ย้อนเหตุแก๊งโจ๋บุรีรัมย์โหด ฉุนท้าทายผ่านโลกโซเชี่ยล

ยกโขยงถล่มอริดับคาบ้าน : คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

แก๊งโจ๋บุรีรัมย์โหด – ‘วัยรุ่น’ นับเป็นช่วงชีวิตที่ผู้คนซึ่งก้าวข้ามไปแล้วมักรำลึกถึงอยู่เสมอ บางรายนึกถึงการใช้ชีวิตที่ไม่ต้องมีความรับผิดชอบอะไรมากมาย แค่เรียนและเล่นอย่างสนุกสนาน หลายคนอาจคิดว่าหากกระทำได้ อยากกลับไปแก้ไขการกระทำบางสิ่งที่เขาคิดว่าส่งผลกระทบถึงชีวิตในปัจจุบัน

แต่ผู้คนที่ยังอยู่ในวัยคะนองซึ่งเป็นห้วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ต่างก็ไม่เคยคิดไปไกลเกินกว่าปัจจุบัน ส่งผลให้การกระทำบางอย่างจึงขาดสติยั้งคิด

เช่นเดียวกับแก๊งวัยรุ่นใน จ.บุรีรัมย์ ที่ยกโขยงบุกถล่มคู่อริจนเสียชีวิตคาบ้าน เพียงเพราะเกิดการท้าทายกันผ่านโลกโซเชี่ยลเท่านั้น

คดีนี้เกิดขึ้นเมื่อ พ.ต.อ.บุญธรรม สมบูรณ์ ผกก.สภ.นาโพธิ์ อ.นาโพธิ์ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บหน้าบ้านเลขที่ 148 ม.2 ต.ดอนกอก อ.นาโพธิ์ เมื่อกลางดึกวันที่ 14 ม.ค. ที่ผ่านมา จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อม พ.ต.ท.ประภาส พวงศรี รองผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ปรีดา เจริญราช สว.สอบสวน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ สายตรวจ

ที่เกิดเหตุพบเพียงรอยเลือด ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นายวรินธร ศรีโย อายุ 21 ปี ทหารเกณฑ์สังกัดค่ายแห่งหนึ่งที่ จ.ลพบุรี ถูกยิงเข้ากลางหลังอาการสาหัส นายไพพูล ศรีโย อายุ 53 ปี พ่อของนายวรินธรถูกรุมทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ทั้งคู่ถูกส่งรักษาตัวที่ร.พ.บุรีรัมย์ แต่นายวรินธรทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในที่สุด

แก๊งโจ๋บุรีรัมย์โหด

ผู้ใหญ่ทรัพย์โชว์แผลถูกแทง

นายทรัพย์ เพาะไธสง ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 ต.ดอนกอก ซึ่งได้รับบาดเจ็บเช่นกัน แต่ยังรอให้รายละเอียดกับตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุให้การว่า ขณะนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านพักซึ่งไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 2 นัด เมื่อเดินออกมาดูก็พบกลุ่ม วัยรุ่นไม่ต่ำกว่า 10 คน ล้อมบ้านหลังที่เกิดเหตุไว้

แก๊งโจ๋บุรีรัมย์โหด

บ้านที่เกิดเหตุ

ผู้ใหญ่ทรัพย์รับรู้ในทันทีว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นแล้ว จึงฉวยปืนพกประจำกายตรงเข้าไประงับเหตุ

เมื่อเข้าไปใกล้กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว กลับมีคนร้องตะโกนว่าตำรวจมาแล้วยิงใส่เลย จึงตะโกนบอกไปว่าเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่ใช่ตำรวจ แต่แก๊งโจ๋ยังไม่ยอมหยุด มี 2 คนพุ่งตรงเข้ามาหาชักปืนจ่อ พร้อมพูดข่มขู่ว่าไม่กลัว เพราะมีปืนมาถึง 3 กระบอก ขณะที่ผู้ใหญ่มีเพียงกระบอกเดียว

จากนั้นวัยรุ่นชายก็ลงมือรุมสกรัมผู้ใหญ่บ้านจนล้มลุกคลุกคลาน และมีหนึ่งในนั้นชักมีดพร้าด้ามยาวจ้วงแทงเข้าท้องผู้ใหญ่ทรัพย์อย่างไม่ยำเกรงว่าเป็นคนของทางราชการ

เดชะบุญที่มีดพร้าเล่มนั้นปลายหักไม่มีความแหลมคมจึงแทงไม่เข้า ทำให้เกิดเป็นเพียงรอยช้ำปื้นใหญ่เท่านั้น

หลังผู้ใหญ่ทรัพย์ตั้งสติได้จึงร้องตะโกนเรียกชื่อตำรวจที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านให้มาช่วยเหลือ ทำให้เหล่าแก๊งโจ๋โหดพากันแตกฮือแยกย้ายกันหลบหนีไป

จากการสืบสวนของตำรวจ พบว่าผู้ก่อเหตุทั้งหมดเป็นวัยรุ่นบ้านหนองแวงพัฒนา ม.13 ตำบลเดียวกัน จึงตามไปจับตัวมาได้ 3 ราย ประกอบด้วย ชายวัยรุ่นอายุ 18 ปี, นายสุขสันต์ หรือเอ็ม ปักเคทัง อายุ 20 ปี และนายสุจินดา ศรีหาทุบ อายุ 26 ปี

แก๊งโจ๋บุรีรัมย์โหด

เค้นสอบปากคำ

ทั้งหมดถูกตามจับที่บ้านพักของแต่ละคน พร้อมอาวุธปืนปากกาขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก อาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์อีก 2 กระบอก พร้อมกระสุนปืน และอาวุธมีด 1 เล่ม

สอบปากคำทั้งหมดให้การรับสารภาพ อ้างว่าชนวนเหตุเกิดจากที่นายโก้ (ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งเป็นเพื่อนของผู้ตายได้ทักแช็ตมาหา น.ส.เปียว (ขอสงวนชื่อและนามสกุลจริง) ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกับนายเอ็ม หนึ่งในผู้ต้องหา และเป็นแฟนเก่าของนายโก้จนเกิดท้าทายกันขึ้น

แก๊งโจ๋บุรีรัมย์โหด

ข้อความแช็ตต้นเหตุ

กระทั่งล่าสุดนายโก้แช็ตมานัดเจอที่ถนนในหมู่บ้านเวลา 2 ทุ่ม ของคืนวันที่ 14 ม.ค. แต่พอถึงเวลานัดนายโก้กลับไม่ยอมโผล่หน้ามาทำให้นายเอ็มไม่พอใจ

ต่อมารู้ว่านายโก้ไปหานายวรินธรที่บ้านจึงพากลุ่มเพื่อนกว่า 10 คนไปหานายโก้ที่บ้านของนายวรินธร พอขับไปถึงหน้าบ้านก็เดินเข้าไปถามหานายโก้ แต่เกิดมีปากเสียงทะเลาะวิวาทชกต่อยกัน

ผู้ต้องหาอ้างอีกว่าช่วงที่เกิดการชุลมุนพ่อของนายวรินธรพยายามจะใช้มีดมาทำร้ายจึงใช้ปืนที่พกติดตัวมายิงใส่ไป 2 นัด แต่ไม่คิดว่าจะทำให้นายวรินธรถึงกับเสียชีวิต ก็รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าเกิดจากอารมณ์และความคึกคะนอง

แก๊งโจ๋บุรีรัมย์โหด

แถลงจับแก๊งโจ๋โหด

เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้งหมดไว้สอบปากคำอย่างละเอียด พร้อมขยายผลตามจับตัวเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุทุกคนมาดำเนินคดีต่อไป

ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย และเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุทั้งหมดไม่แคล้วที่จะต้องรับโทษตามอาญาบ้านเมือง และเมื่อเวลาผ่านไปอีก 10-20 ปี เขาเหล่านี้อาจเป็นอีกกลุ่มคนที่โหยหาอดีต อยากย้อนเวลากลับมาแก้ไขสิ่งที่กระทำไว้ในครั้งนี้

สุรชัย พิรักษา

เรืองรุจ วังแจ่ม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน