แฟ้มคดี – ย้อนคดีเฮโรอีนไต้หวัน ผงะโกดังปทุม-จุดผลิต เตือนรบ.ไทยเร่งปราบ ยานรกส่งขายตปท.อื้อ
กลายเป็นที่จับตามองจากทั่วโลก สำหรับกรณีการจับกุมยาเสพติดในหลายประเทศ ที่น่าตกใจว่ามีที่มาจากประเทศไทย
แถมยังมีสารพัดเทคนิค ทั้งการซุกในซองเครื่องปรุงบะหมี่สำเร็จรูป สีทาบ้าน กุ้งสด หรือกระทั่งในเนื้อไม้แปรรูป
แม้จะอ้างว่าเป็นทางผ่าน แต่ก็กลายเป็นคำถามว่าเหตุใดเจ้าหน้าที่ไทยถึงไม่สามารถตรวจสอบได้ ทั้งที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ลักลอบขนออก แต่กลับผ่านพิธีศุลกากรอย่างถูกต้อง เพียงแค่ใช้วิธีซุกซ่อนเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น ข้ออ้างว่าเป็นแค่ทางผ่าน กลายเป็นข้อสงสัยว่าจริงหรือไม่ เมื่อตรวจเจอแหล่งซุกซ่อนเฮโรอีนในไม้แปรรูปที่โกดังแห่งหนึ่งย่านจ.ปทุมธานี ที่ส่งออกไปไต้หวัน แถมยังมียันต์ไอ้ไข่ วัดเจดีย์ ซุกไปด้วย ราวกับต้องการป้องกันไม่ให้ถูกจับกุม
บรรจุในประเทศไทยกันให้เห็นชัดๆ
จึงเป็นเรื่องที่ต้องทำให้กระจ่างโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กวาดล้างขบวนการยาเสพติดเหล่านี้ ไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ว่ายานรกเหล่านี้คือสินค้าส่งออกของเมืองไทย
หากทำไม่ได้ สังคมก็อดสงสัยไม่ได้ว่าแก๊งเหล่านี้เก่งกล้าสามารถกว่าเจ้าหน้าที่ หรือจริงๆ แล้วเส้นใหญ่ ระดับเจ้าพ่อ จนไม่สามารถกวดขันจับกุมได้
สังคมกำลังติดตามดู!??
■ เฮโรอีนส่งไต้หวัน-ผ้ายันต์ไอ้ไข่
สำหรับการจับกุมยาเสพติดที่ส่งจากไทยไปต่างประเทศนั้นเกิดขึ้นหลายกรณี แต่ดูเหมือนจะมีปริมาณมากขึ้นตลอดปี 2564 ซึ่งเหตุการณ์สำคัญที่เป็นจุดสนใจ คงหนีไม่พ้นเหตุการณ์จับกุมเฮโรอีนบริสุทธิ์ น้ำหนักกว่า 500 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 6 พันล้านบาท ที่ซุกในแผ่นไม้แปรรูป ส่งจากไทยไปไต้หวัน ซึ่งถือเป็นการจับเฮโรอีนล็อตมหึมาที่สุดของไต้หวันเลยทีเดียว
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 พ.ย. 2564 โดยสื่อไต้หวัน รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 พ.ย. กรมตำรวจนครนิวไทเปของไต้หวันแถลงข่าวการยึดเฮโรอีนบริสุทธิ์ น้ำหนัก 446.8 กิโลกรัม คิดเป็นมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ หรือราว 6,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นการจับยานรกครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่ไต้หวันเคยมีมา โดยปริมาณดังกล่าวใช้สำหรับผู้เสพยาได้มากถึง 5 ล้านคน
นายเฉิน สวี้-หัว หัวหน้าอัยการแห่งสำนักงานอัยการนครนิวไทเป แถลงข่าวว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสว่าในโกดังแห่งหนึ่งในเขตไท่ซานถูกใช้เป็นที่เก็บยาเสพติด จึงบุกไปตรวจสอบ พร้อมบุกสถานที่ต่างๆ ในกรุงไทเป นครจีหลง และนครอี๋หลานด้วย
ที่โกดังแห่งดังกล่าว ตำรวจพบไม้แปรรูป 2,500 ท่อน ที่ส่งมาจากประเทศไทย ตรวจสอบด้วยเครื่องเอกซเรย์และผ่าออก พบเฮโรอีนอัดแท่งสี่เหลี่ยม 1,172 แท่ง ประทับด้วยเครื่องหมายสิงโตคู่เหยียบลูกโลก ทั้งเป็นภาษาอังกฤษและภาษาจีน พร้อมข้อความที่อ้างว่าผลิตภัณฑ์บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ซ่อนอยู่ข้างในไม้แปรรูป 118 ท่อนที่เซาะร่องตรงกลาง
จากนั้นตำรวจไต้หวันติดตามตัวและจับกุมผู้ต้องสงสัยอื่นๆ 13 คน เป็นพลเมืองออสเตรเลีย 1 คน โดยผู้ต้องสงสัย 7 คนจาก 13 คน เริ่มเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดียาเสพติดและถูกตั้งข้อหาก่ออาชญากรรม ซึ่งจะได้รับโทษจำคุกและยังถูกใช้แรงงานบังคับเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี
ทั้งนี้จากรายงานพบว่า ผู้อยู่เบื้องหลังแก๊งยาเสพติดนี้ เป็นสมาชิกของ “สหภาพไม้ไผ่” หนึ่งในกลุ่มอาชญากรจัดตั้งที่ทรงอิทธิพลที่สุดของไต้หวัน ที่ค้าเฮโรอีนออกจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำของ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย ลาว และเมียนมา ขณะที่รายงานพบว่าขบวนการยาเสพติดนี้เกี่ยวพันกับสมาชิกบางรายของก๊กมินตั๋ง ที่มาพำนักอยู่ในไทยอย่างเนิ่นนานด้วย
อย่างไรก็ตามในการจับกุม พบผ้ายันต์ ‘ไอ้ไข่ เด็กวัดเจดีย์’ ที่สื่อไต้หวันเชื่อว่าเป็นเครื่องรางของขลังของแก๊งยาเสพติด ที่ใช้เพื่อหวังจะปัดเป่าไม่ให้ถูกจับได้
ต่อมาในวันที่ 16 ธ.ค. ตำรวจบช.ปส. บุกค้นโกดังย่านคลอง 2 คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบเป็นแหล่งบรรจุเฮโรอีนดังกล่าว ส่งออกไปยังไต้หวัน เร่งสอบสวนขยายผล
ชัดเจนว่าบรรจุในประเทศไทย
■ ไปฮ่องกงอื้อ-จับได้นับสิบ
ไม่ใช่แค่ไต้หวัน ยังมีฮ่องกง ที่กลายเป็นเป้าหมายใหญ่ของขบวนการยาเสพติด โดยในรอบปี 2564 พบข้อมูลว่ามีการลักลอบขนยาเสพติดจากไทย เข้าไปฮ่องกงแล้วถึง 8 ครั้ง
โดยที่สำคัญๆ และตกเป็นข่าวครึกโครม อาทิ เมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2564 ศุลกากรฮ่องกงยึดเฮโรอีนต้องสงสัยราว 23.5 กิโลกรัม ด้วยมูลค่าตลาดราว 29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 900 ล้านบาท จากด่านศุลกากรไควชุง โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบสินค้าที่ส่งมาจากประเทศไทย เมื่อตรวจสอบสินค้าที่สำแดงเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้า พบเฮโรอีนต้องสงสัยซุกซ่อนภายในช่องทำขึ้นปลอมของเครื่องกรองน้ำ 13 เครื่อง และเครื่องชงกาแฟ 9 เครื่อง
จับกุมชายได้ 2 คน วัย 27 ปี และ 47 ปี ต้องสงสัยมีความเชื่อมโยงกับคดีดังกล่าวในละแวกเหยาหม่าเต๋ และละแวกซึนวาน ตามลำดับ
ต่อมา วันที่ 22 ก.ค.2564 ศุลกากรตรวจสอบสินค้าที่สำแดงเป็น “ขนม” จากไทย ขนส่งมาทางเรือและขึ้นฝั่งที่สถานีคอนเทนเนอร์ไควชุง และพบเฮโรอีน 61 กิโลกรัม ซุกซ่อนในซองเครื่องปรุงรสของเส้นหมี่กึ่งสำเร็จรูป พร้อมจับกุมชาย 2 คน และหญิง 1 คน ซึ่งนับเป็นการบุกทลายเฮโรอีนครั้งใหญ่สุดในรอบ 20 ปี ประเมินมูลค่าตลาดราว 65 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 275 ล้านบาท
วันที่ 11 พ.ย. ว่า ศุลกากรฮ่องกงยึดเฮโรอีนต้องสงสัยน้ำหนักราว 2.2 กิโลกรัม ที่มีมูลค่าตลาดโดยประมาณราว 3.5 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือราว 14.7 ล้านบาท ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง โดยเจ้าหน้าที่ศุลกากรตรวจสอบสินค้าที่ส่งมาทางอากาศ ซึ่งสำแดงเป็น “เครื่องครัว” ส่งจากประเทศไทยมาฮ่องกง พบเฮโรอีนจำนวนหนึ่งซ่อนใน กระป๋องแป้งทาตัว 6 กระป๋อง
วันที่ 24 พ.ย. ศุลกากรฮ่องกง ตรวจยึดเมตแอมเฟตามีน หรือ ยาไอซ์ ในรูปของเหลวที่ถูกบรรจุซอง น้ำหนักรวม 12 กิโลกรัม มูลค่า 10 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 43 ล้านบาท สำแดงว่า เป็นกุ้งแช่แข็งที่ขนส่งมาจากประเทศไทย ตรวจสอบพบยาไอซ์แบบเหลวยัดอยู่ในซองน้ำแข็งแช่มากับกุ้งสดในกล่องโฟม 6 กล่อง ที่ขนมากับบริการขนส่งสินค้าทางอากาศหรือแอร์ คาร์โก เจ้าหน้าที่ได้จับกุม ผู้ต้องสงสัยเป็นชาย 3 คน อายุระหว่าง 23-47 ปี
จับกุมกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว
■ จี้รัฐปราบแก๊งยานรก
และไม่ใช่แค่ต่างประเทศที่สามารถจับกุมยาเสพติดที่ส่งไปจากประเทศไทย ในส่วนของเจ้าหน้าที่ไทยเองก็สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามที่รับผิดชอบได้เช่นกัน
โดยเมื่อ วันที่ 16 ก.ค. 2564 นายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามยาเสพติดระหว่างท่าเรือสากลของอาเซียน ร่วมจับกุม นายกรวิก (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี พร้อมยาไอซ์ 10 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่ในที่นอน ณ บริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่ง ย่านนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ ขณะเตรียมจัดส่งออกไปฮ่องกง ทางเรือ
นอกจากนี้ ขยายผลจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มอีก 2 ราย ได้แก่ น.ส.ณัชรี (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี และ นายคริสเตียน ชิบูไอกี เอ็มมานูเอล (MR.Christian Chibuike Emmauel) อายุ 31 ปี สัญชาติไนจีเรีย ภายในบ้านเช่าหลังหนึ่ง ต.บางนางร้า อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา
ซึ่งเป็นจุดแพ็กยาเสพติด พบที่นอนลักษณะเดียวกันซุกซ่อน ยาเสพติด และอุปกรณ์ที่ใช้ในการแพ็ก จากการสอบปากคำผู้ต้องหาชาวไนจีเรีย เบื้องต้นทราบว่ายาเสพติดถูกส่งมาจาก สปป.ลาว
ทั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งเร่งขยายผลสืบสวนถึงผู้สั่งการในการลักลอบส่งออกยาเสพติดไปยังต่างประเทศ โดยเฉพาะคดีเฮโรอีน 314 กิโลกรัม ที่ซุกซ่อนในถังสีเตรียมส่งออกไปยังออสเตรเลีย ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ขณะที่ผู้สั่งการ คือ นายเอก หรือ เก่ง อ่อนเอี่ยม อายุ 38 ปี รับแจ้งว่าหลบหนีไปอาศัยยัง สปป.ลาวแล้ว
ผลของการประสานออสเตรเลีย ทำให้ตำรวจเครือรัฐออสเตรเลียจับกุมชายชาวซิดนีย์ 2 คน ได้แก่ นายอีแวน อิชเชก วัย 38 ปี และชายผู้ไม่เปิดเผยชื่อวัย 41 ปี หลังทั้งสองวางแผนนำเข้าเฮโรอีน 314 กิโลกรัม มูลค่า 117 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ราว 3,800 ล้านบาท จากไทย ได้เมื่อวันที่ 18 พ.ย. 2564
หลังจากใช้เวลา 4 เดือน กลั่นกรองข้อความของสองผู้ต้องสงสัย ซึ่งเชื่อมโยงนามแฝงออนไลน์กับชื่อจริง นำมาสู่การจับกุม จากการค้นบ้านสองหลังอีกครั้ง
ถือเป็นผลงานที่ประสานข้อมูลร่วมกับเจ้าหน้าที่ไทย แต่ก็ยังเป็นส่วนน้อยของการส่งออกยาเสพติดในเวลานี้ กลายเป็นคำถามว่าพ่อค้ายาเหล่านี้เก่ง หรือมีอิทธิพลมากเกินกว่ารัฐหรืออย่างไร
หากไม่ใช่ก็ต้องเอาจริงเอาจัง ก่อนจะเสียชื่อเสียงไปมากกว่านี้!!