คอลัมน์ สดจากสนามข่าว : อุทาหรณ์หมีตะปบหนุ่ม โดนฟัดสาหัสเย็บพันเข็ม เตือนแกล้งตาย-ไม่ได้ผล

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

อารีย์ สีแก้ว เรื่อง/ภาพ

สัตว์ป่าอาศัยสัญชาตญาณในการล่า เพื่อดำรงชีวิต แม้นจะถูกนำมาเลี้ยงดู โดยคน แต่สัตว์ป่าก็คือสัตว์ป่าวันยังค่ำ สัญชาตญาณป่าที่ถูกฝังแน่นอยู่ในดีเอ็นเอ มันไม่ได้หายไปไหนแค่รอการกระตุ้นที่ถูกที่ถูกเวลาเท่านั้น ตามสวนสัตว์ต่างๆ จึงมีกฎข้อห้ามเคร่งครัดไม่ให้แหย่สัตว์เล่น

เช่นกรณีของ นายฝน พรหมลัทธิ อายุ 38 ปี ที่ถูก “เจ้าแก้ว” หมีควาย ซึ่งถูกเลี้ยงไว้ที่สำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย ม.8 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ทำร้ายร่างกายจนบาดเจ็บสาหัสต้องเย็บร่วมพันเข็ม นับเป็นอุทาหรณ์อย่างดี

เหตุสยองเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.10 น. วันที่ 2 ส.ค. นางวันดี อยู่ขันธ์สวัสดิ์ ผู้ดูแลหมีและหมูป่าภายในสำนักสงฆ์สวนสมุนไพรหลวงปู่ละมัย ม.8 ต.บ้านโตก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายดังอยู่บริเวณคอกของ “เจ้าแก้ว” หมีควายอายุประมาณ 6 ปี ซึ่งญาติโยมนำมาถวายหลวงปู่ละมัยเมื่อตอนที่ตัวยังเล็กๆ และ ถูกเลี้ยงรวมกับหมูป่าอีกร่วม 600 ตัว

นางวันดีรีบวิ่งไปตรวจสอบ ก่อนต้องพบภาพชวนสะพรึง เมื่อ “เจ้าแก้ว” กำลังฟัดร่างที่หมดสติของนายฝน ทั้งตะปบด้วยกรงเล็บแหลมคมและกัดตามตัวจนเป็นแผลฉกรรจ์เต็มตัว ก่อนมันจะลากร่างของนายฝนเข้าไปในกรง

ด้วยความที่เป็นคนเลี้ยงดูให้อาหารมากับมือ นางวันดีรีบเข้าไปในกรง พร้อมใช้ไม้ตีและสั่งให้เจ้าแก้วปล่อยนายฝน

โชคดีที่ “เจ้าแก้ว”มันยอมเชื่อฟัง นายฝนจึงถูกช่วยเหลือออกมา ในสภาพบาดแผลเต็มตัว ร่างชุ่มโชคไปด้วยเลือด ก่อนจะ ถูกนำส่งโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ โดยแพทย์ต้องเย็บบาดแผลร่วม พันเข็ม

ขณะที่เพื่อนๆ นายฝนเล่าว่า รวมตัวกันมาที่วัดเพื่อติดต่อรับหมูป่าไปเลี้ยง ตามที่วัดประกาศขอความช่วยเหลือ ขณะที่รออยู่ นายฝนยืนอยู่บนกำแพงคอกหมูป่าสูงประมาณ 1.5 เมตร ได้ยื่นมือไปหยอกล้อกับหมีควาย กระทั่งถูกกัดที่ข้อมือและลากลงไปภายในคอกท่ามกลางความตื่นตะลึง

เพื่อนๆ พยายามจะให้ความช่วยเหลือ แต่เจ้าแก้วไม่ยอมปล่อย ซ้ำยังลากนายฝนเข้าไปในกรง กอดฟัดและกัดนายฝนจนหมดแรงต่อสู้กระทั่งคนเลี้ยงเข้ามาช่วย

ขณะที่ นพ.กอบชัย จิระชาญชัย รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เปิดเผยอาการของนายฝนว่า แรกที่รับมาผู้บาดเจ็บไม่รู้สึกตัว สัญญาณชีพอ่อนมาก มีบาดแผลขนาดใหญ่ บริเวณสีข้างด้านซ้ายข้างหลังเป็นแผลลึกเหวอะหวะ และที่บริเวณลำตัวมีทั้งรอยเล็บ รอยฟันจมเขี้ยว ทุกบาดแผลเป็นแผลลึก ผู้ป่วยเสียเลือดมาก

นอกจากนั้นยังพบว่ามีเลือดออกและมีลมรั่วในช่องปอดทั้งสองข้าง คาดว่าน่าจะเกิดจากกรงเล็บของหมีที่จิกทะลุลงไปในผนังทรวงอกจนถึงปอด แพทย์ได้ช่วยเหลือโดยการใส่ท่อระบายทรวงอก เอาลมและเลือดที่คั่งอยู่ในช่องปอดออกมา เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้ผู้ป่วยมีอาการหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตได้

หลังจากนั้นก็ได้ใช้เครื่องช่วยหายใจ ตอนนี้นอนรักษาตัวอยู่ห้องไอซียูศัลยกรรม อาการโดยทั่วไปยังไม่พ้นขีดอันตราย ยังอยู่ในเกณฑ์วิกฤต ถึงแม้ว่าผู้ป่วยจะสามารถพูดคุยกับญาติแล้วก็ตาม คนไข้ เสียเลือดมากก่อนที่จะมาถึงโรงพยาบาลทำให้มีภาวะไตวายเฉียบพลัน และในวันนี้คนไข้เริ่มมีปัสสาวะออกน้อย ซึ่งต้องคอยดูแลอย่าง ใกล้ชิด

หลังเกิดเหตุ นายไกรสร กองฉลาด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ติดต่อไปยังเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาค้อ มารับตัว “เจ้าแก้ว” ไปดูแลที่สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ

ขณะที่ นายสุธีร์ ลอยมา หน.สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าเขาค้อ กล่าวว่า สัตวแพทย์ตรวจสุขภาพหมีควายตัวดังกล่าว พบมีอายุ 6-7 ปี เป็นหมีที่โตเต็มวัยแล้ว มีสุขภาพแข็งแรงดี แต่มีน้ำหนัก เกินมานิดหน่อย และยังอยู่ในภาวะที่เครียดอยู่ ซึ่งจะดูแลจนกว่า จะไม่มีอาการเครียดและหายเป็นปกติ

“ขั้นแรกต้องเปลี่ยนพฤติกรรม โดยมีเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งดูจากลักษณะนิสัยแล้วไม่ได้มีนิสัยดุร้ายมากนัก จึงไม่เป็นปัญหาในการดูแล จากนั้นอาจต้องเสนอไปยังผู้บริหารระดับสูงในการย้ายไปยังสถานีเพาะเลี้ยงแห่งอื่น ซึ่งมีความเหมาะสมกว่า” นายสุธีร์กล่าว

น.สพ.ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์ประจำกรมอุทยาน แห่งชาติฯ กล่าวว่า หมีตัวดังกล่าวคิดว่าตัวเองเป็นสัตว์เลี้ยง แต่สัญชาตญาณยังเป็นสัตว์ป่า ประกอบกับความเครียดที่เกิดขึ้นจากปัจจัยกระตุ้นรอบตัว เช่น เสียงตะโกนของคนที่อยู่ปากบ่อ หรือการที่ต้องอยู่รวมกับหมูป่า กรณีที่เกิดขึ้นมั่นใจว่าหมีไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าหรือทำร้าย หากต้องการฆ่ามันจะกัดเนื้อแบบกระชาก และใช้มือตะปบอย่างรุนแรง กรณีนี้แค่การขบและสะกิดดูเพื่อให้หายสงสัยเท่านั้น

ธรรมชาติหมีเป็นสัตว์ที่สายตาไม่ดี แต่มีจมูก ซึ่งดีกว่าจมูกสุนัขถึง 5 เท่า โดยหมีจะใช้จมูกดม ปากงับ ขบ และใช้มือตะปบ เป็นพฤติกรรมตามสัญชาตญาณ แต่เนื่องจากเป็นสัตว์ใหญ่ แรงเยอะ การขบ หรือการสะกิดเบาๆ สามารถสร้างรอยแผลใหญ่ๆ ได้

ส่วนกลอุบายที่ว่าหากเจอหมีจะเข้ามาทำร้ายให้แกล้งตาย ในประเทศหนาวความหนาวอาจจะทำให้จมูกหมีมีอาการชา หากเจอหมีแล้วนอนนิ่งไม่กระดุกกระดิกอาจจะได้ผล

“แต่ประเทศไทยเป็นประเทศในเขตร้อน วิธีการนี้ใช้ไม่ได้ผล หมีมันจะได้กลิ่นเหงื่อกลิ่นตัว จะถูกขบกัดกระชากมีสิทธิ์ตายได้ทุกราย วิธีการที่ดีที่สุดคือ ตั้งสติ พยายามวิ่งหนีให้เร็วที่สุด หาอะไรมากั้นให้พ้นจากกรงเล็บ หรือพยายามตอบโต้ เอาไม้ตีไปที่บริเวณจมูก เพราะเป็นจุดศูนย์รวมของปลายประสาท” น.สพ.ภัทรพลกล่าว

หลังเกิดเหตุเหล่าคนรักสัตว์แสดงความเป็นห่วงว่าเจ้าแก้ว ถูกเลี้ยงอยู่กับคนมาทั้งชีวิตการเอาไปขังกรง จะทำให้มันมีอาการซึมและไม่มีความสุข จึงอยากให้นำกลับมาเลี้ยงที่เดิม

ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ยืนยันว่า “เจ้าแก้ว” จะได้รับการดูแลอย่างดี และถูกต้องตามหลักวิชาการแน่นอน