คอลัมน์ สดจากสนามข่าว
พิรยุทธ นิ่มนนท์
เรื่อง/ภาพ
“ไซซะนะ แก้วพิมพา” หนุ่มชาวลาววัย 42 ปี ชื่อนี้เป็นที่รู้จักของชาวไทยทั้งประเทศ ในฐานะเจ้าพ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่
เมื่อเขาถูกตำรวจรวบตัวในความผิดฐานร่วมกันสมคบนำเข้า และมีเมตแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ไว้ในครอบครอง ซึ่งถูกคุมขังรอคำตัดสินของศาลไทย
รวมถึงยังเชื่อมโยงไปถึงขบวนการฟอกเงิน ที่ได้จากยาเสพติด ซึ่งมีชื่อคนดังชาวไทยเข้าไปพัวพันจำนวนมาก
หลังจากที่เขาถูกจับตัว ตำรวจยังจับกุมเครือข่ายของเจ้าพ่อยา เสพติดรายนี้ได้อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 24 ก.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3 บช.ปส. นำกำลังตำรวจในสังกัด สนธิกำลังร่วม พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. (191) นำกำลังจับกุมนายธีระพงษ์ สวนแย้ม อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาค้ายาเสพติดรายใหญ่
พร้อมของกลางเป็นยาบ้า ยาเค ยาไอซ์ และเฮโรอีน ล็อตมหึมา คาบ้านพักที่หมู่บ้านหรูในซ.รามคำแหง 174 แขวงและเขตมีนบุรี กรุงเทพฯ
พล.ต.ต.วุฒิพงศ์ เพ็ชรกำเหนิด ผบก.ปส.3 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ในช่วงเวลาดังกล่าว นายธีระพงษ์เตรียมนำยาเสพติดไปส่งให้เอเยนต์ตามที่นัดหมายไว้ จึงนำกำลังไปซุ่มโป่งเฝ้าจับตาดูอยู่ที่หน้าหมู่บ้านดังกล่าวอยู่หลายชั่วโมง
นั่งตบยุงรออยู่กระทั่งพบรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีดำ ทะเบียน ฆษ 5253 กรุงเทพมหานคร ที่นายธีระพงษ์ขับออกจากหมู่บ้าน ตรงตามที่สายลับได้รายงาน เจ้าหน้าที่จึงติดตามไปไม่ให้คลาดสายตา แต่ปรากฏว่ารถต้องสงสัยขับออกจากหมู่บ้านได้ไม่นานก็วกกลับเข้ามาที่หมู่บ้านอีกครั้ง
ชุดจับกุมไม่แน่ใจว่าผู้ต้องสงสัยจะรู้ตัวว่ากำลังถูกติดตามหรือไม่ จึงตัดสินใจดักสกัดรถพร้อมแสดงตัวขอตรวจค้น
โดนจู่โจมอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำเอานายธีระพงษ์ถึงกับหน้าซีดเผือดแต่ก็ยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี
ตำรวจพบยาบ้าจำนวนมากถึง 4.2 ล้านเม็ด ยาเคตามีน 40 กิโลกรัม ยาไอซ์ 26 กิโลกรัม บรรจุในกล่องพลาสติกขนาดใหญ่ที่วางไว้ท้ายรถ
จากนั้นควบคุมตัวผู้ต้องหาไปตรวจค้นภายในบ้านพัก พบยาอีจำนวนหนึ่ง ยาเคตามีนสูตรน้ำ 5,000 ขวด เฮโรอีน 12 แท่ง รวมมูลค่าของกลางหลายร้อยล้านบาท พร้อมยึดรถยนต์มินิคูเปอร์ สีแดง ทะเบียน 4 กผ 184 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ที่คาดว่าได้จากเงินค้ายาเสพติดไว้ตรวจสอบด้วย
สอบสวนนายธีระพงษ์ให้การอ้างว่า เช่าบ้านหลังดังกล่าวมา 9 เดือน ในราคา 25,000 บาท มีหน้าที่ในการรับยาและพักยาเสพติดไว้ในบ้าน โดยทำมาแล้ว 5 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 200,000-250,000 บาท ก่อนถูกจับกุมกำลังลำเลียงยาเสพติดไปส่งให้เอเยนต์ที่ย่านชานเมือง
ด้าน พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. เผยว่า ปฏิบัติการในการจับกุมในครั้งนี้เป็นการขยายการจับกุมต่อเนื่องของเครือข่ายยาเสพติดของนายไซซะนะ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ชาวลาวที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้า
เจ้าหน้าที่ได้ข้อมูลมาว่าของกลางทั้งหมดถูกลำเลียงมาจากทาง ภาคเหนือ ตามตะเข็บชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน โดยยาเสพติด ล็อตนี้ทั้งหมดถูกซุกซ่อนในบรรจุภัณฑ์อย่างดี มีวัสดุซีลกันน้ำและกันกลิ่นเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่ของ บช.ปส.จึงได้ขอความร่วมมือมายังตำรวจ 191 เนื่องจากมีข้อมูลของผู้ค้ารายใหญ่ในย่านกรุงเทพฯ และปริมณฑล
หลังเฝ้าจับตาและติดตามพฤติกรรมของนายธีระพงษ์มานานจนแน่ชัด จึงนำกำลังไปซุ่มจับกุมตัว
ขณะที่จากการสอบสวนนายธีระพงษ์ ยอมรับแต่โดยดีว่าก่อนถูกจับกุม ขับรถออกจากหมู่บ้านจะนำยาเสพติดวางตามจุดต่างๆ ที่นัดหมายกับเอเยนต์ที่ติดต่อไว้ แต่เกิดมีฝนตกลงมาจึงเปลี่ยนใจขับรถกลับเข้าหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงต้องแสดงตัวเข้าจับกุมพร้อมของกลางทั้งหมด เมื่อตรวจค้นภายในบ้านพักก็พบยาเสพติดเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งข้อกล่าวหา มียาเสพติดให้โทษไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี และสอบปากคำอย่างละเอียดขยายผลการจับกุมครั้งนี้ต่อไป
แม้เครือข่ายของเจ้าพ่อยาเสพติดรายนี้จะมีขอบเขตกว้างขวาง มีสมาชิกที่ร่วมทำผิดมากมาย และใช้วิธีในการขนส่งซับซ้อน เพียงใด ก็ไม่อาจหนีพ้นฝีมือตำรวจไทยที่จะตามล้างตามเช็ด จนกว่าขบวนการอุบาทว์เหล่านี้จะหมดไป
