คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

โดย – สมภพ สนเวส เรื่อง/ภาพ

วงจรปิดนาทีระทึกปู่เจ้า!! แฟนเก่าติดจีพีเอสรถสาว ตามยำหนุ่มใหม่คาไฟแดง

ภาพจากกล้องวงจรปิดหน้าโรงงานแห่งหนึ่งริมถนนรถรางสายเก่า ใกล้สี่แยกถนนปู่เจ้าสมิงพราย ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 10 ม.ค. สร้างความระทึกให้ผู้พบเห็นราวกับ หลุดออกจากภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญ

ฉากที่เห็นเป็นภาพยานพาหนะนานาชนิด จอดติดสัญญาณไฟแดงที่แยกดังกล่าว จากนั้นมีรถเก๋งสีขาวคันหนึ่งขับเลาะมาตามช่องจราจรซ้ายสุด ก่อนไปจอดประกบรถเก๋งสีดำที่จอดรอไฟแดงอยู่ที่ช่องจราจรขวา

นาทีรุมยำ

จู่ๆ มีชายฉกรรจ์ 3 คน กรูลงจากรถเก๋งสีขาวพุ่งเข้าไปกระโดดถีบกระจกประตูหน้าฝั่งซ้ายของรถเก๋งคันสีดำ หลังเกิดเหตุชุลมุนอยู่พักใหญ่ชายที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับก็ถูกลากตัวลงมาจากรถ และโดนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุมกระทืบต้องวิ่งหนีกระเซอะกระเซิง

แต่สุดท้ายก็ไม่อาจหนีรอดชะตากรรม ถูกรุมเตะจนต้องนอนฟุบแน่นิ่งบนพื้นถนน ท่ามกลางชาวบ้านที่พากันเข้าไปห้ามปรามกลุ่ม ผู้ก่อเหตุ








Advertisement

จังหวะนั้นหญิงสาวผู้ขับเก๋งสีดำเดินลงจากรถพยายามเดินข้ามถนน แต่มีชายเสื้อดำตรงเข้าจิกผมฝ่ายหญิงลากเข้าไปนั่งบริเวณเบาะด้านหลังรถเก๋งสีดำ ก่อนพากันขับหลบหนีไป

พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.สำโรงเหนือ พร้อมร.ต.อ. นครินทร์ จำปานิล รองสว.สอบสวน รีบนำกำลังรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีหลังรับแจ้ง

หนุ่มเหยื่อรุมยำยังนั่งงงกับชีวิต

นายสถาพร ป้องศรี อายุ 25 ปี คือชื่อของชายเหยื่อแก๊งอหังการ กำลังนั่งอยู่ริมถนนในลักษณะมึนงง สภาพหน้าตาบวมปูด ตามใบหน้าและลำตัวมีบาดแผลและร่องรอยการถูกทำร้ายหลายแห่ง

ให้การว่านั่งรถยนต์ที่น.ส.ปาริชาติ พูนขวัญ อายุ 31 ปี แฟนสาวที่เพิ่งคบกันเป็นคนขับ

ขณะจอดติดสัญญาณไฟแดงที่แยกดังกล่าว จู่ๆ กลุ่มคนร้ายทุบกระจกประตูหน้าฝั่งซ้ายที่นั่งอยู่จนแตกแล้วชกต่อยและใช้เท้าถีบทำร้ายทันทีโดยไม่ทันได้ตั้งตัวจนสลบคาถนน โชคดีมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เข้ามาช่วยห้ามไว้ ส่วนแฟนสาวทราบว่าถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุฉุดตัวไป

เจ้าหน้าที่รีบกระจายกำลังออกติดตามรถทั้ง 2 คัน แต่ก็ไร้ร่องรอย จึงส่งผู้บาดเจ็บไปรักษาบาดแผล ก่อนนัดมาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

สาวคนกลางให้การตำรวจ

นอกจากนั้นยังสามารถติดต่อน.ส.ปาริชาติได้ โดยหญิงสาวยืนยันว่าปลอดภัยดี สำหรับกลุ่มผู้ก่อเหตุคือนายศุภวิช นิจศรีวงษ์ อายุ 28 ปี แฟนเก่าที่เพิ่งเลิกรากันไป พร้อมพวก พาไปส่งที่บ้านพักใน จ.นครปฐม หลังเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่จึงประสานเข้ามาให้ปากคำพร้อมนายสถาพร รวมถึงติดต่อให้กลุ่มนายศุภวิชเข้ามามอบตัวในวันที่ 11 ม.ค.พร้อมกัน

เมื่อถึงเวลานัดหมายน.ส.ปาริชาติก็เข้าพบพนักงานสอบสวนให้การว่า ก่อนเกิดเหตุขับรถไปรับนายสถาพรที่กำลังเริ่มคบหากัน เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ นายศุภวิชพร้อมพวกอีก 3 คน ขับรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ สีขาว ทะเบียน 5 กฌ 7954 กรุงเทพมหานคร ผ่านมาพบและขับมาประกบด้านข้างแล้วลงมาทำร้ายนายสถาพร ก่อนขอร้องให้น.ส.ปาริชาติกลับบ้านเพื่อพูดปรับความเข้าใจกัน โดยฝ่ายสาวยืนยันว่าจังหวะนั้นยอมทำตามอีกฝ่ายทันทีไม่ได้ต่อสู้ขัดขืนอะไร

จุดเกิดเหตุ

ก่อนหน้านี้คบหากับนายศุภวิชนานกว่า 4 ปี มาระยะหลังอีกฝ่ายเริ่มทำร้ายร่างกายตน จากเหตุหึงหวง จนตนไม่สามารถทนได้ กระทั่งตนตัดสินใจบอกแยกทางและเพิ่งเก็บข้าวของออกจากบ้านนายศุภวิชกลับไปอยู่บ้าน ที่จ.นครปฐม เพียง 3 วัน หลังเลิกรากับนายศุภวิชจึงกลับไปคุยกับนายสถาพร พร้อมยืนยันว่าเลิกกับแฟนแล้ว

ที่ผ่านมาทราบว่าอดีตแฟนหนุ่มเคยนำจีพีเอสมาติดไว้ที่รถ แต่พยายามหาแล้วไม่เจอ วันเกิดเหตุขับรถมาหานายสถาพรโดยไม่คิดว่านายศุภวิชจะตามมาก่อเหตุ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด หลังจากนี้จะไม่กลับไปคบหากับนายศุภวิชอีกแล้ว กลัวจะไม่ปลอดภัยกับชีวิต

ด้านนายศุภวิชพร้อมพวกที่ร่วมกันก่อเหตุเข้าพบพนักงานสอบสวน สารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุ ยอมรับผิดว่าทำเกินกว่าเหตุ แต่บันดาลโทสะที่ทราบว่าน.ส.ปาริชาติคบซ้อน ก่อนหน้านี้เคยแช็ตไปคุยกับนายสถาพรแล้วว่าให้เลิกติดต่อกับน.ส.ปาริชาติ โดยนายสถาพรก็รับปากและอ้างว่าเป็นลูกผู้ชายพอ แต่กลับมาแอบติดต่อกัน

เมื่อจับได้คาหนังคาเขาจึงบันดาลโทสะจนควบคุมตัวเองไม่ได้ก่อเหตุดังกล่าว จากนี้ไปคงไม่กลับไปคบอีกฝ่ายแล้ว ถึงแม้ว่ายังรักอยู่ก็ตาม

กลุ่มผู้ก่อเหตุมอบตัว

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหานายศุภวิชพร้อมพวก ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับบาดเจ็บ หรือเป็นอันตรายแก่กาย หรือจิตใจ ส่วนบทลงโทษตามกฎหมายจะหนักเบาแค่ไหนให้อยู่กับความเมตตาของท่านผู้พิพากษา

ส่วนไอ้หนุ่มเหยื่อรุมยำคงต้องไปรดน้ำมนต์แก้ซวยขนานใหญ่ เพราะเพิ่งรู้จักกับฝ่ายสาวผ่านแอพพลิเคชั่นแช็ตชื่อดัง ตกลงคบกันได้ประมาณ 1 เดือน และวันเกิดเหตุก็เพิ่งนัดพบกันครั้งแรกยังเกือบเอาชีวิตไม่รอดเสียแล้ว

สมภพ สนเวส เรื่อง/ภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน