คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ผ่าปมสยอง!คืนข้ามปี – คดีทะเลาะวิวาทมากกว่าครึ่งล้วนมาจากความเมา เพราะพอเหล้าเข้าปากจากแมวก็กลายเป็นเสือไปโดยพลัน

เพียงเวลาล่วงเข้าสู่วันที่ 1 ม.ค. 2564 แค่ไม่กี่นาที ร.ต.ท.ธนภัทร ชุมพล รองสารวัตรสอบสวนสน.ดุสิต ก็ต้องรีบวิ่งออกมาดูที่มาของเสียงเอะอะโวยวายก่อนจะตามมาด้วยเสียงปืนที่หน้าโรงพักดุสิต ถนนพระราม 5 แขวงและเขตดุสิต กทม. ก่อนรีบประสานแพทย์ แผนกนิติเวช ร.พ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ผ่าปมสยอง!คืนข้ามปี สตอ.เมาดุ-รัวฆ่าหนุ่ม จ่อยิงสนั่นหน้าโรงพัก

ที่เกิดเหตุหน้าโรงพัก

บริเวณบันไดทางขึ้นสถานีตำรวจพบศพนายปิยะพงษ์ รุ่งวิทยากุล เจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรม เสียชีวิตในสภาพมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงที่ลำตัวหลายนัด นอนหงายจมกองเลือดอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวม หลักฐานในที่เกิดเหตุไว้อย่างละเอียด

จากการสอบถามเพื่อนผู้เสียชีวิตให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั่งสังสรรค์ฉลองเทศกาล ปีใหม่บริเวณแฟลตตำรวจ ซึ่งอยู่ติดกับสน.ดุสิต จู่ๆ มีส.ต.อ.ธีรยุทธ จันทร์คง ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม สน.ดุสิต ซึ่งร่วมอยู่ในงานเข้ามาพูดคุยกับผู้เสียชีวิต แต่ไม่ทราบว่าเรื่องอะไร ก่อนมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนใช้อาวุธไล่ยิงผู้ตายจนมาถึงหน้าโรงพัก ก่อนหลบหนีไป

ผ่าปมสยอง!คืนข้ามปี สตอ.เมาดุ-รัวฆ่าหนุ่ม จ่อยิงสนั่นหน้าโรงพัก

ส.ต.อ.ธีรยุทธ จันทร์คง มือปืน

ขณะที่เพื่อนอีกรายให้ข้อมูลว่าก่อน เกิดเหตุจัดงานปีใหม่เพื่อจับสลากของขวัญกันที่แฟลตตำรวจข้างสน.ดุสิต โดยนายปิยะพงษ์มาร่วมกินเลี้ยงสังสรรค์ด้วยรวมประมาณ 10 คน ระหว่างงานเลี้ยง ส.ต.อ.ธีรยุทธเข้ามาทักผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่ในงาน ก่อนจะเดินกลับไปตั้งวงดื่มสุรากับเพื่อนที่ด้านหน้าแฟลตตำรวจ จากนั้น ส.ต.อ.ธีรยุทธ ซึ่งมีอาการมึนเมาสุราได้เดินกลับมาที่งานเลี้ยงของกลุ่มตนอีกรอบสักพักก็เดินกลับไป

เพื่อนคนดังกล่าวเล่านาทีระทึกต่อว่า กระทั่งใกล้ถึงเวลา เคานต์ดาวน์ นายเอ (นามสมมติ) เพื่อนในกลุ่มขอตัวกลับบ้านเพราะเมาสุรา แต่ถูกผู้ตายห้ามไว้จนเกิดการกอดรัดฟัดเหวี่ยงขึ้นตามประสาเพื่อน ส.ต.อ.ธีรยุทธที่อยู่ในอาการเมาสุราเข้ามาเห็นเหตุการณ์จึงต่อว่า นายปิยะพงษ์ได้ตอบกลับว่า “ผมกับเพื่อนเล่นกันแบบนี้เป็นเรื่องปกติ” ทำให้ ส.ต.อ.ธีรยุทธ ไม่พอใจ คนในงานจึงพยายามเข้าไปไกล่เกลี่ยพูดให้ส.ต.อ.ธีรยุทธ กลับไปนั่งดื่มเหล้าในวงของตัวเอง

เมื่อเห็นสถานการณ์ไม่ดี เพื่อนๆ จึงให้นายปิยะพงษ์เข้าไปขอโทษ ส.ต.อ.ธีรยุทธ หวังเพื่อให้สถานการณ์จะได้คลี่คลาย โดยนายปิยะพงษ์เข้าไปขอโทษแล้วพูดว่า “ผมกับพี่ไม่มีอะไรกันนะครับ” แต่กลับทำให้ ส.ต.อ.ธีรยุทธมีอาการฉุนเฉียวขึ้นมาอีกและจะชักปืนยิง

ผ่าปมสยอง!คืนข้ามปี สตอ.เมาดุ-รัวฆ่าหนุ่ม จ่อยิงสนั่นหน้าโรงพัก

นายปิยพงษ์ รุ่งวิทยากุล ผู้ตาย

กลุ่มเพื่อนๆ จึงเข้าไปช่วยกันปล้ำจับตัวส.ต.อ.ธีรยุทธ กระทั่งมีการชุลมุนกันนายปิยะพงษ์ล้มลง ส.ต.อ.ธีรยุทธจึงใช้ปืนยิงใส่ 2 นัด นายปิยะพงษ์วิ่งหนีเอาชีวิตรอดมาที่บริเวณหน้าศาลพระภูมิที่บริเวณ สน.ดุสิต จึงถูกส.ต.อ.ธีรยุทธไล่ตามมารัวยิงเสียชีวิตที่บริเวณดังกล่าว เพื่อนๆ จึงเข้าไปห้ามกดทับตัว ส.ต.อ.ธีรยุทธไว้ จับข้อมือที่กำปืนของส.ต.อ.ธีรยุทธไว้กับพื้น ก่อนตำรวจจะพาตัวไป

เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความไม่พอใจให้กับญาติๆ และเพื่อนๆ ของผู้ตายเป็นอย่างมาก เพราะคนร้ายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแถมยังเป็นการกระทำที่อุกอาจ หลังก่อเหตุแล้วก็หายตัวไปอย่างลอยนวลจึงเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม

ผ่าปมสยอง!คืนข้ามปี สตอ.เมาดุ-รัวฆ่าหนุ่ม จ่อยิงสนั่นหน้าโรงพัก

นางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น ร้องเรียนผบ.ตร.

11.20 น. วันเดียวกัน พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ต้องรีบออกมาสยบความไม่พอใจก่อนจะบานปลาย โดยเปิดเผยว่า ส.ต.อ.ธีรยุทธ มือปืนรายนี้ไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่ถูกจับได้หลังก่อเหตุ และถูกดำเนินคดีใน 3 ข้อหา คือพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต, ยิงปืนในที่สาธารณะ และฆ่า ผู้อื่นโดยเจตนา

พล.ต.ท.ภัคพงศ์กล่าวด้วยว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลานอกราชการ ไม่ได้อยู่ในงานเลี้ยงสังสรรค์ เป็นการกินข้าวในที่พักหลังสน.ดุสิต และปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนส่วนตัวของส.ต.อ.ธีรยุทธ ขณะนี้รอผลตรวจเลือดว่ามีสารอะไรอยู่ในร่างกายบ้าง และ ผลตรวจคราบเขม่าดินปืน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี

ผ่าปมสยอง!คืนข้ามปี สตอ.เมาดุ-รัวฆ่าหนุ่ม จ่อยิงสนั่นหน้าโรงพัก

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.แถลง

วันรุ่งขึ้นตำรวจนำตัวส.ต.อ.ธีรยุทธ ผู้ต้องหาไปยื่นฝากขังที่ศาล ก่อนที่ญาติได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ ขอปล่อยชั่วคราวระหว่างฝากขัง ศาลพิจารณาแล้ว มีคำสั่งอนุญาตให้ส.ต.อ.ธีรยุทธประกันตัวไปในวงเงินประกัน 5 แสนบาท

ด้านนางจันทร์เพ็ญ สิทธิบุ่น อายุ 44 ปี มารดาของนายปิยะพงษ์ที่เสียชีวิต เข้ายื่นเรื่องขอความเป็นธรรมต่อพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. เพื่อขอให้เปลี่ยนเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้ทั้งชุด เนื่องจากทางญาติรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะเป็นเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในสถานีตำรวจเดียวกันกับผู้ต้องหา จึงขอให้ส่งคดีให้ทางกองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ดูแลคดีแทน

นางจันทร์เพ็ญเผยว่า การมายื่นเรื่อง ครั้งนี้เพราะครอบครัวมีความกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนในการดำเนินคดี ทั้งเรื่องการควบคุมตัว และการปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้งที่เป็นคดีฆ่าผู้อื่น ซึ่งครอบครัวเห็นว่าคดีนี้เกิดขึ้นในพื้นที่ และผู้ต้องหาเป็นตำรวจในท้องที่ซึ่งปฏิบัติงานในที่เดียวกันกับชุดพนักงานสอบสวน กลัวว่าจะมีการช่วยเหลือกันทางคดีจึงต้องการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาส่งคดีให้กองบังคับการปราบปรามเป็นผู้ดูแลคดีนี้แทน เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

พอมีสุราร่วมอยู่ด้วย แค่เรื่องเล็กๆ ก็บานปลายกลายเป็นเรื่องสยองได้

พุฒิสรรค์ แก้วบัวดี
อดิศร จิตตเสวี
สราวุฒิ ศรีเพ็ชรสัย
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน