คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าคดีจับโจรหนุ่มจี้เซเว่น

ใจดีคิดเงินค่าของให้ลูกค้า

ที่แท้อดีตพนง.ต่างสาขา

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว – ผ่าคดีจับโจรหนุ่มจี้เซเว่นเพราะอะไรที่เพียงแค่เห็นภาพจากกล้องวงจรปิด ตำรวจก็ฟันธงได้ทันทีว่าคนร้ายที่ก่อเหตุจี้ร้านเซเว่นฯ ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 8 ต้องเป็นอดีตพนักงานอย่างแน่นอน

ย้อนไปเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 1 ก.ย. พ.ต.ท.สามารถ ภาษร สวป.สน.บางกอกใหญ่ รับแจ้งเหตุคนร้ายปล้นเซเว่นฯ ปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 8 แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวนสน.บางกอกใหญ่

ร้านเซเว่นที่เกิดเหตุ

 

ที่เกิดเหตุ พบพนักงานยังอยู่ในอาการ ตื่นตระหนก สอบสวนให้การว่าก่อนเกิดเหตุมีคนร้ายเป็นชายอายุประมาณ 25 ปี สูงราว 180 ซ.ม. สวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีแดงเลือดหมู กางเกงยีนส์ ใส่หมวกโม่งคลุมปิดบังใบหน้า ใช้อาวุธมีดเข้ามาจี้ชิงทรัพย์ กวาดเงินสดไปประมาณ 14,000 บาท บุหรี่ 1 ซอง ไฟแช็กอีก 1 อัน ก่อนหลบหนี

ตร.สอบพยาน

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบคนร้ายเดินเข้ามาทำทีเป็นลูกค้า หลังเดิน ดูภายในร้านไม่พบมีลูกค้าอยู่จึงชักอาวุธมีดเป็นมีดปลายแหลมยาวประมาณ 1 ฟุต ออกมาจี้บังคับพนักงานที่เคาน์เตอร์ จังหวะพนักงานเห็นคนร้ายถืออาวุธมีดเข้ามาก็ตกใจพากันวิ่งหลบหนีไปหลังร้าน ระหว่างนั้นคนร้ายจึงเข้าไปกดเงินจากลิ้นชักเก็บเงินอย่างใจเย็น

วงจรปิดหน้าร้าน

ซึ่งช่วงนั้นมีลูกค้าเข้ามาซื้อกาแฟพอดี และนำเงินไปชำระให้คนร้ายที่ยืนอยู่บริเวณเคาน์เตอร์ คนร้ายก็ยังคิดเงินให้กับลูกค้า ก่อนเดินออกไปเรียกรถแท็กซี่หลบหนีไป โดยในภาพวงจรปิดเห็นชัดว่าคนร้ายมีความชำนาญในการใช้เครื่องเก็บเงิน

ใช้เครื่องคิดเงินคล่อง

ด้วยท่าทางและความชำนาญในการเปิดลิ้นชักเครื่องเก็บเงินที่คล่องแคล่ว ซ้ำยังรู้ช่องลับที่พนักงานใช้เก็บเงิน ตำรวจฟันธงได้ทันทีว่าคนร้ายน่าจะเคยเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อมาก่อนแน่นอน

แล้วก็เป็นจริงตามคาด โดยเมื่อวันที่ 2 ส.ค. พ.ต.อ.ศุภชัชช์ เปี่ยมมนัส รองผบก.น.7 พร้อมด้วย พ.ต.อ.อภิวัชร์ ไชยศรีสุทธิ์ ผกก.สน.บางกอกใหญ่ และฝ่ายสืบสวนสน.บางกอกใหญ่ ร่วมกันแถลงข่าวผลงานจับกุมนายจักรรินทร์ หรืออั๋น อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ ปล้นเซเว่นฯ

ตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน ที่ จ.252/2563 ลงวันที่ 1 ก.ย.2563 ข้อหา “ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธ และพกพาอาวุธมีดไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” พร้อมของกลางเสื้อผ้า 1 ชุด บุหรี่ 1 ซอง และรองเท้า 1 คู่ โดยจับกุมตัวได้ที่ห้องเช่าไม่มีชื่อ ซ.จรัญสนิทวงศ์ 25 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม.

พ.ต.อ.ศุภชัชช์ เผยเบื้องหลังการจับกุมว่า การจับกุมผู้ต้องหาในครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 01.05 น. วันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา มีคนร้ายใช้อาวุธมีดทำครัว ยาวราวๆ 1 ฟุต เข้าไปก่อเหตุจี้ชิงทรัพย์พนักงานร้าน 7-11 ย่านจรัญสนิทวงศ์ ได้เงินสดไป 14,734 บาท บุหรี่ 1 ซอง และไฟแช็ก 1 อัน โดยหลังก่อเหตุคนร้ายได้ออกจากร้านขึ้นรถแท็กซี่หลบหนีไปทางสามแยกไฟฉาย

คิดเงินให้ลูกค้า

 

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดร้านที่เกิดเหตุพบว่าคนร้ายมีรูปพรรณที่เป็นลักษณะเด่นเรื่องความสูงซึ่งมีส่วนสูงเกิน 180 เซนติเมตร อีกทั้งมีพฤติกรรมต้องสงสัยว่าจะมีความรู้เรื่องงานแคชเชียร์ เพราะสามารถหยิบสินค้าขึ้นมาสแกนบาร์โค้ดเพื่อเปิดลิ้นชักเก็บเงินของทางร้านได้

ทางชุดจับกุมจึงประสานขอข้อมูลพนักงานเก่าๆ จากทางบริษัท ปรากฏว่าที่สาขาดังกล่าวไม่พบว่ามีอดีตพนักงานที่ลักษณะตรงกับคนร้าย แต่มีนายจักรรินทร์ อดีตพนักงานของสาขาใกล้เคียงที่มีรูปพรรณสัดส่วนความสูงตรงกัน ที่สำคัญถูกไล่ออกเพราะมีปัญหาชอบยักยอกเงินของบริษัท จนเป็นที่มาของการขออนุมัติหมายจับ

 

จากการสอบสวนนายจักรรินทร์ สารภาพว่าเคยทำงานเป็นพนักงานร้านสาขาถนนอิสรภาพ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสาขาที่ลงมือก่อเหตุ แต่ถูกไล่ออกจากงานเพราะนำเงินในลิ้นชักของทางร้านไปใช้ กระทั่งช่วงโควิด -19 ที่ผ่านมาขัดสน ไม่มีเงินใช้จ่ายประกอบกับค้างค่าเช่าห้องมานานหลายเดือน จึงเลือกก่อเหตุชิงทรัพย์สาขาจรัญสนิทวงศ์เพราะรู้ว่าที่สาขานี้จะค่อนข้างปลอดลูกค้าในตอนกลางคืน

หลังลงมือเสร็จก็วิ่งข้ามสะพานลอยไปขึ้นแท็กซี่เพื่อหลบหนีกลับเข้าห้องพักในซอยจรัญสนิทวงศ์ 25 และทำอาวุธมีดของกลางตกอยู่ในรถเเท็กซี่ พอช่วงเย็นวันเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็บุกไปจับกุมที่ห้องพักขณะกำลังนั่งเช็กข่าวสารของตัวเองในเว็บไซต์ทางโทรศัพท์มือถือ

หลังสอบปากคำ ตำรวจนำตัวนายจักรรินทร์ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ก่อนส่งพนักงานสอบสวน สน.บางกอกใหญ่ ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

นรินทร์ เนียมประดิษฐ์

สมศักดิ์ ชฎารัตน์

อดิษัยต์ พรวนพิมพ์

เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน