สดจากสนามข่าว
สํานวนไทยโจรปล้น 10 ครั้ง ไม่เท่าไฟไหม้ครั้งเดียว แต่ไฟไหม้ 10 ครั้งก็ยังไม่เท่าการติดเล่นการพนัน เพราะถึงกับหมดเนื้อหมดตัว หลายคนเลยต้องกลายเป็นโจรปล้นจี้ หมดอนาคต เหมือนอย่างแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ เพราะมันเห็นกองไฟเป็นแสงสี ไม่รู้ความจริงกองไฟนั้นเป็นอันตราย สุดท้ายไฟเผาไหม้ตายไปในที่สุด
ดังกรณีของหนุ่มเมืองชล เมื่อผีพนันเข้าสิง มีหนี้สินรุงรังชักหน้าไม่ถึงหลังจนหาทางออกไม่ได้ เลยคว้าปืนปลอมกับกระป๋อง สเปรย์พริกไทยไปปล้นธนาคารเอาดื้อๆ จนบานปลายกลายเป็นเหตุระทึก เกิดการไล่ล่าจับกุมวุ่นวายไปทั้งเมืองศรีราชา
เที่ยงครึ่ง วันที่ 29 ก.ย. พ.ต.ท.สุทิน นิลแย้ม สารวัตร(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวใช้อาวุธปืนเข้าปล้นธนาคารกรุงเทพ สาขาศรีราชา 2 ริมถนนศรีราชา-หนอง ยายบู่ หมู่ 8 ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี แล้วยังใช้ปืนจี้พนักงานจับลากขึ้นชั้น 2 ไปเป็นตัวประกัน
ไม่ถึง 10 นาทีต่อมา หน้าธนาคารกรุงเทพหนาแน่นไปด้วยกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ นำโดย พ.ต.อ. ภพพล จักกะพาก ผกก.สภ.ศรีราชา ที่สั่งการเสียงดังให้ปิดล้อมทุกช่องทางไม่ให้คนร้ายหลบหนีไปได้อย่างเด็ดขาด แต่ยังไม่ทันได้เข้าไปเจรจาเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว ปรากฏว่าเหยื่อตัวประกันวิ่งพรวดออกมาแจ้งว่า โจรกระโดดหน้าต่างหลังตึกเผ่นไปแล้ว
คนร้ายเป็นชายผิวดำแดง สูงประมาณ 170 ซ.ม. สวมเสื้อแจ๊กเกตสีดำ กางเกงสีเข้ม เดินเข้ามาในธนาคารแล้วเอาสเปรย์พริกไทยฉีดเข้าใส่ใบหน้ารปภ. จากนั้นเดินตรงเข้าไปที่เคาน์เตอร์ชักปืนออกมาจี้บังคับพนักงานให้หยิบเงินในลิ้นชักใส่กระเป๋าสะพายสีดำที่เตรียมมา ด้วยความกลัวพนักงานจึงคว้าเงินใส่ให้ไปประมาณ 1 ล้านบาท
แต่ขณะที่คนร้ายกำลังจะเดินออกไปที่ประตู เห็นตำรวจมาถึงแล้วเลยวิ่งย้อนกลับมาจี้พนักงานพาขึ้นไปเป็นตัวประกันที่ ชั้น 2 และเปิดหน้าต่างวิ่งไปตามหลังตึก จากนั้นกระโดดเข้าไปในบ้านที่อยู่ด้านหลังแบงก์” พนักงานให้การนาทีระทึก
ตํารวจไม่รอช้า พากันวิ่งพรวดไปที่บ้านเลขที่ 372/102 ด้านหลังธนาคาร ปรากฏว่าเจอ นายภานุวัฒน์ บัวงาม ยืนอยู่ในสภาพตื่นตกใจ บอกถูกชายใช้อาวุธปืนจี้บังคับเอารถเก๋งมิตซูบิชิ แอทเทรจ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 กค 2177 กทม. ที่เพิ่งขับเข้ามาจอดในบ้านหนีไปแล้ว
พ.ต.อ.ภพพลรีบประสานงานไปยัง พ.ต.อ.ชนพัฒน์ นวลักษณ์ ผกก.สภ.หนองขาม รวมทั้งฝ่ายปกครองอำเภอศรีราชา ช่วยติด ตามสกัดจับตามเส้นทางที่คาดว่าจะขับหลบหนี พร้อมนำกำลังออกไล่ล่าติดตาม กระทั่งบ่ายสามโมงเย็น ตำรวจก็เจอรถที่ถูกชิงมาจอดทิ้งไว้บริเวณวัดบ่อหิน หมู่ 5 ต.หนองขาม อ.ศรี ราชา ห่างจากธนาคารประมาณ 5 ก.ม. ภายในรถมีอาวุธปืนปลอม 1 กระบอก ถูกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า
ชาวบ้านใกล้เคียงระบุเห็นชายคนขับมาจอดเปิดประตูรถ แบกกระเป๋าสีดำเดินลุยทุ่งนาตรงไปยังบ้านหลังหนึ่งห่างจากจุดจอดรถ 500 เมตร เมื่อตามเข้าไปตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าวตำรวจก็รู้ว่าคน ร้ายที่กำลังไล่ล่ากันอยู่นี้คือ นายนิพนธ์ เสือโพด อายุ 31 ปี เป็นลูกชายเจ้าของบ้านหลังนี้นี่เอง
ซึ่งคนในบ้านให้การว่า เห็นนายนิพนธ์กลับเข้าบ้านมาเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วขับรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน 4 ประตู สีดำ หมายเลขทะเบียน ขย 7317 ชลบุรีออกไปโดยไม่มีใครรู้ว่าเพิ่งไปปล้นธนาคารมา
แต่นายนิพนธ์ก็หนีไปไกลบ้านพักตัวเองได้แค่ 300 เมตร เมื่อตำรวจวิทยุแจ้งเบาะแสยานพาหนะไปให้กำลังอีกชุดทราบว่ากำลังขับรถหนีไปตามถนนสายวัดบ่อยาง จนถูกสกัดจับได้ภายในซอยบังกะโลเรือนคำ ใกล้วัดบ่อหิน หมู่ 5 ต.หนองขาม พร้อมของกลางเงินสดที่ปล้นมาทั้งหมด 911,400 บาท
“ผมขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน จวร 999 ชลบุรี แต่เอาสีขาวป้ายแก้เป็น วรร 595 ชลบุรี แล้วเข้าไปปล้นโดยใช้ปืนบีบีกันและสเปรย์พริกไทยหวังได้เงินไปใช้หนี้พนันบอล”
นายนิพนธ์สารภาพต่อหน้า พล.ต.ต. อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ขณะถูกควบคุมตัวทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
ฉากการไล่ล่าจบลงไปพร้อมกับอิสรภาพของหนุ่มผีพนัน ต้องย้ายสำมะโนครัวไปอยู่ในเรือนจำรับโทษทัณฑ์เพราะการพนันแท้ๆ