ภูษณิศา สัญญารักษกุล
เรื่อง/ภาพ
หลังผ่านมาหลายวันนับจากวันที่ “น้องกี้” อายุ 22 ปี หนุ่มสวยชาวลำพูน น.ศ.ปริญญาโท มหาวิทยาลัยดังในเมืองเชียงใหม่ ต้องเสียชีวิตลงเพราะหลงไปใช้บริการเสริมหน้าอกกับ นายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ หรือ “เบญ” หมอเถื่อนที่แอบอ้างเป็น นพ.จิรเดช เกตุรัตนกุล หรือ “หมอดิว” เปิดคลินิกศัลยกรรมความงาม ดีไวน์ คลินิก ตั้งอยู่ ถ.ลำปาง-แม่ทะ ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง
ในที่สุดตำรวจก็ตามจับตัวหมอเถื่อนรายนี้เอาไว้ได้
ย้อนกลับไปเมื่อเย็น วันที่ 28 ต.ค. “น้องกี้” มาที่คลินิกศัลยกรรม ดีไวน์ คลินิก เพื่อเข้ารับการศัลยกรรมผ่าตัดเสริมทรวงอกตามที่นายธนัชพงศ์ หรือชื่อที่อ้างกับทุกคนว่า นพ.จิรเดช เกตุรัตนกุล หรือ “หมอดิว” ได้นัดหมายเอาไว้
ภายหลังการผ่าตัดเสร็จแล้ว ประมาณ 3 นาที “น้องกี้” หมดสติและหยุดหายใจขณะที่ยังนอนอยู่บนเตียงคนไข้ ทางคลินิกจึงนำตัวส่ง ร.พ.ลำปาง เพื่อรักษา แต่น่าเศร้าที่เจ้าตัวไม่มีโอกาสฟื้นขึ้นมารับรู้อะไรอีกเลย กระทั่ง เสียชีวิตเมื่อ 22.00 น. คืนวันที่ 29 พ.ย.
เมื่อเกิดกรณีการเสียชีวิตขึ้นจึงเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร เข้ามาตรวจสอบหาผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย ขณะที่ศพ “น้องกี้” ถูกส่งไปชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต ก่อนพบว่าเกิดจากการขาดอากาศหายใจ เนื่องจากผนังช่องอกซ้ายทะลุซึ่งเกิดจากการผ่าตัดดังกล่าว
นพ.ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ สสจ.ลำปาง สั่งให้ตรวจสอบคลินิกดังกล่าว พบว่าไม่มีใบอนุญาต จึงให้เจ้าหน้าที่นิติกรเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.จันทร์จิรา ธิวงศ์เงิน หรือ มะปราง อายุ 20 ปี ที่มีชื่อเป็นเจ้าของทันที
ขณะที่ทางคดี พ.ต.อ.จิตตพล วงษ์วัน ผกก.สภ.เขลางค์นคร พร้อมด้วย พ.ต.ท.ทระนง ศรีคำวัง รอง ผกก.(สอบสวน) เรียกตัว น.ส.จันทร์จิรา มาสอบสวน พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาประกอบกิจการสถานพยาบาลโดยได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 และดำเนินการสถานพยาบาลโดยไม่ได้รับอนุญาต มาตรา 24 แก้ไขประกอบกับปี 2559 ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทำให้ น.ส.จันทร์จิรา มีความเครียดถึงกับร่ำไห้ตลอดเวลา
พร้อมกันนี้ตำรวจออกหมายเรียกตัว นพ.จิรเดช เกตุรัตนกุล หรือ “หมอดิว” ที่มีชื่อเป็นแพทย์ผู้ผ่าตัดมาสอบสวนด้วย
พลันที่นพ.จิรเดช ได้รับการติดต่อจาก เจ้าหน้าที่ ความจริงก็ปรากฏว่า เจ้าตัวไม่ใช่แพทย์ที่ผ่าตัดให้กับน้องกี้ และไม่เคยมาทำงานที่คลินิกที่เกิดเหตุเลย โดยเจ้าตัวทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯมาตลอด
ตำรวจนำภาพ นพ.จิรเดช หรือ หมอดิว ไปให้บรรดาลูกค้าของคลินิกดู ทุกคนต่างยืนยันว่าเป็นคนละคนกับแพทย์ที่มาทำศัลยกรรมด้วย สุดท้ายตำรวจเค้นสอบผู้เกี่ยวข้องกับคลินิกทั้งหมด จนทราบความจริงว่าผู้ที่ลงมือผ่าตัดจนน้องกี้เสียชีวิต คือนายธนัชพงศ์ จิตรธีรภิรมย์ หรือ “เบญ” โดยเป็นเจ้าของคลินิกตัวจริง แต่ใช้ชื่อ น.ส.จันทร์จิรา ซึ่งเป็นแฟนของน้องชายมาเป็นผู้ขออนุญาต
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบประวัตินายธนัชพงศ์ พบว่าเคยเปลี่ยนชื่อและนามสกุลมา โดยก่อนหน้านี้ใช้ชื่อว่า นายอนุพงศ์ เรือนสุข และมีหมายจับติดตัวจำนวน 5 หมาย ในข้อหาฉ้อโกง ปลอมแปลงเอกสาร ประกอบกิจการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มโดยไม่ได้รับอนุญาต และพ.ร.บ.เช็ค จึงเร่งรวบรวมหลักฐานไปขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดลำปาง ในข้อหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไม่เจตนา” เป็นหมายจับใบที่ 6 และเตรียมแจ้งข้อหา “ประกอบวิชาชีพเวชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” เนื่องจากนายธนัชพงศ์ไม่ได้เรียนจบหมอมาแต่อย่างใด
พ.ต.ท.ทระนงเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายที่เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วกว่า 30 ราย มีทั้งผู้ที่เคยใช้บริการแล้วเกิดปัญหาโดยเฉพาะการผ่าตัดเสริมจมูก และทำคาง และมีผู้ที่ยังไม่ได้ใช้บริการแต่ได้โอนเงินมัดจำไปให้ทางคลินิกแล้วตั้งแต่ 5,000- 10,000 บาท ที่ได้เข้าแจ้งความเพื่อเรียกร้องขอเงินมัดจำคืน
สุดท้ายแล้วก็ไม่รอด เมื่อเย็นวันที่ 11 พ.ย. พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รรท.ผบก.ป. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผกก.4 บก.ป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.ณัฐพล เกิดเอี่ยม รองผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ประเสริฐ หวังบุญสร้าง สว.กก.4 บก.ป. ติดตามสืบสวนจนทราบว่าหมอเก๊ หลบหนีคดีมาซ่อนตัวอยู่ที่ห้องพักแห่งหนึ่ง ใกล้กับสถานบันเทิงฮอลลีวู้ด ถนนพัทยาสาย 3 จ.ชลบุรี
จึงนำกำลังไปประสานตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ติดตามไปจับกุมตัวได้ ก่อนนำมาสอบสวนที่กองปราบฯ
นายธนัชพงศ์ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าไม่ได้เป็นหมอแต่เคยทำธุรกิจคลินิกมาตั้งแต่ปี 2558 เปิดมาแล้ว 4 แห่ง มีที่ย่านห้วยขวาง ย่านรามอินทรา อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว และจ.ลำปาง ตนเริ่มทำศัลยกรรมเองครั้งแรกที่ จ.ลำปาง โดยเรียนรู้จากแพทย์ศัลยกรรมเนื่องจากตนเป็นเจ้าของคลินิกจึงเข้าไปดูในห้องผ่าตัดได้
“ผมทำศัลยกรรมมาแล้วกว่า 1,500 ราย ไม่เคยมีการร้องเรียน แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น จึงมีผู้มาร้องเรียน ส่วนที่แอบอ้างชื่อหมอดิว เพราะก่อนหน้านี้หมอดิวเคยทำงานร่วมกันในคลินิกสาขาหนึ่ง ผมยอมรับผิดที่แอบอ้างชื่อ เพราะไม่ได้เรียนแพทย์มา” หมอเก๊กล่าว
ภายหลังสอบสวน หมอเก๊ถูกส่งตัวไปดำเนินคดีตามหมายจับ ที่โรงพักเขลางค์นคร ต่อไป
