ชาร์จมือถือสลด สายรั่ว-ชอร์ตพระมรณภาพ

อีกรายไหม้ย่างสดสาวนคร : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ชาร์จมือถือสลด สายรั่ว – ทุกวันนี้ ‘โทรศัพท์มือถือ’ ไม่เพียงเป็นอุปกรณ์สื่อสาร แต่พัฒนาเป็น ‘สมาร์ตโฟน’ ที่ให้ผู้ใช้ค้นคว้าหาความรู้ติดต่อพูดคุยกับคนอื่นทั่วโลกผ่านโซเชี่ยลเน็ตเวิร์กรวมถึงเล่นเกมออนไลน์ นับเป็นปัจจัยขั้นพื้นฐานที่ทุกผู้คนต้องมีติดตัว ตั้งแต่เด็กเล็กตัวน้อยไปยันผู้เฒ่าวัยดึก

อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ไม่ต่างจากเครื่องไฟฟ้าอื่น ที่ต้องใช้กระแสไฟฟ้าเป็นแหล่งพลังงานผ่านแบตเตอรี่ เมื่อใช้หมดต้องชาร์จไฟเข้าไปใหม่ เพื่อขับเคลื่อนให้ชิ้นส่วนทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ที่ผ่านมามีกรณีชาร์จแบตฯ สมาร์ตโฟนทิ้งคาปลั๊กไฟไว้จนเกิดเหตุสลดจนถึงชีวิตมาแล้วหลายราย ทั้งประมาทเลินเล่อและจากอุปกรณ์สายชาร์จชำรุด

ล่าสุดยังเกิดเรื่องเศร้าจากการชาร์จโทรศัพท์มือถือ 2 เหตุซ้อนๆ กัน

เช้าวันที่ 16 ธ.ค. ร.ต.อ.อดิศักดิ์ บุญไชยโย รองสว. สอบสวน สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ รับแจ้งเหตุพบพระสงฆ์มรณภาพภายในกุฏิวัดสว่างโนนชาด บ้านโนนชาด ม.3 ต.หนองอิเฒ่า จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์นิติเวช ร.พ.ยางตลาด และนาย ชยพล วัชระอุดมกุล อุปนายกสมาคมกู้ภัยสามัคคีกาฬสินธุ์ และ เจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยสามัคคีกาฬสินธุ์

ชาร์จมือถือสลด สายรั่ว

เจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพพระเรืองยศ

ที่เกิดเหตุเป็นกุฏิติดพื้นชั้นเดียวอยู่ติดโรงครัวหลังวัด พบศพพระลูกวัดชื่อพระเรืองยศ ภูเสนา อายุ 49 ปี กำลังขึ้นอืดมรณภาพมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน นอนทับโทรศัพท์มือถือที่ยังเสียบสายชาร์จ คาปลั๊กไฟข้างที่นอน

จากการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและชันสูตรศพ ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และไม่มีบาดแผล แต่สายชาร์จมีร่องรอยชำรุด เบื้องต้นสันนิษฐานเสียบสายชาร์จไว้แล้วเล่นมือถือ แต่อาจจะเผลอหลับนอนทับสายชาร์จที่ไฟรั่วทำให้ถูกชอร์ตมรณภาพ

2อุทาหรณ์ชาร์จมือถือสลด

ญาติโยมเศร้าหลังทราบข่าว

ผู้พบศพคนแรกคือนางมะลิวรรณ ภูวิเศษ อายุ 62 ปี สีกาอุปัฏฐากกล่าวว่า ปกติทุกเช้าพระเรืองยศจะออกรับบิณฑบาตและฉันภัตตาหารเช้าร่วมกับพระเณรเป็นประจำ แต่ 2 วันที่ผ่านมาไม่เห็นออกมาจากกุฏิ

แต่ไม่รู้สึกสงสัยเพราะเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้ยินพระเณรคุยกันว่า จะไปทำบุญที่วัดพระธาตุพนม จ.นครพนม จึงคิดว่าพระเรืองยศ เดินทางไปทำบุญกับคณะ กระทั่งช่วงเช้าวันนี้เห็นพระเณรทุกรูป ที่เดินทางกลับมาจากทำบุญแล้ว แต่ยังไม่เห็นพระเรืองยศ ถามใครก็ไม่รู้ว่าไปไหน โทรศัพท์หาก็ติดต่อไม่ได้ จึงเอะใจเดินมาดูที่กุฏิและ ได้กลิ่นเหม็นจึงรู้ว่ามรณภาพแล้ว

เหตุสลดอีกคดีเกิดขึ้นในเช้าวันที่ 19 ธ.ค. พ.ต.ต.ศุภวิทย์ ไชยประพันธ์ สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเลขที่ 63 ม.2 ต.ทุ่งสัง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก.

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียวครึ่งปูนครึ่งไม้ สภาพเก่าทรุดโทรม ซึ่งสร้างมาแล้วประมาณ 60 ปี ไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย กำลังระดมฉีดน้ำสกัดนานกว่า 30 นาทีจึงสงบ

ตรวจสอบภายในบ้านพบศพ น.ส.นิสาชล สวัสดิวงศ์ อายุ 33 ปี เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) ต.ทุ่งสัง ถูกไฟคลอกย่างสดตายทั้งเป็น สภาพร่างไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก

2อุทาหรณ์ชาร์จมือถือสลด สายรั่ว

เจ้าหน้าที่พยายามเข้าไปช่วยแต่ไม่ทันเวลา

ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายโยธิน สวัสดิวงศ์ อายุ 36 ปี สามีของผู้ตาย ถูกไฟคลอกทั้งตัวอาการสาหัส ถูกนำส่งรักษาที่ ร.พ.ทุ่งใหญ่ ไปก่อนหน้าแล้ว แต่อาการสาหัสต้องส่งต่อไปที่ร.พ.มหาราชนครศรีธรรมราช

สอบสวนนายโยธินที่พอพูดคุยได้ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุสองสามีภรรยานอนเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่บนที่นอนภายในบ้าน โดยเสียบสายชาร์จโทรศัพท์ตั้งไว้ข้างที่นอน ก่อนทั้งคู่จะเผลอหลับไป

นายโยธินมารู้สึกตัวอีกทีพบว่าไฟไหม้สายชาร์จมือถือก่อนจะลุกลามติดผ้าที่ห่มอยู่อย่างรวดเร็วจนไหม้ตามร่างกาย นายโยธินซึ่งตกใจตื่นรีบวิ่งหนีออกไปได้ พร้อมตะโกนเรียกภรรยาให้ตื่นเพื่อหนีเอาชีวิตรอด

แต่น.ส.นิสาชลมีอาการปวดท้องตั้งแต่ช่วงเช้าทำให้ไม่มีแรงที่จะพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาได้ยังคงนอนอยู่ในกองเพลิง ก่อนตายส่งเสียงร้องโหยหวนขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา แต่ไม่มีใครสามารถ ลุยฝ่าเปลวไฟเข้าไปช่วยเหลือได้ ทำให้ไฟคลอกน.ส.นิสาชลตายคากองเพลิง

2อุทาหรณ์ชาร์จมือถือสลด

บ้านที่เกิดเหตุ

2 เหตุการณ์นี้คงเป็นอีกอุทาหรณ์เตือนใจให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟนต้องหมั่นตรวจสอบอุปกรณ์ให้สมบูรณ์ เพื่อป้องกันเหตุสลดที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนที่คุณรัก

ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม,
นุชจรี แรกรุ่น, สุเชษฐ์ แรกรุ่น เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน