สดจากสนามข่าว

ย้อนนาทีดวลปืนจับตาย

หัวโจกปล้นทองบึงกาฬ

หนีไปสิ้นชื่อที่ขอนแก่น

สดจากสนามข่าว – ย้อนนาทีดวลปืนจับตาย หัวโจกปล้นทองบึงกาฬ หนีไปสิ้นชื่อที่ขอนแก่น – ราคาทองคำที่พุ่งทะยานเข้าใกล้บาทละ 3 หมื่นเข้าไปทุกที ทำให้สายตาของเหล่ามิจฉาชีพพากันจับจ้องร้านขายทองกันตาเป็นมัน โดยเฉพาะร้านขายทองที่อยู่ภายในห้างสรรพสินค้า ที่แม้จะมีการป้องกันดีอย่างไร ก็มักจะมีช่องโหว่ให้คนร้ายฉวยโอกาสลงมือก่อเหตุได้เสมอ

 

เช่นคดีที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 31 ก.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมือง จ.บึงกาฬ ได้รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีเหตุชิงทองภายในห้างเทสโก้โลตัส บึงกาฬ ตั้งอยู่บนถนนหลวงสาย 212 บึงกาฬ-นครพนม ใกล้บริเวณสี่แยกไฟแดงบึงกาฬ ต.บึงกาฬ อ.เมือง จ.บึงกาฬ

นาทีลงมือปล้น

 

หลังรับแจ้ง พล.ต.ต.พลัฏฐ์ วิเศษสิงห์ ผบก.ภ.จว.บึงกาฬ นำกำลังพร้อมด้วย พ.ต.อ.สุกฤษณ์ ข้อร่วมคิด ผกก.สส.ภ.จว.บึงกาฬ พ.ต.อ.ชนินทร์ จิตรแจ้ง ผกก.สภ.เมืองบึงกาฬ นายธีระพล ขุนพานเพลิง นายอำเภอเมืองบึงกาฬ พ.อ.ยรรยง แสงฮาด รอง.ผอ.รมน. พ.ต.ท.จรูญศักดิ์ ลำพุทธา รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.อดุลย์ ฉิมทับ รอง ผกก.ป. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบ

 

ร้านที่เกิดเหตุชื่อ ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ พบพนักงานขายสาวจำนวน 5 คน อยู่ในสภาพอาการตัวสั่นตกใจ 1 ใน 5 พนักงานขายสาวเล่าให้เจ้าหน้าที่ฟังว่า เมื่อเวลาประมาณ 19.30 น. มีชายรูปร่างผอม สูงประมาณ 175 เซนติเมตร สวมใส่เสื้อยึดแขนยาวคอกลม สีเทา กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว ใส่หมวกแก๊ปสีเหลือง สะพายกระเป๋าสีดำน้ำตาลเข้ม มีแมสก์สีดำปิดจมูก ยืนสังเกตการณ์คล้ายๆ รอจังหวะปลอดคนเดินพลุกพล่านอยู่ที่มุมห้องทางเดิน เข้า-ออก ซึ่งเป็นช่วงใกล้เวลาห้างจะปิด

พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. สอบเมียคนร้าย

 

ก่อนจะลงมือชิงทอง คนร้ายทำทีเดินคุยโทรศัพท์ไปมาผ่านหน้าร้านหลายครั้ง จากนั้นเมื่อสบโอกาสก็เดินดุ่มๆ เข้ามาในร้านก่อนชักปืนออกมาจากกระเป๋าส่ายไปมาขู่ให้ทุกคนหมอบลง จากนั้นปีนข้ามตู้โชว์ทองเข้ามากวาดเอาทองรูปพรรณที่โชว์ในตู้ใส่กระเป๋าสะพาย เป็นสร้อยข้อมือและสร้อยคอ น้ำหนักรวม 90 บาท มูลค่าราว 2,700,000 บาท

 

ตํารวจไล่เช็กวงจรปิดพบว่าคนร้ายหลบหนีด้วยรถจยย.ฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยเลี้ยวซ้ายเข้าไปตามถนนสาย 222 บึงกาฬ-พังโคน ด้วยความรีบเร่งจึงพลาดทำหมวกแก๊ปสีเหลืองหล่นหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านมาสเตอร์ จึงแจ้งวิทยุสกัดจับ

ที่เกิดเหตุดวลปืน

 

หลังเกิดเหตุเพียง 4 ช.ม. ตร.สภ.พรเจริญก็จับกุมตัวคนร้ายได้ขณะตั้งด่านสกัดจับตามแผน สอบสวนทราบชื่อคือ นายเฉลิมพงศ์ เพชรตะกั่ว หรือ เสือ เจ้าตัวรับแต่โดยดีว่าเป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนจี้ชิงทองจริง แต่ทองทั้งหมดอยู่กับเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นผู้ร่วมก่อเหตุด้วย โดยเป็นผู้มาดูลาดเลาและดูต้นทาง พอก่อเหตุเสร็จตนได้รับเงินค่าจ้างมา 1,500 บาท โดยบอกว่าจะเอาทองไปขายที่จ.ปทุมธานี แล้วจะโอนเงินมาให้ทีหลัง

 

จากนั้นนายเฉลิมพงศ์พาเจ้าหน้าที่ไปตรวจยึดเสื้อผ้าชุดจี้ชิงทองที่ถูกถอดทิ้งบริเวณทางเข้าหมู่บ้านหนองนาแซง ห่างจากห้างมาราว 5 ก.ม. ซึ่งได้มาครบทั้งรองเท้าผ้าใบสีขาว หน้ากากสีดำ เสื้อยืดแขนยาวสีเทาและกางเกงวอร์มสีดำ ส่วนอาวุธปืนเจ้าตัวบอกว่าเป็นปืนเด็กเล่นก่อเหตุเสร็จก็โยนทิ้งไป แล้วจึงขี่รถหนีจะไปหาแฟนที่จ.สกลนคร แต่มาถูกด่านตรวจ สภ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ จับกุมได้ดังกล่าว

 

กู้ชีพยื้อชีวิต

ชุดสืบสวนติดตามเบาะแสที่มีจนทราบว่าหัวโจกที่วางแผนก่อเหตุและนำทองทั้งหมดไปคือนายรังสรรค์ วิเศษดินทอง อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 38 หมู่ 8 ต.บัวใหญ่ อ.บัวใหญ่ จ.นครราชสีมา

จากการแกะรอยนายรังสรรค์พบว่าหลบหนีมากบดานอยู่ใน จ.ขอนแก่น จึงติดตามและพบว่าเช่าห้องพักอยู่ภายในหอพัก แห่งหนึ่งในเขตเทศบาลนครขอนแก่น โดยใช้บัตรประชาชนของคนอื่นในการใช้เช่าห้อง จนพบตัวขณะขี่รถจยย.อยู่บริเวณซอยศรีมารัฐ 16 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงสะกดรอยติดตามมาจนถึงบริเวณข้างร.พ.กรุงเทพ ขอนแก่น

 

ตำรวจตัดสินใจเข้าประกบพร้อมแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายรังสรรค์กลับชักปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อหวังหลบหนีจนเกิดการดวลปืนกันเสียดังสนั่นเกือบ 10 นัด หลังสิ้นเสียงปืน นายรังสรรค์ถูกกระสุนปืนของตำรวจเข้าบริเวณศีรษะทรุดลงกับพื้น ตำรวจรีบเข้าช่วยเหลือนำตัวส่งโรงพยาบาลขอนแก่น ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยอาการปลอดภัย

ทองของกลาง

 

โดยในที่เกิดเหตุพบของกลางเป็นทองรูปพรรณจำนวนมากอยู่ในกระเป๋าคาดเอวสีดำตกอยู่ใกล้ผู้ต้องหา พร้อมอาวุธปืน 1 กระบอก

 

หลังเกิดเหตุพล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภาค 4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.พุฒิพงศ์ มุสิกุล ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น ร่วมตรวจสอบหลักฐานที่พบ พร้อมสอบปาก คำ น.ส.ศศิธร อุดมลาภ อายุ 25 ปี ชาว ต.ค้อใต้ อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร ภรรยาของนายรังสรรค์ซึ่งเป็นผู้ต้องหาอีกรายที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย จากนั้นจึงส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สภ.เมืองบึงกาฬต่อไป

วางแผนมาดีแค่ไหนสุดท้ายก็ไม่รอดพ้นฝีมือตำรวจไปได้

ธิดารัตน์ เศรษฐแสงศรี

สุพล บุญชื่นชม

จักรพันธ์ นาทันริ

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน