สดจากสนามข่าว
ย้อนคดีล่าจับแก๊งแสบ
ตระเวนจำนำทองปลอม
ห้างทองผวา-สูญ9ล้าน
สดจากสนามข่าว -ย้อนคดีล่าจับแก๊งแสบ ตระเวนจำนำทองปลอม ห้างทองผวา-สูญ9ล้าน ผลพวงจากโรคโควิด-19 ระบาด กระทบเศรษฐกิจทั่วโลก ผู้คนต่างหันมาถือครองสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ทำให้ราคาทองคำพุ่งทะยานเป็นประวัติการณ์ถึงบาทละ 3 หมื่น ร้านทองแทบทุกร้านจึงแน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่นำทองคำที่สะสมเอาไว้มาขายหรือบ้างก็นำมาจำนำ
กลายเป็นช่องทางให้แก๊งมิจฉาชีพถือโอกาสนำทองคำปลอมมาก่อเหตุหลอกลวงจนผู้เสียหายต้องสูญเงินร่วม 9 ล้านบาท
เรื่องราวข้างต้นถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 16 ส.ค. ที่สภ.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี นายกฤษ เทียนใหม่ และนางอนัดดา เทียนใหม่ สองสามีภรรยาเจ้าของห้างทองนิตเทียน นำทองคำปลอมกว่า 376 บาท พร้อมภาพจากกล้องวงจรปิด เข้าแจ้งความว่า ช่วงที่ทองคำราคาขึ้น มีกลุ่มมิจฉาชีพนำทองปลอมชุบเงินแบบหนาสลับเปลี่ยนกันมาจำนำที่ร้านเป็นเวลารวม 1 เดือนกว่า ทำเสียหายรวมกว่า 9 ล้านบาท
นางอนัดดา เจ้าของห้างทองให้การว่า มีลูกค้าเอาทองเข้ามาจำนำที่ร้านซึ่งเป็นทองที่ชุบไส้เงิน แต่ส่วนตะขอสร้อยทองเป็นทองจริงเข้ามาจำนำในร้าน ซึ่งทำเป็นขบวนการต่อเนื่องเป็นระยะเวลากว่า 5 สัปดาห์ โดยมี ผู้ร่วมขบวนการนับสิบคนสลับสับเปลี่ยนกัน
พฤติกรรมของมิจฉาชีพกลุ่มนี้จะเข้ามาชวนคุยและบอกว่าทำงานรับเหมาก่อสร้างต้องเอาเงินไปจ่ายค่าแรงคนงานก่อน โดยแก๊งคนร้ายเลือกวิธีการจำนำทองแทนการขายขาด เนื่องจากปกติการจำนำทองทางร้านไม่สามารถจะกรีดทองลูกค้าเพื่อดูเนื้อข้างในได้
นางอนัดดากล่าวต่อว่า ตอนแรกที่เข้ามาจำนำทองจะเป็นลุงแก่ๆ เดินเข้ามาจำนำโดยนำทองเส้นละ 4 บาท บาทละ 24,000 บาท พอจำนำได้ ก็จะมีอีกคนเดินเข้ามาจำนำต่อๆ กัน ซึ่งมีทั้งคนไทยและคนลาว แต่แกล้งทำเป็นเหมือนไม่รู้จักกัน ซึ่งทุกคนจะมียอดจำนวน 72,000 บาท 96,000 บาท 120,000 บาท จะเป็นยอดเดิมๆ ลายเดิมๆ น้ำหนักทองเท่าเดิม แบบนี้ตลอด
ตนมารู้ตัวอีกทีในวันที่ 14 ส.ค. เมื่อนำทองออกมาตรวจสอบ เลยสังเกตเห็นว่าทองเป็นลายเดิม น้ำหนักเดิม และยังเป็นกลุ่มลูกค้าหน้าเดิมๆ วนเวียนนำทองมาจำนำ ตอนหลังเริ่มสงสัย จึงนำทองออกมากรีดจำนวน 1 เส้น ซึ่งตนคิดว่าถ้าเป็นทองจริง ก็จะยอมจ่ายเงินชดใช้ให้กับลูกค้า แต่พอกรีดออกมากลายเป็นทองปลอมทั้งหมด เชื่อว่าลูกค้ากลุ่มนี้ทำเป็น กระบวนการอย่างแน่นอน จึงอยากวอนให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว ก่อนที่มิจฉาชีพกลุ่มนี้จะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับร้านทองร้านอื่นๆ
หลังรับแจ้งความ พ.ต.อ.ชิตเดชา สองห้อง ผกก.สภ.หนองปรือ ส่งชุดสืบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวคนร้าย รวมทั้งประสานข้อมูลกับโรงพักใกล้เคียง จนทราบว่ามีร้านทองหลายแห่งตกเป็นเหยื่อเหมือนกัน กระทั่งเมื่อวันที่ 17 ส.ค. ชุดสืบสวน สภ.หนองปรือ ร่วมกันจับกุมนายสัน อุลธานน สัญชาติลาว อายุ 43 ปี เบื้องต้นในข้อหา พร้อมตรวจยึดสร้อยคอโลหะสีเหลือง (ทองคำปลอม) หนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น
นายสัน นำทองปลอมน้ำหนัก 2 บาท มาจำนำที่ห้างทองนิตเทียน เมื่อวันที่ 15 ส.ค. ก่อนที่วันนี้จะย้อนกลับมาจำนำอีกครั้ง ทำให้เจ้าของร้านจำได้จึงแจ้งตำรวจ เมื่อได้รับแจ้งจึงร่วมกันไปตรวจสอบ พบชายคนดังกล่าวพร้อมสร้อยคอทองคำปลอม 1 เส้น สอบถามรับว่าได้นำสร้อยปลอมมาจำนำที่ร้านดังกล่าวแล้ว 3 ครั้ง โดยมีพวกร่วมขบวนการ 3-4 คน ขับรถยนต์มาจาก กทม. จากนั้นได้จอดรถริมถนนให้ตนเองนำสร้อยมาจำนำแต่ครั้งนี้ถูกทางร้านจับได้ และรับว่าเป็นคนสัญชาติลาว หลบหนีเข้าเมืองมาโดยผิดกฎหมายจึงแจ้งข้อกล่าวหา และตรวจยึดสร้อยคอทองคำปลอม ส่งพนักงานสอบสวน
สภ.หนองปรือพ.ต.อ.ชิตเดชา เผยหลังสอบปากคำนายสันว่า เบื้องต้นจากการสอบสวนสามารถระบุได้ 2 คน แต่ต้องรอตรวจสอบชื่อและสอบปากคำเพิ่มเติมของผู้เสียหายก่อน โดยให้ผู้เสียหายยืนยันรูปภาพหลังจากนั้นก็จะขออนุมัติหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจะต้องตรวจสอบจากพยานหลักฐานต่างๆ อาทิ รายชื่อในตั๋วจำนำ เลขบัตรประชาชน เพื่อตรวจสอบกับทะเบียนราษฎร และมาให้ผู้เสียหายยืนยันชี้ตัว ก่อนจะออกหมายเรียกมาสอบปากคำ
ส่วนด้านกรณีผู้เสียหายเพิ่มเติมในพื้นที่ใกล้เคียง สภ.บางละมุง นั้น ทางชุดสืบสวนจะประสานข้อมูลกัน หากพบว่านายสัน อุลธานน ผู้ต้องหาที่จับกุมได้นั้น มีส่วนร่วมก่อเหตุกระทำความผิด จะอายัfตัวไว้ เพื่อให้ผู้เสียหายได้ยืนยันชี้ตัวต่อไป
จากการสอบปากคำ นายสัน อุลธานน สัญชาติลาว ผู้ต้องหาที่จับได้รายแรก ทำให้ทราบถึงเบาะแสของผู้ร่วมขบวนการได้อีก 1 ราย ซึ่งเป็นภรรยาชาวไทย ของนายสัน อย่างไรก็ตาม จะต้องสอบปากคำเจ้าของร้านทองนิตเทียน ผู้เสียหายและตรวจสอบภาพวงจรปิด เพื่อให้ยืนยันชี้ตัวผู้ต้องสงสัยรายนี้ ก่อนที่จะดำเนินการออกหมายเรียกตามกระบวนการกฎหมาย
อุดมเกียรติ ทิพย์ศรีกุล
เรื่อง/ภาพ