คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

โดย…อดิศร จิตตเสวีเรื่อง/ภาพ

ตร.แฉเล่ห์‘แชร์ลูกโซ่’
หลอกลงทุนCrowd1
เหยื่ออื้อสูญหลายล้าน

รูปแบบการโกงทางโซเชี่ยล ที่มาในรูปแบบของการลงทุน ใช้ผลตอบแทนที่สูงมาล่อลวงจนเหยื่อหลงเชื่อ แต่เมื่อลงทุนไปแล้วก็สูญเสียเงินแทบทุกราย สุดท้ายก็ต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญ

ในยุคนี้คงปฏิเสธตำรวจ PCT ไม่ได้ ที่ตามจับแบบรายวัน

เมื่อหลายวันที่ผ่านมา พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปอส.ตร.) หรือ PCT พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผบช.น. ชุดปฏิบัติการที่ 4 ตำรวจ PCT ได้แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่าย Crowd1 จำนวน 2 ราย มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท

ตร.แฉเล่ห์‘แชร์ลูกโซ่’ หลอกลงทุนCrowd1 เหยื่ออื้อสูญหลายล้าน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. แฉเล่ห์

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายชักชวนให้ประชาชนทั่วไปลงทุนในแพลตฟอร์มชื่อ crowd1.com อ้างว่าเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่จดทะเบียนในต่างประเทศและมีการนำเงินจากผู้สนใจไปลงทุนในธุรกิจและแพลตฟอร์มต่างๆ มีลักษณะเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ จะสามารถให้ผลตอบแทนสูงกว่าการลงทุนในสถาบันการเงินปกติ

โดยกลุ่มคนร้ายจะมีตัวละครหลักๆ อยู่ 4 ราย ทำหน้าที่เป็นวิทยากรสอนการลงทุนผ่านแพลตฟอร์ม Crowd1 โดยขายเป็นแพ็กเกจความรู้ในการลงทุนตั้งแต่ 99 ยูโร หรือ 4,000 บาท ไปจนถึง 2,999 ยูโร หรือ 100,000 บาท

ตร.แฉเล่ห์‘แชร์ลูกโซ่’ หลอกลงทุนCrowd1

แผนผังก่อเหตุ

 

กลุ่มคนร้ายรู้อยู่แล้วว่าธุรกิจที่กล่าวอ้างนั้นไม่ได้ประกอบกิจการจริงอันจะทำให้ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนแก่สมาชิกผู้ลงทุนแต่อย่างใด หากแต่ใช้รูปแบบการกดดันผู้ลงทุนในลักษณะบังคับให้ตัดสินใจในเวลาจำกัด ภายใต้ชื่อแผนการตลาดว่า Fear of Loos Bonus กล่าวคือ

หากสามารถหา สมาชิกใหม่ได้ภายใน 14 วัน จะได้รับผลตอบแทนมากขึ้น เช่น หากแนะนำสมาชิก 4 คน ลงทุนในแพ็กเกจ White จะได้รับผลตอบแทน 15,000 บาท หรือหากแนะนำสมาชิก 4 คน ลงทุนในแพ็กเกจ Gold จะได้รับผลตอบแทน 40,000 บาท หรือหากแนะนำสมาชิก 4 คน ลงทุนในแพ็กเกจ Titanium จะได้รับผลตอบแทน 120,000 บาท ซึ่งมีจำนวนการลงทุนแตกต่างกันไป และหากหากสมาชิกใหม่นั้นหาสมาชิกมาสมัครต่อๆ กันไปอีก สมาชิกเดิมก็จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนลดหลั่นกันไปตามแผนการลงทุนอีกด้วย

ตร.แฉเล่ห์‘แชร์ลูกโซ่’ หลอกลงทุนCrowd1

บุกค้น-จับกุม

 

จากการคำนวณแผนการตลาดดังกล่าวที่มุ่งเน้นการระดมทุนหาสมาชิกใหม่ๆ มาสมัคร แต่มิได้มีการหาประโยชน์จากการขายสินค้า หรือทำงานเหมือนบริษัทขายตรงทั่วไป ทั้งยังโฆษณาชวนเชื่ออีกว่าสมาชิกระดับต้นๆ จะสามารถได้รับผลตอบแทนสูงสุดถึงร้อยละ 3,258 ต่อปี ซึ่งเป็นการให้ผลตอบแทนสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินอย่างมหาศาล และการกระทำดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่นั่นเอง

ต่อมาเมื่อไม่สามารถตอบแทนผู้ลงทุนได้ ผู้ต้องหากับพวกจึงได้ปิดกิจการหอบเงินแยกย้ายกันหลบหนีไป เพื่อรอเวลากลับมาหลอกลวงในชื่อใหม่ แต่รูปแบบและวิธีการยังคล้ายเดิม

เจ้าหน้าที่ตำรวจ PCT ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดธัญญบุรี และเข้าทำการจับกุม น.ส.กรนัท (สงวนนามสกุล) กับพวกรวม 2 ราย ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน” ซึ่งได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งย่านสาทร กทม. และในพื้นที่ จ.มหาสารคาม ตามลำดับ นอกจากนั้นยังได้ตรวจค้นจุดทำการตลาดที่สำนักงาน Crowd1 เลขที่ 289/17-18 หมู่ 1 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และที่ซุกซ่อนทรัพย์สินต่างๆ ยึดของกลางได้จำนวนมาก

 

ขณะที่ พล.ต.ต.ไตรรงค์กล่าวทิ้งท้ายว่า ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ซึ่งมีการหลอกลวงประชาชนโดยใช้ Social Media เป็นจำนวนมาก ซึ่ง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้กำชับให้ทุกหน่วยเร่งระดมปราบปรามอย่างจริงจังและต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน ถือเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน หลังจากนี้จะได้แจ้ง ปปง.ให้ตรวจสอบเพื่อยึดทรัพย์สินของผู้ต้องหาและผู้ที่เกี่ยวข้องและดำเนินคดีฐานฟอกเงินต่อไป หากพบเบาะแส หรือเกรงจะตกเป็นเหยื่อ สามารถแจ้งเข้ามาได้ที่สายด่วน PCT 1599 ตลอด 24 ช.ม. หรือสายตรง 08-1866-3000 หรือ www.pct.police.go.th

จำไว้ให้ขึ้นใจวิธีการให้เอาเงินมาลงทุน แล้วหาสมาชิกมาลงทุนเพิ่มเพื่อตัวเองจะได้หัวคิว โดยที่ไม่ได้มีธุรกิจหรือสินค้าอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ร้อยทั้งร้อยล้วนเป็นแชร์ลูกโซ่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน