ย้อนนาทีคลั่งฆ่าสยอง
ตัดหัวผัวเมียเพื่อนบ้าน
หนุ่มรับเสพยา-ลงมือ

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

ย้อนนาทีคลั่งฆ่าสยอง ตัดหัวผัวเมียเพื่อนบ้าน – คดีฆาตกรรมไหนพฤติกรรมการลงมือที่เหี้ยมโหดผิดธรรมดา ท่านให้สันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าต้องมียาบ้าเข้ามาเอี่ยวด้วย

เช่น เรื่องสยองเกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 7 พ.ย. โดย พ.ต.ท.ผจญ เนียมรินทร์ รองผกก.สอบสวน สภ.ห้วยยอด จ.ตรัง รับแจ้งเกิดเหตุฆาตกรรมภายในบ้านเลขที่ 145 ริมถนนสายต้นส้มหม้าว-ห้วยนางใต้ ม.4 ต.ห้วยนาง จึงนำกำลังรุดไปตรวจสอบ พร้อมพ.ต.อ.ประดิษฐ์ ชัยพล ผกก.สภ.ห้วยยอด พ.ต.ท.ปรีชา รามพูน รอง ผกก.สส. เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน เจ้าหน้าที่พฐ. แพทย์ร.พ.ห้วยยอด และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครหน่วยกู้ภัยสว่างภักดีตรัง

ย้อนนาทีคลั่งฆ่าสยอง ตัดหัวผัวเมียเพื่อนบ้าน

ตร.ตรวจที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว บริเวณพื้นดินติดกับประตูข้างบ้านพบศพน.ส.เพ็ญนภา หรือ หญิง อ้อยเป็น อายุ 52 ปี อาชีพขายน้ำอ้อย สภาพนอนหงายหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกฟันด้วยของมีคมที่คอจนศีรษะขาดจากตัวและที่สะพายแล่งอีก 1 แผล ส่วนที่ห้องน้ำภายในบ้านพบศพนายสุพรรณ หรือ เอียด แก้วเกื้อ อายุ 59 ปี สามี สภาพนอนหงายหน้าบนพื้นห้องน้ำ ศีรษะขาดกระเด็นห่างจากศพติดอยู่กับถังน้ำ ตรวจสอบสภาพในบ้านไม่พบร่องรอยการต่อสู้ หรือมีทรัพย์สินสูญหาย

ขณะที่นายเอกชัย พลภักดี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ให้การว่า ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทอะไรผิดปกติ กระทั่งมีผู้มาพบว่าทั้งคู่ถูกฆาตกรรมแล้ว สำหรับผู้ตายฝ่ายชายเป็นคนนิสัยร่าเริง พูดจาตรงไปตรงมา แต่ไม่เคยมีปัญหาหรือขัดแย้งกับใครมาก่อน ขณะที่นายพิศ สุขรักษา กำนัน ต.ห้วยนาง กล่าวว่า นายสุพรรณเป็นน้องชายทนายความชื่อดัง อาจจะมีความขัดแย้งกับใครบ้าง แต่เป็นคนที่นิสัยดีกับคนในชุมชน

ชุดสืบสวนกระจายลงพื้นที่หาข้อมูลกระทั่งได้ข้อมูลว่ามีคนเห็นผู้ชายเหน็บมีดพร้าเดินออกมาจากบ้านผู้ตาย ก่อนขึ้นรถกระบะขับออกไป เมื่อตรวจสอบลักษณะผู้ต้องสงสัยและรถที่ขับแม้จะยังไม่ทราบสาเหตุสังหาร แต่เจ้าหน้าที่ก็พอจะมีผู้ต้องสงสัยไว้ในใจแล้ว

ย้อนนาทีคลั่งฆ่าสยอง ตัดหัวผัวเมียเพื่อนบ้าน

นำศพส่งชันสูตร

ต่อมาในเวลา 22.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ประดิษฐ์นำเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสนธิกำลังตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษศรีตรัง และฝ่ายสืบสวน บก.ภ.จว.ตรัง กว่า 20 นาย ปิดล้อมบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่หมู่ 6 ต.ห้วยนาง ห่างจากบ้านหลังเกิดเหตุไปประมาณ 3-4 ก.ม. หลังจากสืบทราบว่าเป็นบ้านของนายอรุณทร หรือ เมี้ยก นิ่มนวน อายุ 37 ปี ผู้ต้องสงสัย ก่อนประสานพ่อนายอรุณทรนำเข้าไปจับกุมตัวขณะอยู่ภายในห้องนอน จากการตรวจค้นพบเสื้อผ้าเปื้อนเลือดถูกแช่น้ำอยู่ในกะละมัง มีดพร้าเปื้อนเลือด และรถกระบะอีซูซุสีน้ำเงิน ทะเบียน บจ 825 ตรัง พบบริเวณพวงมาลัยมีเลือดเปื้อนติดอยู่

นายอรุณทรให้การรับสารภาพว่าตั้งใจจะมาลงมือฆ่านายสุพรรณ เพราะตลอดระยะเวลา 2-3 ปีที่ผ่านมานายสุพรรณชอบพูดจากระแหนะกระแหนอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสพยาเสพติด หรือไม่ว่าตนจะทำอะไรก็ชอบนำไปพูดในทางไม่ดีในทางเสียหาย ก่อนเกิดเหตุเสพยาบ้าจำนวน 2 เม็ด พร้อมกับดื่มน้ำต้มกระท่อม จากนั้นขับรถกระบะออกจากบ้านมาพร้อมมีดพร้าและมีดปลายแหลม

นายอรุณทรเล่านาทีลงมือโหดว่า เมื่อไปถึงเดินเข้าทางประตูข้างบ้านพบน.ส.เพ็ญนภายืนทอดปลาเค็มทำอาหารเย็นอยู่จึงล็อกคอและเหวี่ยงออกมาทางประตูข้างบ้าน ทำให้น.ส.เพ็ญนภาล้มลงบนพื้นดินข้างบ้านและลุกไม่ขึ้น จากนั้นเดินเข้าไปตามหานายสุพรรณจนพบนั่งถ่ายอุจจาระอยู่จึงใช้อาวุธมีดปลายแหลมแทงเข้าไปที่ชายโครงด้านซ้าย 1 แผล และชายโครงด้านขวาอีก 1 แผล ก่อนจะใช้มีดพร้าฟันเข้าที่คอจนขาดหลุดออกจากตัว

ย้อนนาทีคลั่งฆ่าสยอง ตัดหัวผัวเมียเพื่อนบ้าน

นายอรุณทร นิ่มนวน คนร้าย

นายอรุณทรให้การอีกว่า ตั้งใจที่จะลงมือฆ่านายสุพรรณเพียงคนเดียว แต่น.ส.เพ็ญนภาเห็นหน้าตนแล้วจึงต้องลงมือฆ่าด้วย เพราะกลัวความผิด หลังฆ่านายสุพรรณแล้วจึงเดินออกจากบ้านตรงเข้าหาน.ส.เพ็ญนภาที่ยังนอนอยู่บนพื้นใช้มีดพร้าฟันเข้าที่คอขาดตายอีกศพแล้วรีบขับรถหลบหนี โดยตอนเกิดเหตุไม่ได้พูดคุยอะไร เหยื่อทั้งคู่เดินไปลงมือเลย

ด้านพ่อผู้ก่อเหตุให้การว่า สนิทสนมกับผู้ตายเป็นอย่างดีเพราะเป็นคนนิสัยดี แม้จะพูดจาโผงผางและไม่เคยทราบมาก่อนว่าลูกชายมีปัญหากับนายสุพรรณ ส่วนนิสัยของลูกชายเป็นคนฉุนเฉียวและเสพยาบ้า ดื่มน้ำกระท่อมมากว่า 10 ปีแล้ว ก่อนเกิดเหตุเห็นลูกชายเอามีดพร้าพร้อมขับรถออกไปโดยที่ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะลูกชายจะพกมีดพร้าเป็นประจำ และจะลับจนคมกริบอยู่เสมอ จนกระทั่งเมื่อลูกชายกลับมาบ้านเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำทันทีก็ยังไม่ได้คิดอะไร จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและตำรวจเข้ามาที่บ้าน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเสียใจเป็นอย่างมาก ได้แต่เสียใจกับครอบครัวผู้ตายด้วย

แม้ผู้ต้องหาจะอ้างว่าแค้นที่ถูกผู้ตายกระแหนะกระแหนอย่างต่อเนื่อง แต่จากการสอบสวนไม่พบว่าผู้ตายมีพฤติกรรมดังกล่าว ซ้ำทั้ง 2 ครอบครัวก็สนิทสนมกัน เชื่อว่าสาเหตุน่าจะมาจากเสพยาจนหลอนเสียมากกว่าที่เป็นชนวนเหตุสยองครั้งนี้

โดย เมธี เมืองแก้ว / ทรงวุฒิ นาคพล
เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน