นับเป็นคดีสำคัญที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องเร่งคลี่คลาย ปล่อยผ่านไปไม่ได้เด็ดขาด

สำหรับเหตุระทึกขวัญ ที่คนร้ายก่อเหตุขับเก๋งประกบรถตู้ของนายกอบต.ที่นครนายก ก่อนสาดกระสุนเข้าใส่ ก่อเหตุอย่างอุกอาจเหมือนบ้านเมืองไม่มีขื่อมีแป

แม้ตัวนายกอบต.ที่เป็นเป้าสังหารรอดชีวิตมาได้หวุดหวิด ก็ยังมีผู้สูญเสียถึง 2 ราย

เมื่อตรวจสอบก็เชื่อได้ว่าปมสั่งตายครั้งนี้เป็นเรื่องความขัดแย้งการเมืองท้องถิ่น และความขัดแย้งในการตรวจสอบทุจริตภายในองค์กร นำมาซึ่งการสอบสวนจนสามารถขออนุมัติหมายจับได้ 3 ราย

จับกุมและเดินทางเข้ามอบตัวจำนวนหนึ่ง

แม้จะให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่หลักฐานที่เจ้าหน้าที่มีก็รัดกุม

แต่เชื่อได้ว่ายังไม่สิ้นสุด เพราะน่าจะมีบิ๊กบอสผู้บงการ ที่ยังคงลอยนวล

แต่คงหลุดรอดได้ไม่เท่าไหร่ อยู่ที่เวลาเท่านั้น และถ้าสกัดได้ไม่ให้หลบหนีออกจากพื้นที่








Advertisement

เวลาที่อยู่รอดปลอดภัยนอกคุกคงจะมีได้อีกไม่นาน

กุมารดำ

อาก้าถล่มรถนายกอบต.

เหตุการณ์ระทึกขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกของวันที่ 14 ก.พ. โดยตำรวจสภ.ดงละคร อ.เมือง จ.นครนายก รับแจ้งเหตุมีการยิงกันมีคนเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุบริเวณถนนสายปากท่อ-เตยน้อย ระหว่าง ก.ม.3-4 ม.2 ต.ศรีจุฬา อ.เมืองนครนายก

ที่เกิดเหตุพบรถยนต์คนตายทราบชื่อนายสมชาย ม่วงกาศ อายุ 63 ปี รองนายกอบต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนอาก้า เข้าที่บริเวณลำตัวด้านขวา ทะลุหลัง 1 นัด และที่ต้นขาซ้าย

อีกศพคือ นายวัชระ นุชแดง อายุ 52 ปี คนขับรถ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนิดเดียวกัน เข้าที่บริเวณลำตัวและขา รวม 3 นัด เสียชีวิตอยู่ตรงที่นั่งคนขับ

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน ถูกนำส่งร.พ.มศว องครักษ์ จ.นครนายก คือนายญาณกร โท้ประยูร อายุ 44 ปี เป็นนายกอบต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ จ.นครนายก ที่เพิ่งได้รับเลือกเข้ามา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเข้าที่บริเวณไหล่ซ้ายกระสุนทะลุ และเข้าที่ขาข้างซ้าย 2 นัด อาการสาหัส ญาติและคนใกล้ชิดเฝ้าคุ้มกันอย่างใกล้ชิด เพราะเกรงคนร้ายจะบุกมาลงมือถึงโรงพยาบาล

สอบสวนทราบว่า ก่อนหน้านี้นายญาณกรไปร่วมประชุมนายก อบต.ทั้งจังหวัด รวม 39 อบต.ที่บ้านต้นไม้-สายน้ำรีสอร์ต ต.สาริกา อ.เมืองนครนายก เพื่อเลือกเฟ้นหาคณะกรรมการในการการพัฒนาท้องถิ่น จากนั้นช่วงเย็น ร่วมรับประทานอาหารกันที่รีสอร์ต จนกระทั่งดึก

ต่อมาช่วงดึก นายญาณกร และนายสมชาย ก็เดินทางกลับ โดยนั่งรถตู้ ที่มีนายวัชระ เป็นคนขับ โดยมีที่ปรึกษานายกอบต.อีกคนนั่งอยู่เบาะแถว 3 เดินทางมาตามเส้นทางดังกล่าว พอถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายขับรถเก๋งสีขาว ที่คาดว่าจะตามประกบมาตั้งแต่ออกจากงานเลี้ยง แซงขึ้นด้านขวาพร้อมสาดกระสุนใส่จนเป็นเหตุให้มีคนเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ด้านนายชาญ เจริญรุ่งเรือง ที่ปรึกษานายกที่นั่งอยู่บริเวณที่นั่งแถว 3 ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บจากคมกระสุน ระบุว่า สาเหตุที่ไปร่วมงานเลี้ยงเพราะมีนายกอบต.ตำบลหนึ่งโทรศัพท์มาตามให้ไปร่วมงานให้ได้ แต่หลังจากร่วมงานเลี้ยงได้สักพัก ก็ขอตัวกลับ มาถึงที่เกิดเหตุ มีรถเก๋งสีขาว ขับแซงขึ้นมาแล้วใช้ปืนกระหน่ำยิงจากด้านขวา ตอนนั้นตนบอกให้นายกหมอบลง ขณะที่รองนายกก็ใช้ตัวเองกันนายกไว้

พอรถเสียหลักตกข้างทาง มือปืนก็ขับรถหลบหนีไป ตนจึงประคองนายกออกมาจากรถแล้วโทรศัพท์ให้คนมาช่วยเหลือ

ลงมืออุกอาจท้าทายกฎหมายอย่างยิ่ง!!

จับนายธวัชชัย

ล่ามือปืน-สาวถึงผู้บงการ

เรื่องตอบโต้การเมืองก็ส่วนหนึ่ง แต่ในด้านคดีความก็ดำเนินต่อไป จนกระทั่งศาลจังหวัดนครนายก อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ประกอบด้วย 1.นายรัฐพล ตันสุวรรณรัตน์ หรือ ‘บิ๊ก’ ฉายากุมารขาว อายุ 35 ปี 2.นายภูริวัฒ นิ่มเรือง หรือ ‘อ็อด’ ฉายากุมารดำ อายุ 52 ปี และ 3.นายธวัชชัย ศรีชาญ หรือ ‘วัช’ อายุ 48 ปี

จากนั้นเช้ามืดวันที่ 22 ก.พ. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ หนุมาน, บูรพา 491 และ บก.สส.ภ.2 กว่า 300 นาย ปูพรมล่าตัวคนร้าย กระจายกำลังเข้าตรวจค้นเป้าหมายในพื้นที่ ต.บางสมบูรณ์ และใกล้เคียง

และจับกุมนายธวัชชัย 1 ใน 3 ผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ หลังแนวทางการสืบสวนพบว่า นายธวัชชัย คือผู้ที่นำรถยนต์คันที่ก่อเหตุไปซุกซ่อนเพื่ออำพรางคดี พร้อมกันนี้ยังตรวจยึดรถยนต์ฮอนด้า เอชอาร์วี ต้องสงสัยอีก 1 คันมาตรวจสอบด้วย ภายในบ้านยังพบอาวุธปืนลูกซองยาว ยี่ห้อ commando 1 กระบอก อาวุธปืนพกสั้น ยี่ห้อ Colt ขนาด 9 ม.ม. 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองขนาด 12 อีก 4 นัด กระสุนปืนพกขนาด .38 จำนวน 20 นัด, จีพีเอสใช้สะกดรอยติดตามรถยนต์ 1 เครื่อง, แผ่นป้ายทะเบียนปลอม 1 แผ่น

อดีตนายกโต้

ขณะที่เจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา อ้างว่าวันเกิดเหตุนั่งกินหมูกระทะกับนายรัฐพล เมื่อทราบข่าวว่านายญาณกรถูกยิง ยังออกไปดูเหตุการณ์ ยอมรับสนิทกับอีก 2 คนที่ถูกหมายจับ และนายประสพโชค อดีตนายกฯ เพราะเคยลงสมัครนายกอบต.ศรีจุฬาด้วย

เจ้าหน้าที่ยังบุกค้นบ้านพักนายรัฐพล ที่บ้านเลขที่ 44 ม.11 ต.บางสมบูรณ์ อ.องครักษ์ ไม่พบตัวนายรัฐพล พบเพียงภรรยาซึ่งให้การว่านายรัฐพล ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 19 ก.พ. แต่พบโทรศัพท์ของนาย รัฐพลถูกทิ้งเอาไว้ที่บ้าน

ขณะที่นายภูริวัฒ หรือกุมารดำ ได้เข้ามอบตัวที่สภ.ดงละคร เมื่อวันที่ 24 ก.พ. ให้การปฏิเสธทั้งหมด

ทั้งนี้มีรายงานว่าสำหรับนายภูริวัฒ นิ่มเรือง เป็นน้องชายของนายประสพโชค นิ่มเรือง อดีตนายกอบต.บางสมบูรณ์ ส่วนนายรัฐพลเป็นลูกน้องคนสนิท

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังพบรถยนต์มิตซูบิชิ ทะเบียน ษม 1898 ที่ใช้ก่อเหตุและเกิดเฉี่ยวชนกับรถตู้ของนายญาณกร เสียหาย พบนำมาเตรียมซ่อมจอดอยู่ที่ถนนใน อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงอายัดรถไปตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมขยายผลให้ได้โดยเร็ว

อดีตนายกยันไม่เกี่ยวข้อง

ขณะที่สาเหตุการลงมือครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมเป็นความขัดแย้งเรื่องการเมืองท้องถิ่น เนื่องจากพบว่านายญาณกร ที่เป็นนายกอบต.คนใหม่ กำลังตรวจสอบโครงการพัฒนาการท่องเที่ยวทางน้ำ ตามรอยเสด็จรัชกาลที่ 5 ซึ่งมีการก่อสร้างอาคารชั้นเดียว และแพ 2 หลังเป็นแหล่งท่องเที่ยว

แต่ปรากฏว่าแพดังกล่าวหายไป 1 หลัง เมื่อตรวจสอบพบข้อมูลถูกนำไปใช้ส่วนตัว รวมทั้งการตรวจสอบการใช้งบประมาณที่ผ่านมาในอดีต

จนอาจเป็นชนวนเหตุสั่งตายได้

ทั้งนี้อดีตนายกอบต.บางสมบูรณ์ นายประสพโชค นิ่มเรือง ก็ออกมาชี้แจงทันทีว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง พร้อมแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการเข้าพบตำรวจที่บก.ภ.จว.นครนายก พร้อมเปิดเผยว่า ไม่ใช่การมาให้ปากคำ แต่แค่มาพูดคุย โดยตำรวจก็ได้ถามว่าตนเองไปทำอะไรมาบ้าง ตนก็บอกไปลักษณะเป็นการไล่ไทม์ไลน์ ตั้งแต่ช่วงก่อนที่เกิดเหตุและหลังเกิดเหตุ

ทั้งนี้วันเกิดเหตุตนไปร่วมประชุม และอยู่ในงานเลี้ยงชมรมอบต.นครนายกด้วย แต่ไม่ได้รู้เห็นกับเหตุการณ์ดังกล่าว และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มที่

ส่วนความขัดแย้งกับนายกอบต.คนปัจจุบัน นายประสพโชค บอกว่า ถ้าจะมีความขัดแย้งก็น่าจะเป็นเรื่องที่ตนเองไปร้องเรียนเรื่องคุณสมบัติของนายญาณกร ในการเป็นนายกอบต. เนื่องจากว่า นายญาณกรเคยถูกศาลพิพากษาให้จำคุกในคดีความผิดเกี่ยวกับเช็คเมื่อปี 47-48 ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คิดไม่ออกว่าจะมีความขัดแย้งอะไร

กุมารขาว

ต่อมาวันที่ 24 ก.พ. นายประสพโชค เปิดแถลงอีกครั้งที่พรรคพลังท้องถิ่นไท เขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ยืนยันว่า ไม่ใช่คนบงการคดีใช้อาวุธสงครามลอบยิงถล่มรถตู้นายญาณกร

แต่ยอมรับว่า รู้จักนายภูริวัฒ ฉายากุมารดำ และนายรัฐพล หรือ บิ๊ก ฉายากุมารขาว อีกทั้งผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับ ในฐานะญาติและเจ้านายกับลูกน้อง เพราะมีความสนิทสนมกับทุกคน ในฐานะที่เป็นอดีตนายกอบต. แต่จะไปก่อเหตุหรือไม่ ไม่สามารถรับรู้ได้

เป็นคำยืนยันจากอดีตนายกอบต.

ส่วนจะพาดพิงไปถึงใครที่เป็นผู้บงการนั้น อีกไม่นานคงคลี่คลาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน