คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนนาทีสยองสุราษฎร์ฯ ผช.ผญบ.ปืนดุฆ่าพ่อลูก ปมทะเลาะเบิ้ลรถเสียงดัง

ปัญหาเรื่องเพื่อนบ้านกวนใจ เป็นปัญหาที่ใครไม่เจอกับตัว ย่อมยากจะเข้าใจ หากพูดกันรู้เรื่องก็ดีไป แต่หากพูดกันไม่รู้เรื่องไม่เข้าใจ กลายเป็นปัญหากินแหนงแคลงใจกันขึ้นมาก็ยากจะหาความสงบสุขในชีวิต

หลายครั้งความไม่พอใจสะสมมาเป็นเวลานาน ไม่ต่างกับระเบิดเวลาที่รอให้ถึงเวลาระเบิด!

เช่นเรื่องสยองที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 22 ก.ย.2564 พ.ต.อ.ทักษิณ ศิริโภคพัฒน์ ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.อมร บุญศิลป์ สว.สืบสวน สภ.กาญจนดิษฐ์ ร.ต.อ.ศักดิ์ชัย มีพูล รองสว.(สอบสวน) สภ.กาญจนดิษฐ์ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน แพทย์ ประจำ ร.พ.กาญจนดิษฐ์ เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 และเจ้าหน้าที่กู้ภัยกาญจนดิษฐ์ เข้าตรวจสอบภายในบ้านเลขที่ 32/3 ม.3 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี หลังรับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย

สดจากสนามข่าว

อาวุธสังหาร

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ที่บริเวณข้างบ้านพบศพนายประภาส แก้วกันรัตน์ อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 77 หมู่ที่ 3 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี สภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีเทา สวมกางเกงยีนส์ ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองเข้าที่บริเวณลำตัว

เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบในห้องนอนของบ้าน ก็พบผู้เสียชีวิตอีกหนึ่งราย ทราบชื่อต่อมาคือ นายอิทธิพล แก้วกันรัตน์ อายุ 24 ปี เป็นลูกชายนายประภาส สภาพนอนหงายไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายดอกสีดำ นอนเสียชีวิตอยู่ข้างที่นอน ตรวจสอบพบมีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกันเข้าที่หน้าอก ที่บริเวณหน้าบ้านพบปลอกกระสุนปืนลูกซองตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ นายฉัตรชาย บัวแก้ว อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 32 หมู่ที่ 3 ต.ท่าทอง อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ซึ่งมีบ้านพักอยู่ติดกันกับบ้านที่เกิดเหตุ โดยหลังก่อเหตุได้เข้ามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ พร้อมอาวุธปืนลูกซองห้านัดที่ใช้ก่อเหตุ

สดจากสนามข่าว

หลักฐานในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามนางวรรณา แก้วกันรัตน์ อายุ 48 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตเล่าว่า ครอบครัวของตนเองและครอบครัวผู้ก่อเหตุเคยทะเลาะมีปากเสียงกันในเรื่องเกี่ยวกับรถกระบะของที่บ้านเสียงดัง จึงไม่ค่อยจะลงรอยกัน และก่อนเกิดเหตุนายประภาสได้ขับรถเข้ามาจอดข้างบ้านและมีเสียงดังของเครื่องยนต์ ทำให้นายฉัตรชาย ที่นอนอยู่ในบ้านลงมาเตือนจนเกิดมีปากเสียงกันและมีการท้าทายกัน ก่อนที่จะใช้ปืนยิงใส่สามีและลูกชายจนเสียชีวิตดังกล่าว

ด้านแฟนสาวของนายอิทธิพลผู้ตาย ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่านาทีชีวิตว่า ขณะเกิดเหตุตนกับนายอิทธิพลนอนอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน จึงปลุกนายอิทธิพลลุกออกไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น ทีแรกไม่รู้ว่าเป็นเสียงปืน

แต่พอแฟนหนุ่มเปิดประตูยังไม่พ้นออกจากห้อง ก็ถูกนายฉัตรชายยิงสวนเข้ามาเข้าที่มือ และชายโครงนอนจมกองเลือด ระหว่างนั้นนายฉัตรชายเดินตรงดิ่งเข้ามาภายในห้องนอน ใช้อาวุธปืนสั้นที่เตรียมมาด้วยเตรียมจะยิงตนเอง พร้อมกับพูดว่า “ในนี้มีใครมั่วอีกไหม”

สดจากสนามข่าว

ปลอกกระสุน

ตอนนั้นพี่สาวที่อาศัยอยู่ด้วย จึงตะโกนบอกว่า “พี่อย่าทำน้องหนู” จากนั้นตนเองก็ยกมือพนม พร้อมกับพูดว่า “หนูเป็นผู้หญิง หนูไม่ใช่ผู้ชาย หนูไม่เกี่ยวข้อง อย่าทำอะไรหนู” นายฉัตรชายจึงหันปลายกระบอกปืนยาวไปยิงซ้ำนายอิทธิพลที่นอนอยู่บนพื้น ยิงเข้าที่หน้าอก จนเสียชีวิตคาที่

ส่วนทางด้านญาติของนายฉัตรชาย ผช.ผญบ.ปืนดุ ให้ข้อมูลว่า ที่ผ่านมานายฉัตรชายพยายามบอกให้นายประภาสและนายอิทธิพลขับรถเข้าซอยแบบเงียบๆ อย่าเบิ้ลเครื่องรถ เนื่องจากรถกระบะของนายประภาสมีการดัดแปลงใส่ท่อไอเสียแต่งเสียงดัง เพราะเวลาเอาลูกวัย 2 ขวบนอน จะตกใจตื่นกลางดึก อีกทั้งบ้านของนายประภาส กลุ่มลูกชายของนายประภาสก็มักจะมีการพาเพื่อนมามั่วสุมส่งเสียงดัง บางครั้งมีเบิ้ลเครื่องรถเสียงดัง ทำให้เป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับบ้านของตนเอง แต่พอไปตักเตือนก็เกิดทะเลาะกันจนกลายเป็นเหตุสยองดังกล่าว

จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ย่อมไม่สามารถลบล้างข้อเท็จจริงที่นายฉัตรชายฆ่าคนตายถึง 2 ศพไปได้

ธนภัทร ชีระจินต์ – เรื่อง/ภาพ

 

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน