก.สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น ระบุว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมาได้รับแจ้งเหตุฆาตกรรมนางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี เหตุเกิดภายในบ้านเลขที่ 293 ม.19 ต.หนองโก อ.กระนวน จ.ขอนแก่น ของผู้ตาย
โดยเจ้าหน้าที่พบศพนางรัศมี ถูกห่อด้วยผ้าห่ม ท่อนบนสวมเสื้อยืด ลำคอถูกพันด้วยเทปใส ข้อเท้ามัดด้วยสายชาร์จแบตฯโทรศัพท์ ซุกอยู่ในฟูกที่นอนที่วางอยู่ในห้อง ตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตมาประมาณ 8 ชั่วโมง ร่างกายไม่มีร่องรอยถูกทำร้าย ไม่มีร่องรอยต่อสู้ ไม่มีร่องรอยรื้อค้นในบ้าน คาดคนร้ายลงมือตอนที่ผู้ตายนอนหลับ
สอบสวนทราบว่าก่อนหน้านี้ผู้ตายมีอาชีพเป็นแม่บ้าน อยู่ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในอ.กระนวน มีสถานะเป็นแม่ม่าย เป็นคนเงียบๆ ไม่สุงสิงกับใคร โดยเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ชายคนหนึ่ง ทราบชื่อว่า ‘แขก’ เข้ามาอาศัยอยู่ที่บ้านของน.ส.รัศมี ในลักษณะคบหาเป็นแฟนกัน โดยระบุว่าแฟนใหม่เป็นชาวนครศรีธรรมราช ประกอบอาชีพทนายความ เปิดสำนักงานอยู่ที่ จ.พัทลุง
โดยทั้งคู่มีแผนว่าจะแต่งงานกัน ซึ่งทางญาติก็ไม่ได้ว่าอะไร จะมีบ้างก็ทักท้วงว่าจะเร็วไปไหม แต่ก็อยู่กันเรื่อยมา จนกระทั่งเช้าวันที่ 14 ธ.ค. นายแขกขี่จักรยานยนต์ไปส่งนางรัศมีทำงานที่โรงแรมตามปกติ แต่พอช่วงเลิกงาน นายแขกไม่ได้ไปรับ ทำให้นางรัศมีกลับบ้านเอง กลางคืนนายแขกกลับมาที่บ้าน แต่ก็ไม่มีรถจักรยานยนต์กลับมาด้วย
จนช่วงเช้าวันที่ 15 ธ.ค. เพื่อนบ้านได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันและเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เพื่อนบ้านและญาติๆจึงพากันมา แต่นายแขกเปิดผ้าม่าน ตะโกนบอกว่าไม่มีอะไร และนางรัศมีต้องการพักผ่อน จึงถอยกลับมา แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
เมื่อเข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว นายแขกไม่อยู่บ้านแล้ว จึงช่วยกันค้นหานางรัศมี ในที่สุดก็พบศพ โดยนายแขกใช้ฟูกที่นอนประกบร่างของนางรัศมี แล้วใช้ฟูกขนาด 6 ฟุตทับอีกชั้น จากนั้นทีมสืบสวนจากบช.ภาค 4 บก.จว.ขอนแก่น และสภ.กระนวนก็ลงพื้นที่ตามภาพวงจรปิด เพื่อตามหานายแขกคนนี้ เพราะเชื่อว่าเป็นคนร้าย
เมื่อสืบสวนลึกเข้าก็พบความจริงที่น่าตระหนก เมื่อคนร้ายรายนี้ก็คือนายสมคิด พุ่มพวง ฆาตกรต่อเนื่องที่ลงมือโหดมาแล้ว 5 ศพเมื่อปี 2548 และถูกศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต
แต่ในฐานะนักโทษชั้นดี ก็ได้ลดหย่อนโทษมาเป็นลำดับ จนติดคุกจริง 14 ปี ออกมาพ้นคุกเมื่อกลางปีที่ผ่านมา
แล้วก่อเหตุสยองขึ้นมาอีก
น.ศ.ตาไว–แจ้งจับคาโบกี้รถไฟ
หลังทราบว่าคนร้ายคือฆาตกรต่อเนื่องชื่อดัง หรือที่ได้รับฉายาว่า ‘คิด เดอะริปเปอร์’ อ้างอิงจากฆาตกรต่อเนื่องชื่อดังในประเทศอังกฤษ การปฏิบัติการไล่ล่าก็เกิดขึ้น
ซึ่งช่วงแรกหลังจากที่ข่าวปรากฏ ก็สร้างความแตกตื่นให้กับประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ
มีการแจ้งเบาะแสจากทั่วทุกสารทิศ แต่สุดท้ายเมื่อตรวจสอบแล้วก็กลายเป็นคนหน้าคล้ายนายสมคิดเท่านั้น
อย่างไรก็ตามการทำงานอย่างจริงจัง และความช่วยเหลือจากสาธารณชนก็ส่งผล
โดยช่วงเช้าวันที่ 18 ธ.ค. นาย ‘เรย์’ น.ศ.หนุ่มวัย 22 ปี ที่เดินทางจากสถานีรถไฟโคกกรวด จ.นครราชสีมา มุ่งหน้ามายังกทม. พร้อมแฟนสาว ก็พบเหตุการณ์ผิดสังเกต เมื่อแฟนสาวสังเกตเห็นชายต้องสงสัยสวมใส่หน้ากากอนามัย ใส่เสื้อกันหนาว นั่งอยู่ในรถไฟโบกี้ที่ 3 โดยสังเกตที่หัวคิ้วซ้าย มีรอยบากเหมือนรูปนายสมคิดในประกาศจับ
ขณะที่ตร.เร่งระดมกำลังมาดักรอที่สถานีรถไฟปากช่อง เมื่อรถจอด ก็แสดงตัวจับกุม โดยนายสมคิดยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับ แล้วคุมตัวไปที่ศูนย์ฝึกอบรมตำรวจภูธรภาค 3 จ.นครราชสีมา เพื่อสอบปากคำเบื้องต้น ก่อนส่งตัวไปดำเนินคดีที่สภ.กระนวน
ทั้งนี้จากการสอบสวน นายสมคิดระบุว่าลงมือฆ่าเพราะโมโหที่นางรัศมีดุด่าเรื่องกลับบ้านดึก เกรงจะไปมีผู้หญิงคนอื่น ด้วยการบีบคอจนสลบ พอฟื้นขึ้นมาจึงใช้สายชาร์จโทรศัพท์รัดคอ จากนั้นปีนออกจากหน้าต่าง เดินไปยังท่ารถบขส.กระนวน นั่งรถเข้าตัวเมืองขอนแก่นไปเอาจยย.ยามาฮ่า มีโอ สีชมพู ของนางรัศมี ที่จอดทิ้งไว้ แล้วขี่จยย.ไปยังอ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เข้าทางมหาวิทยาลัยมหาสารคาม มุ่งหน้าจ.ร้อยเอ็ด นอนพักที่โรงแรมร้อยเอ็ด 1 คืน จ่ายค่าเช่าห้องคืนละ 200 บาท
พอเช้า นายสมคิดขี่จยย.ผ่านจ.สุรินทร์ เข้าไปยังจ.บุรีรัมย์ช่วงดึก แล้วแอบไปนอนปะปนกับญาติผู้ป่วย ที่ร.พ.บุรีรัมย์ 1 คืน กระทั่งเช้าก็จอดจยย. ไว้ที่ร.พ.บุรีรัมย์ แล้วนั่งรถสาธารณะไป ยังสถานีรถไฟบุรีรัมย์แล้วซื้อตั๋วรถไปยังจ.พระนครศรีอยุธยา
ขณะที่ตร.ชี้เป็นการวางแผนล่วงหน้า เพราะมีการนำจยย.ไปจอดทิ้ง อ้างจะเอาไปซ่อม ทั้งที่ไม่ได้เสีย
วางแผนจงใจฆ่าชัดเจน
ย้อนรอยคดี‘คิด เดอะริปเปอร์’
นายสมคิดกลายเป็นข่าวโด่งดังเมื่อปี 2548 เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามจับกุมเมื่อวันที่ 29 มิ.ย. 2548 หลังก่อเหตุฆ่าหมอนวดและนักร้องถึง 5 รายซ้อนในพื้นที่ภาคอีสาน เหนือ และภาคใต้ โดยคดีแรก เมื่อวันที่ 30 ม.ค. 2548 เหยื่อคือ น.ส.วารุณี พิมพะบุตร นักร้องคาเฟ่ ถูกมัดและกดน้ำเสียชีวิต ในห้องพักโรงแรม ต.มุกดาหาร อ.เมือง จ.มุกดาหาร
ถัดมาเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. 2548 น.ส.ผ่องพรรณ ทรัพย์ชัย หมอนวดแผนโบราณ พบเป็นศพถูกบีบคอตายคาห้องพัก 604 โรงแรมแห่งหนึ่งใน ต.สวนดอก อ.เมือง จ.ลําปาง
เหยื่อรายที่ 3 คือ น.ส.พัชรีย์ อมตนิรันดร์ นักร้องคาเฟ่ ถูกรัดคอด้วยสายไฟสิ้นใจตายภายในห้องพัก 505 โรงแรม ต.ทับเที่ยง อ.เมือง จ.ตรัง เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2548 รายที่ 4 คือ น.ส.พรตะวัน ปังคะบุตร หมอนวด ถูกกดน้ำตายในห้องพัก 1126 โรงแรม อ.เมือง จ.อุดรธานี วันที่ 18 มิ.ย. 2548
และศพที่ 5 คือ น.ส.สมปอง พิมพรภิรมย์ ท้องที่ จ.บุรีรัมย์ ในแมนชั่น อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 2548 แม้จะลงมือต่างพื้นที่ แต่เป็นระยะเวลาที่ใกล้เคียงกันทั้งหมด
แต่ตอนนั้นเจ้าหน้าที่ยังไม่คิดเลยว่าทั้งหมดจะมีความเชื่อมโยง
กุญแจที่สามารถคลี่คลายคดีได้ เนื่องจากในคดีที่ 5 ตํารวจได้หลักฐานภาพจากกล้องวงจรปิด ระหว่างคนร้ายพาเหยื่อสาวมาเปิดห้องพัก เจ้าหน้าที่จึงส่งภาพกระจายไปหลายโรงพักและในจังหวัดต่างๆ
เมื่อตํารวจเจ้าของ 4 คดีแรกได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด และข้อมูลการลงมือของฆาตกรที่ใกล้เคียงกับคดีของตัวเอง จึงนําภาพไปให้พยานในแต่ละคดีดู ทั้งหมดชี้ยืนยันว่าเป็นฆาตกรรายเดียวกัน แต่ใช้คนละชื่อในการเปิดห้องพัก!!?
ซึ่งก็คือนายสมคิด พุ่มพวง ที่เคยมาเป็นพยานเท็จในคดีฆ่า ผู้ว่าฯยโสธรเมื่อปี 2544 จึงตามแกะรอยไปยังบ้านและสถานที่ต่างๆ ที่นายสมคิคเคยไปปรากฏตัว พร้อมตรวจหาทรัพย์สินของเหยื่อไปด้วย
กระทั่งวันที่ 29 มิ.ย. 2548 พบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือของเหยื่อรายหนึ่ง ที่ถูกขโมยไปหลังโดนฆาตกรรม โทร.ออกจากจ.ชัยภูมิ จึงตามจับกุมได้ถึงบ้านของภรรยาเก่านายสมคิด
สอบสวนนายสมคิดสารภาพ 4 คดี อ้างว่าลงมือสังหารเพราะโมโหที่เหยื่อทุกรายซึ่งซื้อบริการมาหลับนอน ขอเพิ่มค่าตัวเลยฆ่าทิ้งให้หายแค้น แต่ปฏิเสธก่อคดีที่ 3 ที่จ.ตรัง
ต่อมาอัยการสั่งฟ้องแยกเป็น 5 คดี ทุกคดีศาลสิ้นสุดที่ศาลฎีกาให้จำคุกตลอดชีวิต
จำคุกที่เรือนจำบางขวาง ต่อมาได้ย้ายไปจำคุกที่เรือนจำจังหวัดหนองคาย ก่อนถูกปล่อยตัวออกมาเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 2562 เนื่องจากมีความประพฤติดี เรียบร้อย เป็นนักโทษชั้นเยี่ยม ออกมาก่อคดีฆ่าศพที่ 6
ต้องดูกันต่อไปว่าจุดจบของคดีนี้จะเป็นอย่างไร
อ่าน –