สดจากสนามข่าว : คำสารภาพหนุ่มหัวร้อนตื้บลุงวินจยย.ดับคาซอยเหตุไม่พอใจรถเฉี่ยวกัน
คำสารภาพหนุ่มหัวร้อนตื้บลุงวินจยย.ดับ : จิตใจคนทุกวันนี้ไม่ต่างกับระเบิดเวลา มีอะไรมากระทบนิดหน่อยก็พร้อมจะระเบิดความรุนแรงใส่กันได้ทันที ยิ่งเวลาขับรถบนถนน หลายครั้งนึกว่าอยู่บนสนามรบ ไม่มีใครยอมใคร สุดท้ายเรื่องเล็กก็บานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่
เช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 4 ต.ค. พ.ต.ต.ธราพงษ์ ภูมิถิ่นหว่อ สารวัตร (สอบสวน) สภ.คูคต จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งมีผู้ถูกทำร้ายเสียชีวิตภายในซอย 1 วัดประยูรธรรมาราม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์ ผกก.สภ.คูคต ชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ พฐ.1 เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และแพทย์เวร ร.พ.ภูมิพลอดุลยเดช
ลูก-เมียร่ำไห้ข้างศพ
ที่เกิดเหตุพบศพ นายประกอบ แก้วล้วน อายุ 65 ปี อาชีพวินจยย.รับจ้าง มีบาดแผลบวมปูดที่บริเวณโหนกแก้มด้านขวา รอยถลอกด้านหลัง นอนเสียชีวิตอยู่กลางซอยดังกล่าว ใกล้กันพบรถจยย.ฮอนด้าเวฟ 110 สีแดง-ดำ ทะเบียนป้ายเหลือง 1 กก 3825 ปทุมธานี ซึ่งเป็นของผู้ตายล้มอยู่
เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตรวจสอบกล้องบริเวณหน้าหอพักใกล้จุดเกิดเหตุพบผู้ก่อเหตุเป็นชายสูง 160 ซ.ม. รูปร่างผอม ขี่รถจยย.ไม่ทราบยี่ห้อ จอดประกบคุยกับผู้ตายก่อนลงจากรถแล้วชกผู้ตายจนล้มลง จากนั้นจึงใช้เท้าเตะผู้ตาย 3-4 ครั้ง ในภาพ ผู้ตายไม่ได้ตอบโต้อะไร แต่หนุ่มโหดก็ยังไม่หยุดยังกระชากร่างผู้ตายออกมาจากรถจยย.แล้ว กระหนำเตะไปอีกหลายที หลังตื้บคนแก่จนหน่ำใจมันก็ขึ้นรถจยย.ขี่หลบหนีไปทางด้านหน้าปากซอยออกถนนพหลโยธิน
พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ วันสิริภักดิ์
ขณะที่ภรรยาของผู้เสียชีวิตให้การว่า สามีมีอาชีพขับวินจยย.รับจ้าง ตรงห้างเมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ รังสิต ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณสามทุ่มกว่า สามีกลับเข้าบ้านได้สักพัก จากนั้นบอกว่าจะขี่รถออกไปซื้อข้าวมากิน ก่อนหายไปนานกระทั่งได้รับแจ้งทางโทรศัพท์ว่าสามีถูกทำร้ายเสียชีวิตกลางซอย จึงรีบออกมาดูก็พบมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังช่วยกันปั๊มหัวใจช่วยชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยได้
น.ส.สุปราณี แก้วล้วน ลูกสาวของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ปกติพ่อไม่ค่อยมีเรื่องกับใคร อยากรู้เหมือนกันว่าใครมาทำกับพ่อ ที่วินก็ไม่เคยมีปัญหากับใคร ส่วนเรื่องกินเหล้าก็ปกติ ไม่เคยหาเรื่องใคร
พ.ต.อ.เอกนิรุจฒิ์ สั่งชุดสืบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พบว่าจุดเกิดเหตุกับที่พักของผู้ตายห่างกันเพียง 200 เมตร จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ขณะเกิดเหตุผู้เสียชีวิตซึ่งดื่มสุรามาก่อนหน้าเพิ่งขับรถจยย.ออกจากบ้านพักเพื่อไปซื้อข้าวที่หน้าปากซอย ก่อนจะมาถูกชายวัยรุ่นขับขี่รถจยย.มาในเส้นทางแล้วมาทำร้ายจนเสียชีวิต
เมื่อไล่กล้องวงจรปิดไปก็พบว่าผู้ก่อเหตุก็เพิ่งขับรถจยย.ออกมาจากกลุ่มเพื่อนซึ่งห่างจากบ้านพักผู้ตายไปเพียง 50 เมตร ตำรวจตามไปสอบปากคำบ้านที่ผู้ก่อเหตุขี่รถจยย.ออกมา จนทราบว่าคือ นายที่รัก หรือออฟ วันอยู่ อายุ 32 ปี อาชีพรับเช่าพระปล่อยพระ มีบ้านพักอยู่ย่าน ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี ส่วนสาเหตุคาดเป็นเหตุซึ่งหน้า เช่น การขับรถตัดหน้า หรือเฉี่ยวชนกัน ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจจึงทำร้ายร่างกายลุงจนถึงขั้นเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป
หลังได้ข้อมูลชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่บ้านพักและบ้านญาติของนายออฟ แต่พบว่าได้หลบหนีไปแล้ว ตำรวจจึงเร่งรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดธัญบุรี ออกหมายจับ ที่ 419/2563 ลงวันที่ 6 ตุลาคม 2563 ในข้อหา “ทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายจนถึงแก่ความตาย”
ชุดสืบสวนติดตามสืบข่าวจนทราบว่านายออฟหลบหนีไปอยู่ที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจน บุรี กระทั่งคืนวันที่ 6 ต.ค. เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสามารถติดตามไปจับกุมตัวได้ที่ ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมด ประกอบด้วยรถจยย.บิ๊กไบก์ ยี่ห้อไทรอัมพ์ สีขาว-แดง 1 คัน หมวกกันน็อกแบบเต็มใบ สีแดง-ขาว 1 ใบ กางเกงยีนส์ขายาวและเสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสกอตสีขาว-ดำ รองเท้าผ้าใบสีแดงเลือดหมู ซึ่งเป็นชุดที่สวมใส่วันเกิดเหตุ ก่อนนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.คูคต
เสื้อวินผู้ตาย
วันที่ 7 ต.ค. พ.ต.ท.ประสิทธิ สมบุญจิตร หัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.คูคต พ.ต.ท.สัมพันธ์ ทิมเจริญ รองผกก.สส.สภ.คูคต พ.ต.ท.กันณพงศ์ พุทธชาติ สว.กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.ท.ภัทระ เหล่ามีผล สว.สส.สภ.คูคต พร้อมกำลังตำรวจสืบสวนสภ.คูคต และตำรวจกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี ร่วมกันสอบสวนนายที่รัก หรือออฟ
พ.ต.ท.ประสิทธิเผยว่า หลังเกิดเหตุผู้บังคับบัญชาเร่งรัดสืบสวนหาผู้กระทำผิดดำเนินคดีซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งทราบว่าคนร้ายคือนายที่รัก อาชีพรับเช่าพระปล่อยพระ จึงขออนุมัติศาลอาญาจังหวัดธัญบุรีออกหมายจับ จนสามารถติดตามจับกุมตัวได้
จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ขี่รถจยย.ออกจาก โต๊ะสนุ้กเกอร์ เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้ขี่รถเบียดกันและมีปากเสียงกันกับผู้ตาย เกิดความโมโหจึงเข้าชกต่อยใบหน้า แล้วกระชากคอเสื้อล้มลง จากนั้นได้เตะซ้ำอีกหลายครั้งจนนิ่งไปจึงขี่รถหนีไป ทั้งนี้ไม่รู้จักผู้ตายมาก่อน เป็นเหตุซึ่งหน้าขี่รถเบียดกันและไม่คิดว่าจะทำให้ถึงกับเสียชีวิต โดยหลังทราบข่าวว่าคู่กรณีเสียชีวิตจึงเผ่นหนีไป จ.กาญจนบุรี ก่อนถูกจับกุม
วงจรปิดนาทีเกิดเหตุ
ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบปากคำผู้ต้องหา ได้มีภรรยา ลูกสาว และญาติพี่น้องผู้ตายอุ้มรูปถ่ายผู้ตายเดินทางร่วมฟังการสอบสวนและให้ผู้ต้องหากราบขอขมารูปผู้ตาย ญาติซึ่งยังอยู่ในอาการเสียใจต่างด่าสาปแช่งผู้ต้องหา ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอให้ญาติออกนอกห้องสอบสวนเพื่อสงบสติอารมณ์
คดีนี้ผู้ต้องหารับสารภาพทั้งหมดแต่ขอตำรวจไม่ทำแผนที่เกิดเหตุ เนื่องจากหวั่นถูกประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงคุมตัวผู้ต้องหาไปขังไว้ก่อนเพื่อดำเนินการสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
คนเราหากไม่รู้จักปล่อยวาง ไม่รู้จักคำว่าให้อภัย ชีวิตก็ไม่ต่างกับแม่เหล็กที่คอยดูดแต่เรื่องร้ายๆ มาหาไม่รู้จักจบสิ้น
นพรัตน์ คุ้มศรี
วสันต์ ทิพย์ประโภชน์, เรื่อง/ภาพ
