สังคมจี้ล่าความจริงสาเหตุ‘แตงโม’ดับคลี่ปมนั่งฉี่ท้ายเรือแม่เรียกทำขวัญ30ล.
แฟ้มคดี
เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจในสังคมอย่างยิ่ง สำหรับการเสียชีวิตของดาราสาว แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ที่ตกจากเรือ สปีดโบ๊ตหรูกลางแม่น้ำเจ้าพระยา
เนื่องจากสังคมยังตั้งคำถามถึงสาเหตุการตกจากเรือว่าเกิดขึ้นตามที่กลุ่มเพื่อน และผู้จัดการ ที่ล่องเรือดื่มไวน์กันว่า เป็นเพราะเดินไปปัสสาวะท้ายเรือ ก่อนพลาด ร่วงลงไป หรือมีสาเหตุอื่น
จะเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ หรือเป็นเรื่องความประมาทของใครที่ต้องรับผิดชอบ
แม้ล่าสุดศาลจะอนุมัติหมายจับ 2 คนขับเรือในข้อหาประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต
แต่เบาะแสก็ยังถูกขุดคุ้ยไม่จบสิ้น เพื่อตอบให้ได้ว่าความจริงของใครเล่า ที่จริงแท้ถึงที่สุด
ลามไปถึงเรื่องทัศนคติต่อเหตุการณ์ ดังกล่าว ทั้งจากกลุ่มเพื่อนและผู้จัดการ ตลอดจนการเตรียมเรียกค่าเสียหาย จากการเสียชีวิตเป็นมูลค่าสูงกว่า 30 ล้าน จากแม่ของดาราสาว
ทั้งหมดล้วนกลายเป็นประเด็นถกเถียงที่เกิดขึ้นจากความตายของดาราสาว
ที่รอเพียงบทสรุปว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
‘แตงโม-นิดา’ตกเรือจมดับ
เหตุการณ์สลดครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 24 ก.พ. โดยช่วงเวลาประมาณ 5 ทุ่ม เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูรับแจ้งว่ามีหญิงสาวตกน้ำสูญหายไปในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณใกล้เคียงท่าเรือพิบูลสงคราม จ.นนทบุรี ใกล้สะพานพระราม 7
เมื่อเข้าตรวจสอบพบสปีดโบ๊ตลอยลำอยู่ ภายในมีชาย-หญิงประมาณ 3-4 คน กำลังล่องเรือตามหาผู้สูญหาย โดยทราบ ต่อมาผู้สูญหายคือ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ดารานักแสดงสาว ทั้งนี้ชายหญิงที่เป็นกลุ่มเพื่อนของแตงโม ให้ข้อมูลว่าช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ขณะที่ล่องเรือแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงสะพานพระราม 7 แตงโมที่นั่งอยู่ท้ายเรือพลัดตกลงไปกลางแม่น้ำ เพื่อนๆ ช่วยกันวกเรือกลับมาดู แต่ไม่พบ จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยค้นหา ขณะที่ชาวบ้านที่อยู่ละแวกดังกล่าวได้ยินเสียงคนร้อง ก่อนเงียบหายไป
หลังจากได้ข้อมูล เจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยงานพร้อมชุดประดาน้ำ ลงดำน้ำหาร่าง สแกนพื้นที่ทั้งหมดอย่างเร่งด่วน เช่นเดียวกับดาราศิลปินที่มีเครื่องไม้เครื่องมือต่างพากันมาช่วย คนในสังคม และโลกออนไลน์พยายามแชร์ข้อมูลที่คิดว่าเป็นประโยชน์ ทั้งชุดที่ใส่วันตกเรือ และข้อมูลต่างๆ เพื่อเป็นเบาะแส
จนกระทั่งรุ่งเช้าของวันที่ 25 ก.พ. ก็ยังไม่พบ
เจ้าหน้าที่ปรับแผนใหม่ เนื่องจากรวมทั้งสภาพน้ำมีความเย็นและความลึก 17-20 เมตร ทำให้การค้นหาเป็นไปอย่างลำบาก โดยมีการจัดกำลังชุดประดาน้ำเพิ่มเติมอีกกว่า 50 นายในการค้นหาจากระยะ 2 กิโลเมตร เป็น 10 กิโลเมตร และปรับเปลี่ยนจากการงมใต้น้ำมาเป็นตามหาบนผิวน้ำแทน เพราะใกล้ครบ 24 ชั่วโมง
ในที่สุดก็พบร่างในเวลา 13.00 น. ของวันที่ 26 ก.พ. โดย เจ้าหน้าที่กู้ภัยพบร่างของแตงโมอยู่ห่างจากโป๊ะเรือท่าเรือพิบูลสงคราม 1 เพียงไม่กี่ร้อยเมตร ลอยอยู่กลางแม่น้ำเจ้าพระยา สภาพศพสวมเสื้อคลุมสีน้ำตาลชุดเดิม รวมระยะเวลาหลังจากที่ตกเรือแล้ว 34 ชั่วโมง
ขณะที่ผลการชันสูตรศพแตงโม แพทย์ระบุว่า เสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ในหลอดลม ปอด กระเพาะอาหารมีน้ำและโคลน สรุปได้ว่าตกน้ำและสำลักน้ำ ส่วนบาดแผลตามร่างกายที่ขาขวาเป็นร่องรอยแผลใหญ่ และขาซ้ายเป็นร่องรอยแผลขนาดเล็ก เกิดจากของมีคมไม่ทราบชนิด ต้องเปรียบเทียบกับสิ่งของอาทิใบพัดเรือว่าตรงกันหรือไม่
สังคมต่างไว้อาลัยกับการสูญเสียครั้งนี้
เพื่อนยันไปนั่งฉี่ท้ายเรือ
ขณะที่ทางคดีเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งสอบสวนคลี่คลายสาเหตุ ของการตกเรือเสียชีวิต ซึ่งเป็นคดีตั้งแต่ นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโม เข้าไปแจ้งความที่ สภ.เมืองนนทบุรี โดยสรุปเหตุการณ์ได้ว่า ก่อนเกิดเหตุในเวลา 16.00 น.ของวันที่ 24 ก.พ. นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือ ปอ TNP กระติก-อิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ ผู้จัดการส่วนตัวของแตงโม แซน-วิศาพัช มโนมัยรัตน์ นายไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ หรือ เบิร์ต และจ๊อบ-นิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร ทั้ง 6 คน ใช้สปีดโบ๊ตชื่อ COBALT ออกเดินทาง จากอู่จอดเรือ NBC หมู่ 3 ต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรี
โดยเจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี จับกุม นายตนุภัทร หรือปอ และนายไพบูลย์ หรือเบิร์ต ในข้อหากระทำโดยประมาท และการกระทำนั้นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ผู้ฝ่าฝืนใช้เรือ ที่มีได้รับใบอนุญาตใช้เรือ หรือที่ใบอนุญาตใช้เรือสิ้นอายุแล้ว หรือผิดไปจากเขตหรือตำบลการเดินเรือที่กำหนด ไว้ในใบอนุญาต
ด้านปอ-ตนุภัทร ระบุว่า ระหว่างขับเรือมาบริเวณสะพานพระราม 7 แตงโมเดินไปท้ายเรือ ที่มีแซนนั่งอยู่แล้วปัสสาวะ ที่ท้ายเรือ จังหวะนั้นแตงโมจับขาแซนที่นั่งอยู่ตอนจะลุกขึ้น แล้วพลัดตกเรือไป แซนตะโกนบอกว่าแตงโมตกเรือ จึงวนกลับมาดู ช่วยกันตะโกนประมาณ 20 นาที ตนและเพื่อนอีก 2 คนพยายามโหนเอาไฟส่องตามโป๊ะและริมตลิ่ง แต่ไม่พบ จนกระติกโทรศัพท์หา 191 และประสานอู่เรือที่รู้จักมาช่วยหาด้วย
ยอมรับว่าดื่มไวน์กันทั้งที่ร้านอาหารและบนเรือ แต่ไม่ได้เมา และไม่ได้ขับเร็ว ส่วนที่มาพบตำรวจในวันรุ่งขึ้น ไม่ได้ประวิงเวลา แต่ต้องใช้เวลาตั้งสติ อีกทั้งวันเกิดเหตุก็ช่วยกันวนหาตั้งแต่ 22.00-02.00 น. ก่อนกลับไป ยืนยันไม่ได้หลบหนี
ซ้ำเกิดเหตุอีกเมื่อจ๊อบ ลูกน้องของปอ ถูกพบว่ามีรอยช้ำและรอยข่วน เมื่อสื่อบันทึกภาพ กลับถูกกดดันให้ฟอร์แมตเมมโมรี่การ์ด ชี้แจงว่าที่ทำลงไปเพราะไม่อยากให้มีประเด็นเพิ่มเติม
ด้านแซน-วิศาพัช เล่าถึงเหตุการณ์นาทีเกิดเหตุว่า อยู่กับแตงโมเป็นคนสุดท้าย ระบุว่าก่อนเกิดเหตุแตงโมเดินไปปัสสาวะท้ายเรือ ขณะที่เรือวิ่งอยู่ แล้วใช้มือเกาะขา 2 ข้างของตนไว้ ตอนนั้นกำลังนอนเล่นมือถือ พอแตงโมลุกก็เสียหลักตกน้ำ จนตะโกนให้เพื่อนๆ ช่วย
กระติก ผู้จัดการแตงโม ยอมรับว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าแตงโมไปปัสสาวะ เพราะมีรุ่นพี่แนะนำ กลัวจะเสียภาพลักษณ์ จนสุดท้ายเลยต้องบอกความจริงว่าแตงโมไปปัสสาวะ
อย่างไรก็ตาม มีประเด็นเรื่องข้อสงสัยว่าทำไมมีแซนคนเดียวที่เห็นแตงโมไปปัสสาวะ จนเกิดข้อสงสัยไม่ว่าจะเป็นการ ขับเรือกระชากจนเสียหลัก หรือเสียงปริศนาในคลิปของแตงโมวันเกิดเหตุ
เป็นเรื่องที่ต้องพิสูจน์กันต่อไป
อย่างไรก็ตาม ผลตรวจพิสูจน์ใบพัดเรือและบริเวณท้ายเรือ ตรวจพบเส้นผมของแตงโมอยู่จำนวนหนึ่ง จึงทำให้เชื่อได้ว่าแตงโมน่าจะตกลงในแม่น้ำที่บริเวณท้ายเรือ ตามที่คนบนเรือ กล่าวอ้างจริง
‘โบทีเค’แฉมีคนบิดเบือน
ขณะที่ตัวละครสำคัญอีกคน นั่นก็คือ โบ ไทรอัมพ์คิงดอม สุรัตนาวี ภัทรานุกุล ที่ได้รับแจ้งเหตุแตงโมตกเรือ เป็นคนแรกๆ ก็เข้าพบตำรวจเพื่อให้ข้อมูลในฐานะพยานเมื่อบ่ายวันที่ 3 มี.ค. พร้อมเปิดเผยว่า รู้เรื่องเพราะกระติกโทร.บอกในคืนวันเกิดเหตุ ซึ่งน่าจะเป็นเพราะที่โบสถ์คริสต์ที่เราอยู่ ใครมีปัญหาดึกดื่น ก็จะโทร.หาโบ เมื่อทราบเรื่องก็เดินทางไปที่อู่เรือ NBC เจอทุกคนที่อยู่ในข่าว มีอาการตกใจ ช็อก หน้าแดง เสียงดัง โวยวาย เสียงแหบ
เมื่อถึงอู่เรือ คำแรกถามกระติกว่าโทร.หาเบิร์ดหรือยัง โทร.หาแม่ หรือยัง กระติกบอกไม่ได้โทร. จึงย้ำว่าต้องโทร. ส่วนสาเหตุที่กระติก ไม่ได้โทร. ก็ตามที่กระติกพูด
หลังจากตรงนั้นขับรถของแตงโม ไปส่งกระติกที่บ้าน เพราะกระติกมีอาการช็อกและขับรถไม่ไหว ตอนไปส่งกระติกมีการ พูดคุยกัน 1 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถบอกสื่อได้
ยอมรับว่าเป็นคนไลน์บอกว่าไม่ต้องบอกว่าแตงโมไปฉี่ท้ายเรือ เพราะตอนนั้นมีข้อมูลแค่นั้น แถมทุกคนก็ไม่ได้เห็นแตงโมไปฉี่ มีเพียงแซนเท่านั้น และที่ต้องออกมาพูดเพราะคำพูดที่กระติก ไปออกรายการ ขัดแย้งจากที่ตนรับรู้
พร้อมเตือนกระติกว่า The truth will set you free สัจจะทำให้คุณเป็นไท ความจริงเท่านั้นที่จะปกป้องคุณได้
อย่างไรก็ตาม แม้เจ้าหน้าที่จะยังไม่สรุปคดี แต่นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน แม่ของแตงโมก็ยืนยันแล้วว่าให้อภัย ปอ-ตนุภัทร และเบิร์ต-ไพบูลย์ ศรีกาญจนานันท์ แล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเป็นคนที่มีความจริงใจ ติดต่อโทรศัพท์หาตลอดทุกวัน เป็นคนที่สุภาพมากที่สุด พร้อมจะได้รับค่าปลงศพ หรือค่าทำขวัญ จากปอและเบิร์ต โดยระบุว่าเจ้าตัวบอกว่าเป็นเงินเท่าไหร่ให้คูณมา ยินดีให้
หมายถึงว่าแตงโมเล่นละครได้เรื่องละ 8 แสน-1 ล้านบาท ก็คิดไปว่าจะมีอายุอีกสักเท่าไหร่ ถ้ามีชีวิตอีก 30 ปีก็คูณไปเป็น 30 ล้านบาท ทั้งที่แตงโมยังอยู่ก็จะได้เงินมากกว่านี้อยู่แล้ว นี่ยังไม่คิดค่าถ่ายแบบ ถ่ายรูปอะไรอีก
และพร้อมจะแถลงต่อศาลว่าได้รับเยียวยาแล้ว แต่เรื่องของคดีจะเป็นอย่างไรก็เป็นเรื่องของกระบวนการ
อย่างไรก็ตาม แม้แม่ของแตงโมจะไม่ติดใจ และให้อภัยทั้งคู่ แต่กระบวนการยุติธรรมก็ต้องดำเนินต่อไป
คลี่คลายข้อเท็จจริงในเรือวันนั้นว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ซึ่งหวังว่า จะมีบทสรุปเร็วๆ นี้
อย่างน้อยก็เพื่อให้เป็นความยุติธรรมกับผู้เสียชีวิต!!