ทนงศักดิ์ ศุภการ
เรื่อง/ภาพ
“สุรา” เครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์ที่ทุกผู้คนรู้จัก กันดี เป็นที่นิยมชมชอบของบรรดานักดื่มคอทองแดง เพราะเมื่อฤทธิ์แอลกอฮอล์เข้าไปสะสมในร่างกายเป็นจำนวนมาก จะทำให้เกิดความมึนเมา รู้สึกสนุก สนานผ่อนคลาย
แต่สุราก็มีอีกชื่อเรียกที่หลายคนรู้จัก มักคุ้นเป็นอย่างดีเช่นเดียวกัน นั่นก็คือ “น้ำเปลี่ยนนิสัย” เหตุเพราะมีหลายคนเมื่อดื่มเข้าไปมากๆ แล้ว กลับมีอุปนิสัยตรงข้ามกับยามปกติที่มีสติสมบูรณ์
จากคนพูดน้อยกลายเป็นต่อยหอยพล่ามไม่หยุดปาก จากคนเรียบร้อยยิ้มแย้มแจ่มใสกลายเป็นคนตาขวางหาเรื่องท้าทายไปทั่วไม่กลัวใคร บางครั้งอาจลุกลามบานปลายกลายเป็นเรื่องใหญ่โดยไม่เป็นเรื่อง
ล่าสุดยังเกิดเรื่องสลดเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ คอทองแดงทั้งหลาย เมื่อเพื่อนรักต้องมีเรื่องทะเลาะวิวาทถึงขั้นฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต ส่วนอีกฝ่ายก็ต้องกลายเป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือด
เหตุการณ์ครั้งนี้เกิดเมื่อเก้าโมงเช้าวันที่ 9 ก.ย.ที่ผ่านมา จู่ๆ นายชัชเวทย์ ยังสถิตย์ อายุ 49 ปี บ้านเลขที่ 99 หมู่ที่ 9 ต.พระรักษ์ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร ถือปืนพกลูกโม่ขนาด .357 เดินขึ้นสภ.พะโต๊ะ
ตำรวจคุ้นเคยกับนายชัชเวทย์เป็นอย่างดี เพราะเป็นคนที่ขยันทำมาหากิน และเป็นที่นับถือของคนในพื้นที่ เนื่องจากนิสัยดีขยัน ทำมาหากิน สร้างเนื้อสร้างตัวจากชาวสวนธรรมดา จนมีฐานะเข้าขั้นเศรษฐีคนหนึ่งของ อ.พะโต๊ะ สร้างบ้านหลังละหลายล้านบาท มีสวนปาล์มและสวนทุเรียนหลายร้อยไร่บนเขาพะโต๊ะ
ขณะที่ตำรวจบนโรงพักยังไม่ทันตั้งตัว เศรษฐีพะโต๊ะก็ตรงเข้าไปหาพ.ต.ท.ลาภ คำภาพันธ์ สารวัตรสอบสวนที่เข้าเวรอยู่
พร้อมแจ้งความจำนงว่าจะขอมอบตัว เพราะเพิ่งยิงคนเสีย ชีวิต 2 ศพ คาบ้านพักบนเขาพะโต๊ะห่างจากโรงพักไป 30 กิโลเมตร
พ.ต.อ.ธานี นาคหควิค ผกก.สภ.พะโต๊ะ พร้อมพ.ต.ท.ลาภรีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีหลังทราบเรื่อง พร้อมร.ต.อ. จิระภัทร์ บัวทอง รอง สวป. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสมาคมพุทธประทีปหลังสวน แพทย์ ร.พ.พะโต๊ะ ตำรวจหน่วยวิทยาการหน่วยพิสูจน์ หลักฐานชุมพร
แต่การเดินทางเต็มไปด้วยความลำบาก เพราะที่เกิดเหตุอยู่บน เขาสูง
เมื่อไปถึงก็พบบ้านหลังใหญ่ ริมถนนสายพระรักษ์-น้ำตกจำปุย ใจกลางหมู่บ้านขนาดใหญ่ ซึ่งมีชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุงดู ภาพสยดสยองที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆ ร้อนๆ
เจ้าหน้าที่พบศพนายเสกสรรค์ ศรีรักษา อายุ 51 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .357 เข้าขา แขน ลำตัว และศีรษะ รวม 6 นัด นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่บนพื้น
ถัดไปพบศพนายเสนา ศรีรักษา อายุ 50 ปี น้องชายนายเสกสรรค์ อยู่บ้านเลขที่ 13/7 หมู่ที่ 9 ต.พระรักษ์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันตามลำตัวรวม 4 นัด เสียชีวิตอยู่ข้างเก้าอี้หน้าบ้านที่เกิดเหตุ
นายชัชเวทย์ให้การด้วยสีหน้าซึมเศร้าว่า คบหาเป็นเพื่อนสนิทกับผู้ตายทั้งคู่มาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก
ก่อนเกิดเหตุทั้ง 3 คนตั้งวงดื่มสุรากันที่ร้านขายของชำที่นายเสนาหนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของตั้งแต่หัวค่ำ ซึ่งก็พูดคุยหยอกล้อกันสนุกสนานฮาเฮตามประสาเพื่อน
กระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงตีสี่ หลังสุราหมดไปหลายขวด ความมึนเมาก็เข้าครอบงำสติสัมปชัญญะของทั้งหมด
เมื่อหมดเรื่องสัพเพเหระให้พูดคุย สองพี่ น้องก็หันมาด่าทอต่อว่าผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 9 ซึ่งเป็นพี่ชายของนายชัชเวทย์ และได้รับเลือกให้เป็นผู้ใหญ่บ้านมาถึง 3 สมัยติดต่อกัน อย่างสาดเสียเทเสียไม่มีชิ้นดีจึงเกิดการโต้เถียงกัน
นายชัชเวทย์พยายามพูดแก้ต่างให้พี่ชาย แต่สู้คารมของสองพี่น้องไม่ได้เลยยอมแพ้เดินกลับบ้านไปด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว
แต่แทนที่จะจบเรื่องต่างฝ่ายต่างเข้านอน นายเสกสรรค์และนายเสนากลับพาเดินกันตามไปถึงบ้านพักของนายชัชเวทย์ ก่อนตะโกนเรียกให้มาถกกันเรื่องปมผู้ใหญ่บ้านต่อ
แต่ทั้งหมดนั่งคุยกันที่เก้าอี้ไม้หน้าบ้านได้ไม่นานก็ทะเลาะกันอีก
นายชัชเวทย์ให้การอ้างว่า ยังถูกสองพี่น้องรุมด่าจนเกิดความโมโห ประกอบกับเมาสุรามากจนขาดสติ เดินเข้าบ้านไปหยิบปืนมา จ่อยิงนายเสนาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ 4 นัดซ้อนจนกระเด็นตกเก้าอี้เสียชีวิตคาที่
จากนั้นก็สลัดปลอกออกจากลูกโม่แล้วบรรจุกระสุนปืนชุดใหม่ แล้วเดินตามไปไล่ยิงนายเสกสรรค์ที่กำลังวิ่งหนีถึง 6 นัดซ้อน ดับดิ้นไปต่อหน้าอีกคน
หลังต้องกลายเป็นฆาตกรสังหารเพื่อนรักทั้งคู่แล้ว นายนายชัชเวทย์ก็ตัดสินใจเดินเท้าเป็นระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร เข้ามอบตัวต่อตำรวจขอรับโทษต่อความผิดที่ได้กระทำลงไป
