คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

โดย…อดิศร จิตตเสวี เรื่อง/ภาพ

ผ่าปฏิบัติการตร.ภาค2 จับผัว-เมียแก๊งซิมเถื่อน ขายเบอร์มงคลดูดข้อมูล

อาชญากรรมในโลกออนไลน์นับวันยิ่งเพิ่มจำนวนและมีความสลับ ซับซ้อนมากขึ้น พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ที่ต้องการมุ่งเน้นป้องกันและปราบปราม จึงมีแนวคิดให้ตำรวจก้าวทันอาชญากร โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบของ กก.วิเคราะห์ข่าวฯ ให้จัด “ทีมลาดตระเวนออนไลน์” มุ่งเน้นเฝ้าระวังเชิงรุก เป็นเหมือนเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ออกตรวจตราป้องกันเหตุอาชญากรรมในโลกไซเบอร์

ผ่าปฏิบัติการตร.ภาค2 จับผัว-เมียแก๊งซิมเถื่อน ขายเบอร์มงคลดูดข้อมูล

จับผัว-เมียพร้อมของกลาง

วันที่ 9 พ.ย. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.ภ.2 เปิดเผยว่า หลังจากที่สืบภาค 2 ลาดตระเวนในโลกโซเชี่ยล แกะรอยมิจฉาชีพออนไลน์ ที่เป็นไปตามนโยบายของ พล.ต.อ. สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้แกะรอยขบวนการผลิตซิมเถื่อน SHUT DOWN BLACK-SIM

ทีมสืบสวนภาค 2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพิษณุโลก ตรวจสอบพบคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อว่า “เบอร์มงคล รหัสเปลี่ยนชีวิต” ลักลอบจำหน่ายเบอร์โทรศัพท์เลขสวยและมีการลงทะเบียนซิมการ์ดไว้แล้ว

ผ่าปฏิบัติการตร.ภาค2 จับผัว-เมียแก๊งซิมเถื่อน ขายเบอร์มงคลดูดข้อมูล

ตร.แสดงหมายจับ

พฤติกรรมกลุ่มคนร้ายจะลักลอบนำข้อมูลของประชาชนที่เคยสั่งซื้อซิมการ์ดกับกลุ่มคนร้าย ไปลงทะเบียนเปิดเบอร์ใหม่อีกจำนวนมาก โดยที่เจ้าของบัตรประจำตัวประชาชนไม่รู้เรื่อง และเมื่อกลุ่มคนร้ายลงทะเบียนด้วยข้อมูลของผู้เสียหายจนถึงกำหนดที่บุคคลคนหนึ่งจะลงทะเบียนเปิดเบอร์ได้แล้ว กลุ่มคนร้ายยังอาศัยการตัดต่อโดยปลอมแปลงบัตรประจำตัวประชาชนเดิมนั้น เปลี่ยนแปลงข้อมูลเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการรับลงทะเบียน ทำให้สามารถลงทะเบียนสั่งซื้อเบอร์โทรศัพท์ได้อย่างไม่จำกัดด้วยชื่อของผู้เสียหาย

จากนั้นกลุ่มคนร้ายจะลักลอบขายเบอร์เหล่านั้นให้กับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ประสงค์ลงทะเบียนตามกฎหมาย ใน บางรายมีราคาสูงถึง 270,000 บาท ซึ่งอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพซื้อเพื่อนำไปใช้งานทำให้ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้ยาก สร้างความเสียหายให้สังคม และเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ อีกทั้งกลุ่มคนร้ายมีประวัติต้องโทษในคดียาเสพติดและอาวุธปืน

ผ่าปฏิบัติการตร.ภาค2 จับผัว-เมียแก๊งซิมเถื่อน ขายเบอร์มงคลดูดข้อมูล

ข้อมูลโพสต์

พล.ต.ต.ธีรเดชเผยต่อว่า หลังได้ข้อมูลแน่ชัดจึงรายงานให้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ ทราบและได้ลงมาควบคุมสืบสวนจับกุมด้วยตนเอง โดยจับกุมได้ 2 ราย เป็นสามีภรรยากัน คือ นายอนุวัติ อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลกที่ จ.287/2564 ลงวันที่ 28 ตุลาคม 2564 และ น.ส.ณภษร อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพิษณุโลกที่ จ.288/2564

พร้อมด้วยของกลาง คอมพิวเตอร์ ซีพียู จำนวน 1 เครื่อง ตรวจสอบแล้วพบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ของผู้ต้องหาตัดต่อบัตรประจำตัวประชาชน จำนวนประมาณ 15,600 ภาพ เอกสารการลงทะเบียนเปิดเบอร์โทรศัพท์ที่ถูกปลอมแปลง 69 ฉบับ บัตรประจำตัวประชาชนปลอม 68 ฉบับ (68 คน) ซิมการ์ดผ่านการลงทะเบียนแล้วประมาณ 1,500 ซิมการ์ด

ผ่าปฏิบัติการตร.ภาค2 จับผัว-เมียแก๊งซิมเถื่อน ขายเบอร์มงคลดูดข้อมูล

เว็บขายเบอร์มงคล

ทั้งคู่ถูกตั้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันปลอมเอกสารราชการและใช้เอกสารราชการปลอม, ร่วมกันเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน และร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”

ทั้ง 2 ให้การภาคเสธโดยยอมรับว่าเอกสารบัตรประจำตัวประชาชนเป็นของปลอม ซิมเหล่านั้นขายให้กับกลุ่มคนในโลกออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก อาจจะมีกลุ่มมิจฉาชีพมาซื้อโดยยอมรับว่าหมายเลขที่ตนขายไปจะถูกนำไปใช้ทำอะไรบ้างก็ไม่รู้

พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากขอความร่วมมือให้ประชาชนตรวจสอบกับผู้ให้บริการโทรศัพท์โดยเร็วว่า ชื่อ-สกุลจริง ของตนถูกใช้ลงทะเบียนหมายเลขโทรศัพท์อื่นที่ไม่ใช่ของตนหรือไม่

ขอเตือนภัยประชาชน การซื้อของออนไลน์ เป็นช่องทางให้มิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ในทางมิชอบ ให้ใช้ความระมัดระวัง หากมีความจำเป็นที่จะต้องส่งข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชน ให้ขีดคร่อมหรือใส่ข้อความลายน้ำพร้อมระบุข้อความให้ชัดเจนว่าใช้เพื่อการใด อย่าชะล่าใจ อย่าไว้ใจใครในโลกออนไลน์

ด้วยความปรารถนาดีจาก ทีมลาดตระเวนออนไลน์ บช.ภ.2

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน