ตามตร.ปิดคดีโจรแสบ

ลวงเป็นหมอตรวจโควิด

อาละวาดฉกเงินคนแก่

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ตามตร.ปิดคดีโจรแสบ – คนแก่อยู่บ้านคนเดียวเป็นเหยื่ออันโอชะของบรรดามิจฉาชีพที่เข้าไปใช้อุบายหลอกลวงต่างๆ นานา ที่เบาสุดก็หลอกให้ซื้อสินค้าที่แพงแต่ไร้คุณภาพ ที่หนักก็อาจถูกจี้ชิงทรัพย์หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิต

เหลือแต่กระเป๋า

ย้อนไปเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ขณะที่นางทร บุญรอด อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 ม.11 บ้านโพนชัย ต.โพนงาม อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ กำลังนั่งเล่นอยู่ใต้ถุนหลังบ้าน มีชายอายุประมาณ 40 ปี สวมหน้ากากอนามัยและหมวกกันน็อก สะพายกระเป๋าลักษณะเหมือนกล่องกระเป๋ายาสีดำ ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำมาจอดที่หน้าบ้าน แล้วเดินเข้ามาหาแนะนำตัวว่าเป็นหมอจะมาตรวจร่างกายและจะมีเจ้าหน้าที่พ่นฆ่าเชื้อ โควิด-19 ให้ฟรี แต่ให้ไปอาบน้ำให้สะอาดก่อนตรวจ

ตามตร.ปิดคดีโจรแสบ

นายวันละชน สิงทอง คนร้าย

ยายทรหลงเชื่อเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำหลังบ้าน โดยได้ถือกระเป๋าไปวางไว้ที่หน้าห้องน้ำด้วย จากนั้นตักน้ำอาบเพียง 3 ขัน ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที พอกลับออกมาพบว่าชายคนดังกล่าวหายตัวไปแล้ว ซ้ำร้ายกระเป๋าที่มีเงินสด 2 หมื่นบาท สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และโทรศัพท์มือถือหายไป พร้อมกับชายคนดังกล่าวด้วย

เจ้าตัวรีบตะโกนให้ลูกหลานที่อยู่ในบ้านและเพื่อนบ้านช่วยกันตามจับแต่ก็ไม่ทัน หลังเกิดเหตุจึงได้ไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านให้ทราบและประกาศเตือนภัย

ตามตร.ปิดคดีโจรแสบ

สอบผู้เสียหาย

พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย พ.ต.ท.ประพนธ์ ภูจอมนิล รองผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.มณี สารขันธ์ สารวัตร(สอบสวน) พร้อมชุดสืบสวน ลงพื้นที่ตรวจสอบจนทราบว่านอกจากยายทรแล้วยังมีผู้เสียหายอีก 2 รายในพื้นที่ ต.หลักเมือง อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกัน โดยที่ทั้งช่วงเวลาก่อเหตุที่ไล่เลี่ยกัน ทั้งลักษณะพฤติกรรมของคนร้ายก็ตรงกันทั้ง 3 คดี

พ.ต.อ.ภูมี เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการสอบถามพบว่าคนร้ายมาคนเดียว ขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้าเวฟสีดำ สะพายกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊ก ซึ่งคนร้ายได้หลอกว่าจะมาตรวจและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด เลือกหลอกเหยื่อผู้สูงอายุ ก่อนจะฉวยจังหวะเผลอขโมยทรัพย์สินหลบหนีไป

ตามตร.ปิดคดีโจรแสบ

เช็กเส้นทางหนี

อย่างไรก็ตามแม้ผู้เสียหายจะยังไม่ได้เข้าแจ้งความ แต่เนื่องจากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน และคนร้ายยังอาศัยก่อเหตุในช่วงสถานการณ์โรคระบาด จึงได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าว และแจ้งเตือนให้ทุกคนอย่าหลงเชื่อกลุ่มมิจฉาชีพ พร้อมแนะนำให้ผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ เพื่อที่จะติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว

กระทั่งวันที่ 9 เม.ย. พล.ต.ต.สมนึก มิควาฬ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ พ.ต.อ.ภูมี อีคะละ ผกก.สภ.กมลาไสย พ.ต.ท.ทรงศักดิ์ เกกาคำ รองผกก.สส. พ.ต.ต.วีระชาติ คำเพราะ สว.สส. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กมลาไสย และชุดสืบสวน สภ.เชียงใหม่ จ.ร้อยเอ็ด นำโดย พ.ต.ท.ภูมรินทร์ ขามชู สว.สส. เข้าควบคุมตัวนายวันละชน สิงทอง อายุ 49 ปี ชาว จ.ร้อยเอ็ด ผู้ต้องหาได้ที่บ้านพัก พร้อมของกลางรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สร้อยคอทองคำ 4 เส้น เงินสด นาฬิกา หมวกกันน็อก ถุงมือ กระเป๋าสะพาย และทรัพย์สินที่ขโมยมาอีกจำนวนหนึ่ง โดยมีผู้เสียหายเข้ามายืนยัน

พล.ต.ต.สมนึก ล่าวว่า ผู้ต้องหามีอาชีพเป็นนายหน้าหาซื้อไม้บ้านเก่า เป็นชาว จ.ร้อยเอ็ด อ้างว่าช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หาซื้อไม้ไม่ได้และไม่มีเงิน โดยวันเกิดเหตุ 7 เม.ย. ช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ได้ขี่รถจยย.ใช้อุบายหลอกนางทร ซึ่งอยู่บ้านคนเดียว เตือนว่าไม่สวมหน้ากากอนามัย และให้ไปสวมหน้ากาก เพราะจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจ ก่อนอาศัยจังหวะดังกล่าวขโมยเงินสดไป 800 บาท

ตามตร.ปิดคดีโจรแสบ

บุกจับคาบ้าน

จากนั้นขี่รถจยย.ไปบ้านนางสมัย มุสิกา อายุ 77 ปี ใน ต.โพนงาม หลอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาตรวจและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโควิด-19 ให้ไปอาบน้ำ แต่คนร้ายไม่ได้ทรัพย์สินไป จึงหันมายังบ้านของ นางทร ซึ่งอยู่ข้างกัน และใช้อุบายหลอกว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาตรวจและฉีดยาฆ่าเชื้อ ให้ไปอาบน้ำ แล้วขโมยทรัพย์สินสร้อยทองหนัก 1 บาท เงินสด 20,000 บาท

หลังเกิดเหตุได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่เร่งติดตามตัวคนร้าย กระทั่งทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นชาว จ.ร้อยเอ็ด จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ อยากฝากเตือนพี่น้องประชาชนให้ระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาศัยช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เข้ามาหลอกลวงในรูปแบบต่างๆ ซึ่งหากพบบุคคลเหล่านี้ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที

สำหรับรายนี้ตำรวจก็ไม่เชื่อว่าจะก่อเหตุมาแค่ 3 คดี หากใครเคยตกเป็นเหยื่อก็ให้รีบเข้าแจ้งความเพื่อเอาผิดเพิ่มเติมต่อไป

ยุทธนา เกียรติดำเนินงาม

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน