พฤตินัย มั่งสวัสดิ์
วัฒนชัย จำนงค์ทอง
เรื่อง/ภาพ
เสียงปืนที่ดังขึ้นในห้างแม็คโคร สาขาอุดรธานี สร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้ที่กำลังจับจ่ายซื้อสินค้า หลายคนหันไปมองหาที่มาของเสียง หลายคนรีบวิ่งหาที่หลบที่คิดว่าปลอดภัย ขณะที่อีกหลายคนยืนตัวแข็งทื่อด้วยความตกใจ
ช่วงเวลาเดียวกัน น.ส.โพธิวรรณ รัดดา อายุ 32 ปี และ ด.ช.คำพูน เต็มนิธิรัตน์ อายุ 7 ขวบ ต่างรู้สึก เสียวแปล๊บขึ้นที่ข้อเท้าซ้าย ก่อนจะมีเลือดไหลออกมาจากบาดแผลคมกระสุนที่แฉลบมาโดน
แต่สำหรับ นางสิรินพร ชุ่มบุญชู อายุ 40 ปี ไม่ได้โชคดีเช่นนั้น เจ้าตัวไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ร้องขอชีวิต
เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 13 ต.ค. พ.ต.ต.สุชาติ อุทโย สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รีบนำกำลังตำรวจสายตรวจ 191 หน่วยกู้ชีพ ร.พ.ศูนย์อุดรธานี และหน่วยกู้ชีพ ร.พ.กรุงเทพ รุดไปที่ห้างแม็คโคร สาขาอุดรธานี ถนนนิตโย เขตเทศบาลนครอุดรธานี ทันทีหลังรับแจ้งเกิดเหตุยิงกันภายในห้างจนมีผู้บาดเจ็บหลายราย
ขณะที่ พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงศ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา สภ.เมืองอุดรธานี ก็รีบรุดไปร่วมตรวจสอบหลังได้รับรายงาน
ที่เกิดเหตุบริเวณแผนกขายเนื้อสดของห้าง พบร่างของ จ.ส.ต.พิเชฎฐ์ ชุ่มบุญชู อายุ 41 ปี ทหารสังกัด ร.19 พัน.3 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ถูกกระสุนปืนเข้าที่อกซ้าย 1 นัด นอนอยู่บนพื้น
ห่างไปประมาณ 5 เมตร พบร่างของ นางสิรินพร ชุ่มบุญชู อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/13 หมู่ 2 ต.หนองปรือ อ.หนองปรือ จ.กาญจนบุรี โดนยิงเข้าด้านหลัง จำนวน 3 นัด และแขนซ้าย 1 นัด นอนหายใจรวยรินอยู่ที่พื้น
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้งสองคน ก่อนนำส่งโรงพยาบาล แต่นางสิรินพร ชุ่มบุญชู อาการสาหัสหนักก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ในที่เกิดเหตุพบอาวุธปืน 9 ม.ม. ปลอกกระสุนปืน 5 ปลอก หัวกระสุน 2 หัว และลูกกระสุนอีก 3 นัด นอกจากนี้ มีผู้โดนลูกหลง 2 ราย คือ ด.ช.คำพูน เต็มนิธิรัตน์ อายุ 7 ขวบ ถูกกระสุนปืนเข้าที่ด้านหลังด้านซ้าย 1 นัด กระสุนฝังใน และน.ส. โพธิวรรณ รัดดา อายุ 32 ปี ถูกกระสุนปืนเฉี่ยวเข้าที่ข้อเท้าซ้าย
ขณะเดียวกัน นางทองสา เหล็กเพชร อายุ 58 ปี น้าสาวของ นางสิรินพร เผยว่า หลานสาวเป็นชาว จ.เลย ได้แต่งงานอยู่กินกับ จ.ส.ต.พิเชฎฐ์ มาร่วม 20 ปี จนมีลูกด้วยกัน 3 คน ต่อมาหลานสาวจับได้ว่าสามีมีหญิงอื่น จึงขอเลิกและขอจดทะเบียนหย่าด้วยแต่สามีไม่ยอม
หลานสาวจึงยื่นข้อเสนอเงิน 4 แสนบาทที่ได้มาจากการขายที่ดินมรดกให้ฝ่ายชายจนหมด แล้วพาลูกคนเล็กไปหาน้องชายที่ จ.ชลบุรี จากนั้นจึงพากันมาหาตนที่ จ.อุดรฯ ตั้งแต่เมื่อเย็นวานนี้
แต่เช้าวันนี้สามีตามมาขอคืนดี ตนกลัวหลานสาวจะโดนถูกทำร้ายร่างกาย จึงพามาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองอุดรฯ จากนั้นจึงพาหลานสาว และญาติ ไปซื้อของอาหารสดที่ห้างแม็คโคร แต่สามีของหลานสาวตามมา ไม่คิดว่าเขาจะยิงหลานสาวจนเสียชีวิต
ขณะที่แพทย์เผยอาการจ.ส.อ.พิเชฎฐ์ ว่าถูกยิงเข้าที่บริเวณทรวงอกทะลุหลัง เป็นการยิงระยะประชิด ไม่โดนหัวใจ แต่โดนเส้นเลือดที่ปอด ต้องผ่าตัดเปิดทรวงอก เพื่อหยุดเลือดจากเส้นเลือด แดงใหญ่
จากนั้นแพทย์รีบนำตัวเข้าห้องผ่าตัดเพื่อซ่อมแซมปอดที่เสียหาย เย็บปิดเส้นเลือด จนเบื้องต้นอาการคงที่ความดันโลหิตก็ขึ้นมา หัวใจก็กลับมาเต้น แต่ก็ยังถือว่าไม่พ้นวิกฤต ต้องนอนพักรักษาห้องผู้ป่วยวิกฤตอยู่
พล.ต.ต.พีระพงศ์เผยว่า หลังจากที่จ.ส.ต.พิเชฎฐ์ตามมาพบภรรยาที่ห้าง ก็พูดคุยงอนง้อ ให้ภรรยากลับไปอยู่ด้วยกันแต่ไม่เป็นผล เลยชักอาวุธปืนจ่อยิงทางด้านหลังของนางสิรินพร 3 นัดจนล้มฟุบลง และจะยิงซ้ำอีกแต่กระสุนขัดลำกล้อง เจ้าตัวพยายามจะกระชากลำกล้องเพื่อคัดปลอกกระสุนออก แต่เกิดกระสุนลั่นเจาะบริเวณหน้าอกจนบาดเจ็บสาหัส สาเหตุก็มาจากการหึงหวง
ขณะที่ พ.ต.อ.ภูมิวิทย์เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา จ.ส.ต.พิเชฎฐ์ ตามมาง้อภรรยาที่บ้าน และพักค้างคืนด้วยกัน แต่ก็ทะเลาะกันทั้งคืน ผู้ตายถูกทำร้ายร่างกาย รุ่งเช้าจึงพากันมาแจ้งความเอาเรื่องกับ จ.ส.ต.พิเชฎฐ์ เพื่อเป็นหลักฐานในการขอหย่า ทำให้ จ.ส.ต.พิเชฎฐ์ โมโห ที่ภรรยาไม่ยอม จะแยกทางท่าเดียว เลยตัดสินใจตามไปยิง ขณะที่ผู้ตายกำลังเดินซื้อของกับญาติๆ
ตร.ได้อายัดตัวดำเนินคดีในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนาและมีอาวุธปืน เครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต พกพาอาวุธปืนไปและยิงในที่สาธารณะ” โดยหลังจากพ้นขีดอันตรายจะถูกย้ายไปที่ร.พ.ศูนย์อุดรธานี ส่วนของผู้บาดเจ็บอีก 2 รายล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
สุดท้ายก็หนีไม่พ้นลูกๆ ที่ต้องมาพลอยรับผลของการกระทำที่ขาดสติของผู้ใหญ่อีกเช่นเคย
